ระบบขนส่งด้วยรถยนต์ไฟฟ้า สร้างจุดเด่นด้านความยั่งยืนให้ธุรกิจได้
ต้องยอมรับว่าแนวคิดด้านความยั่งยืนสำหรับยุคนี้ ไม่ใช่กิมมิกด้านการตลาดอีกต่อไป แต่กำลังก้าวเข้าไปเป็นซิกเนเจอร์หนึ่งของทุกองค์กร ตอนนี้มีกลุ่มธุรกิจน้อยใหญ่ทั่วโลกหันมาลงทุนในพลังงานสะอาดกันอย่างจริงจังมากขึ้น ควบคู่ไปกับการลดใช้พลังงานเชื้อเพลิง และลดการก่อมลพิษ เช่น Amazon Meta Google เป็นต้น ดังนั้น การที่ธุรกิจจะก้าวเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคยุคใหม่ได้นั้น จึงไม่ใช่แค่การตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ต้องตอบโจทย์การแก้ปัญหาให้โลกและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปได้ด้วย โดยหนึ่งในเครื่องมือใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจจากธุรกิจต่าง ๆ คือการเลือกใช้ระบบขนส่งด้วยรถยนต์ไฟฟ้า ที่จะเข้ามาช่วยลดการใช้น้ำมันและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่สิ่งแวดล้อม
IKEA ตัวอย่างความสำเร็จ
ถามว่าทำไม SME ถึงควรวางแผนธุรกิจมาในทิศทางนี้ คำตอบที่น่าสนใจคือ มีบริษัทรายใหญ่บางบริษัทวางรากฐานการใช้ระบบขนส่งด้วยรถยนต์ไฟฟ้าเป็นตัวอย่างไว้ดีมาก เช่น อิเกีย (IKEA) และ โลตัส (Lotus’s) หากผู้ประกอบการรายอื่น ๆ เลือกใช้แนวทางนี้ ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนให้ระบบขนส่งด้วยรถยนต์ไฟฟ้ายิ่งเติบโต ใครเริ่มก่อนก็มีโอกาสสร้างจุดเด่นด้านความยั่งยืนให้ธุรกิจได้ก่อนด้วย แน่นอนว่าอาจมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่กล้าลงทุน แต่อิเกียกลับเป็นธุรกิจรายแรก ๆ ที่เข้ามาบริหารจัดการข้อจำกัดตรงนี้เพื่อก้าวไปสู่คอนเซปต์ “100% Electric Home Delivery” หรือการจัดส่งสินค้าถึงบ้านผู้บริโภคด้วยระบบขนส่งรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบได้สำเร็จ
ระบบขนส่งสินค้าของอิเกียเป็นการใช้บริการจากบริษัทภายนอก จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะโน้มน้าวให้บริษัทเหล่านั้นเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าในการขนส่งสินค้า เพราะมีเรื่องต้นทุนทางตรงอย่างราคารถยนต์ไฟฟ้า ต้นทุนทางอ้อมอย่างสถานีชาร์จไฟฟ้าและการซ่อมบำรุงเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น อิเกียจึงเดินหน้าจับมือกับ Fluid Truck ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเช่ารถบรรทุกไฟฟ้า 24 ชั่วโมง และจ่ายค่าบริการตามจริง จึงทำให้กลุ่มบริษัทขนส่งยินดีที่จะหันมาใช้การขนส่งสินค้าด้วยรถยนต์ไฟฟ้าของ Fluid Truck ตามนโยบายของอิเกีย นอกจากนี้ อิเกียยังสร้างสถานีชาร์จด้วยตนเอง เพื่อความสะดวกและลดต้นทุน ปัจจุบันระบบขนส่งด้วยรถยนต์ไฟฟ้าของอิเกียประสบความสำเร็จ 100% ในนิวยอร์ก กำลังเตรียมขยายเฟสต่อไปยังลอสแอนเจลิส และตั้งเป้าจะทำให้สำเร็จทั่วโลกในปี ค.ศ. 2025
ระบบขนส่งด้วยรถยนต์ไฟฟ้าในไทย
ย้อนกลับมาเมืองไทย ระบบขนส่งด้วยรถยนต์ไฟฟ้าก็เริ่มนำมาใช้กับธุรกิจค้าปลีกอย่างโลตัสเป็นรายแรก โดยมีการร่วมมือกับบริษัท Kuehne+Nagel นำรถบรรทุกไฟฟ้าเข้ามาใช้กับระบบขนส่งสินค้าของโลตัส เป้าหมายหลักคือ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อก้าวไปสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ จะเห็นว่ากลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งและรถบรรทุกไฟฟ้าในเมืองไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น รถแบรนด์ EVO ที่ทางบริษัท ไทยอีวี จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจ SMEs ได้นำเข้ามาให้บริการแก่ภาคธุรกิจของไทยทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ก็เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการขนส่งด้วยรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับตามอง เพราะมีรถหลากหลายรูปแบบรองรับกลุ่มธุรกิจที่มีความแตกต่างกันออกไป หรือแม้แต่ธุรกิจขนส่งสินค้าโดยตรงอย่าง FedEx Express และไปรษณีย์ไทย ก็เริ่มเปลี่ยนมาให้บริการด้วยรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น หาก SME จะขยายธุรกิจในด้านบริการขนส่งสินค้าด้วยรถยนต์ไฟฟ้า ก็น่าจะมีโอกาสเติบโตได้อย่างแน่นอน
ดังนั้น หากธุรกิจ SME ที่มีปริมาณการขนส่งสินค้าจำนวนมาก หันมาใช้บริการรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ไม่เพียงสร้างจุดยืนด้านการส่งเสริมพลังงานสะอาดและความยั่งยืน แต่ยังมีส่วนช่วยขับเคลื่อนให้ระบบขนส่งด้วยรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตมีต้นทุนที่ถูกลง และเข้าถึงบริการได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย
