
มุ่งสู่การเติบโตร่วมกันในระยะยาว
ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งในด้านเทคโนโลยี โครงสร้างของสังคม การบริโภคที่เปลี่ยนไป และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบต่อการดำเนินงานของธนาคาร การดำเนินธุรกิจของลูกค้าธนาคาร เชื่อมโยงไปถึงระบบเศรษฐกิจโดยรวม ดังนั้นการผนวกปัจจัยด้านความยั่งยืนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ประกอบการตัดสินใจในกิจกรรมทางธุรกิจ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในทุกองค์กร
กรุงไทย ในฐานะสถาบันการเงินของคนไทย ตระหนักถึงบทบาทและความรับผิดชอบที่มีต่อสังคม ตามวิสัยทัศน์ ‘เคียงข้างไทยสู่ความยั่งยืน’ ภายใต้วิสัยทัศน์ดังกล่าว ธนาคารได้ผนวกประเด็นด้านธรรมาภิบาล สังคม สิ่งแวดล้อมเข้าไปในกระบวนการการดำเนินธุรกิจ ครอบคลุมไปถึงกิจกรรมทางการเงินต่าง ๆ ของธนาคาร ให้สอดคล้องกับแนวทางด้านการธนาคารเพื่อความยั่งยืนทั้งระดับประเทศและระดับสากล (Sustainable Banking) โดยมีจุดประสงค์เพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำอย่างเป็นระบบ และสร้างสังคมที่มีคุณภาพ โดยมุ่งเน้นการป้องกันผลกระทบเชิงลบที่จะเกิดขึ้น และการส่งเสริม ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน และผู้ถือหุ้น ในการดำเนินธุรกิจไปในทิศทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรับมือความท้าทาย พร้อมไปกับสร้างโอกาสทางธุรกิจผ่านการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปลี่ยนผ่านไปพร้อมกัน
นโยบายการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบของธนาคารกรุงไทย (Responsible Lending Policy)
เพื่อให้มั่นใจว่าสินเชื่อที่สนับสนุนโดยกรุงไทยมีการมบริหารจัดการผลกระทบและประเด็นความเสี่ยง ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล อย่างมีประสิทธิภาพ ธนาคารได้จัดทำแนวทางการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Lending) บูรณาการการพิจารณาประเด็นความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพิจารณาสินเชื่อ โดยธนาคารได้นำกรอบการดำเนินการสินเชื่อโครงการยั่งยืนระดับสากลอย่าง Equator Principles และมาตรฐานการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและ สังคมของบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (International Finance Corporation: IFC) มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับการดำเนินงานของธนาคาร เพื่อเป็นกรอบในการพิจารณาสินเชื่อประเภทต่าง ๆ ของธนาคาร อาทิ สินเชื่อโครงการ (Project Finance) สินเชื่อเพื่อธุรกิจ (Corporate Finance)
กรุงไทยได้กำหนดประเภทของสินเชื่อที่จะไม่ให้การสนับสนุนสินเชื่อ (Exclusion List) ไว้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งพัฒนาแนวทางในการพิจารณาสินเชื่อให้กับอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ (Inclusion List) กำหนดแนวทางเพื่อผลักดันให้เกิดการดําเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างคุณค่าแก่สังคม รวมไปถึงกำหนดแนวปฏิบัติในการพิจารณาสินเชื่อสำหรับอุตสาหกรรมเฉพาะหรือกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูง (Sector Specific Guidelines) โดยมีการติดตามผล และมีการทบทวนกระบวนการเพื่อสร้างการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงขยายขอบเขตการดำเนินงานด้านการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ ให้มีความครอบคลุมมากขึ้น
สินเชื่อที่ธนาคารไม่ประสงค์ให้การสนับสนุน (Exclusion List)
ธนาคารกำหนดให้มีการพิจารณาตั้งแต่ลักษณะของผู้ขอสินเชื่อ ประเภทธุรกิจหรือโครงการที่ลูกค้าดำเนินการอยู่ โดยสินเชื่อที่ธนาคารไม่ประสงค์ให้การสนับสนุน ดังนี้
- ธุรกิจผิดกฎหมาย หรือขัดต่อศีลธรรม หรือขัดต่อบรรษัทภิบาลหรือการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance)
-
ธุรกิจหรือโครงการต่าง ๆ ที่มีผลกระทบในการทำลายสภาพแวดล้อมหรือเป็นการบุกรุกทำลายระบบนิเวศหรือพื้นที่อนุรักษ์ทางวัฒนธรรมหรือโบราณสถานที่สำคัญ ได้แก่
2.1 พื้นที่ในเขตป่าชายเลน หรือพื้นที่อนุรักษ์ทางธรรมชาติ พื้นที่อุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ ตาม ประกาศหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
2.2 พื้นที่แหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage Sites) ตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย และ/หรือ ที่มีลักษณะเดียวกันในที่อื่น ๆ
2.3 พื้นที่อนุรักษ์ตามอนุสัญญาแรมซาร์ว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ (Ramsar Convention on Wetlands) ตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย และ/หรือ ที่มีลักษณะเดียวกันในที่อื่น ๆ รวมถึงโครงการเกษตรกรรมที่แปลงมาจากพื้นที่ชุ่มน้ำ ป่าพรุ หรือพื้นที่อื่น ๆ ที่กักเก็บคาร์บอนในระดับสูง (High-carbon Stock)
2.4 พื้นที่คุ้มครองของ International Union for Conservation of Nature: IUCN (IUCN Protected Area Category) ตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย และ/หรือ ที่มีลักษณะเดียวกันในที่อื่น ๆ - การค้าสัตว์ป่าและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าคุ้มครองภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora: CITES)
- ธุรกิจที่เป็นการกักตุนสินค้าเพื่อการเก็งกำไรหรือมีพฤติกรรมส่อไปในทางการกักตุน สินค้าเพื่อเก็งกำไร (Corner Market) ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ หรือที่ขัดต่อประกาศข้อกำหนดของหน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้อง
- ธุรกิจที่เกี่ยวกับการผลิตหรือค้าอาวุธสงคราม เช่น ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-personal Land Mines) รวมถึงส่วนประกอบสำคัญของทุ่นระเบิดสังหารบุคคล การผลิต การพัฒนา การบำรุงรักษา การทดสอบ การกักตุน และการค้าระเบิดลูกปราย (Cluster Munitions) รวมถึงส่วนประกอบสำคัญของระเบิดลูกปราย การผลิต การพัฒนา การบำรุงรักษา การทดสอบ การกักตุน และการค้าระบบอาวุธอัตโนมัติรุนแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems: LAWS) รวมถึงส่วนประกอบที่ออกแบบมาสำหรับ LAWS ทั้งนี้ สำหรับสินค้าที่สำคัญสำหรับเป้าหมายทางการทหาร แต่ยังสามารถใช้เป็นผลิตภัณฑ์พลเรือน (สินค้า 'dual-use') ธนาคารจัดประเภทสินค้าชนิดนี้เป็นสินค้าทางทหาร เมื่อมีเป้าหมายที่ไม่ใช่เป้าหมายทางพลเรือน และธนาคารไม่ยอมรับการส่งอาวุธและระบบส่งอาวุธ ระบบลำเลียงทางการทหาร และสินค้าทางทหารอื่น ๆ ไปยังคู่ขัดแย้งที่มีส่วนร่วมในความรุนแรง ยกเว้นว่าเป็นฝ่ายที่กำลังทำตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN Security Council) และไม่ยอมรับการส่งอาวุธและระบบส่งอาวุธ ระบบลำเลียงทางการทหาร และสินค้าทางทหารอื่น ๆ ไปยังประเทศที่ใช้เงินงบประมาณมากเกินสัดส่วนที่สมควรไปกับการซื้ออาวุธ รวมถึงบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการส่งอาวุธและระบบส่งอาวุธ ไปยังประเทศที่ถูกห้ามส่งสินค้าเข้าโดยองค์การสหประชาชาติ หรือองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ ประเทศที่อ่อนไหวต่อการทุจริตคอร์รัปชัน ประเทศที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง และประเทศที่รัฐล้มเหลวหรือเปราะบางรวมถึงหากธนาคารพบว่ามีความเสี่ยงสูงที่อาวุธเหล่านั้นจะถูกใช้ในการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมอย่างรุนแรง (ยกเว้น หน่วยงานราชการไทย หรือเพื่อส่งให้หน่วยงานราชการไทย)
- ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือโครงการที่มีความเสี่ยงทางสังคม เช่น การใช้แรงงานเด็ก แรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย แรงงานที่ถูกบังคับ เป็นต้น
-
ธุรกิจหรือโครงการที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่
7.1 การผลิตสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและวัชพืช การผลิตวัสดุกัมมันตรังสี การผลิตสารที่ทำลายชั้นบรรยากาศ ที่ขัดต่อกฎหมายหรืออนุสัญญา/ข้อตกลงในระดับสากล (เช่น การห้ามมิให้มีการผลิต การนำเข้า การส่งออก หรือมีไว้ครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และการห้ามพัฒนา ผลิต สะสมอาวุธเคมี ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2544 หรือ สารเคมีอันตรายต้องห้ามหรือจำกัดการใช้อย่างเข้มงวด ตามอนุสัญญารอตเตอร์ดัม หรือ สารเคมีที่เป็นสารมลพิษตกค้างยาวนาน ตามอนุสัญญาสตอกโฮล์ม เป็นต้น)
7.2 ธุรกิจปรับปรุงคุณภาพของเสีย (การรวบรวม การบำบัด และการกำจัดของเสีย) ที่เป็นอันตราย หรือกากสารกัมมันตรังสี
7.3 ธุรกิจเหมืองแร่ถ่านหิน หรือธุรกิจการค้าถ่านหิน ยกเว้นธุรกิจที่มีการควบคุม Carbon Emission
7.4 ธุรกิจพลังงานนิวเคลียร์ - ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการล็อบบี้ ทั้งทางตรงและทางอ้อม (พยายามส่งอิทธิพลต่อการตัดสินใจของหน่วยงานกำกับดูแล) ที่พุ่งเป้าไปยังการทำให้นโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอ่อนแอลง
นอกจากนี้ ธนาคารมีการกำหนดแนวทางการพิจารณาสินเชื่อระดับส่วนบุคคลอย่างชัดเจน โดยจะไม่สนับสนุนการให้สินเชื่อแก่บุคคล ดังนี้
- บุคคลที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด
- ผู้มีอิทธิพลมืด
- บุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือไร้ความสามารถ
- บุคคลที่สังคมพึงรังเกียจ เช่น เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง เป็นโรคติดต่อร้ายแรง และนักการพนัน เป็นต้น
สินเชื่อสำหรับอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ (Inclusion List)
เพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ ธนาคารสนับสนุนการให้สินเชื่อกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่มีศักยภาพตามที่ธนาคารกำหนดและสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาความยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ประเทศภายใต้แนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG Model)
- อุตสาหกรรม Health Care ได้แก่ ธุรกิจผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ ธุรกิจผลิตยา และผลิตภัณฑ์ยางทางการแพทย์ และธุรกิจห้อง Lab
- อุตสาหกรรมโรงพยาบาลเอกชน
- อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนอุปกรณ์สําหรับยานยนต์ไฟฟ้า
- อุตสาหกรรมอาหารเพื่ออนาคต ได้แก่ ธุรกิจผลิต Functional Food, Organic, Plant- Based Food, Enriched Drink
- อุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ (Solar) หรือพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
** อุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ธนาคารอาจจะมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมในภายหลัง เพื่อให้การขับเคลื่อนเกิดการดําเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างคุณค่าแก่สังคม เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และสอดรับกับแนวทางของประเทศและระดับสากล
สินเชื่อสำหรับอุตสาหกรรมเฉพาะ (Sector Specific Guidelines)
เพื่อให้การบริการความเสี่ยงทั้งระดับทั้งในระดับเครดิตพอร์ตโฟลิโอและระดับธุรกรรมของธนาคาร ให้สอดคล้องกับเป้าหมายระดับโลกที่จะมุ่งเปลี่ยนแปลงสู่ระบบเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ธนาคารกำหนดให้มีแนวทางเพิ่มเติมในการพิจารณาประเด็นผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมมภิบาลสำหรับธุรกิจหรือโครงการที่อาจจะส่งผลกระทบ ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และชีวอนามัยชุมชน อย่างมีนัยสำคัญโดยธุรกิจหรือโครงการจะต้องได้รับอนุญาตหรือผ่านการจัดทํารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment: EIA) หรือ การวิเคราะห์ ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (Environmental Health Impact Assessment: EHIA) ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกําหนด โดยบริษัทที่ธนาคารให้การสนับสนุนทางการเงิน ต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้สุขภาพของลูกจ้าง ลูกค้า และชุมชนใกล้เคียงถูกลิดรอนโดยผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการผลิตของบริษัท (ตามหลักความรอบคอบ - precautionary principle)
นอกจากนั้น ผู้ขอสินเชื่อที่ระบุอยู่ในอุตสาหกรรมเฉพาะต้องมีการแสดงเอกสารหรือข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการและมาตรฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการประเด็นด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับลักษณะธุรกิจ เช่น มาตรการ มาตรฐานที่ได้รับการยอมรับระดับสากล (ISO) แผนงานหรือแนวทางการป้องกันดูแลด้าน ESG เป็นต้น
- อุตสาหกรรมปิโตรขั้นต้น ได้แก่ การขุดเจาะนํ้ามันดิบและก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น และอุตสาหกรรมปิโตรขั้นกลาง ได้แก่ โรงกลั่นนํ้ามันและปิโตรเลียม เป็นต้น
- อุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน (Fossil)
- อุตสาหกรรมปรับปรุง หรือปรับคุณภาพของเสียทุกประเภท (การรวบรวม การบําบัด และการกําจัดของเสีย) ที่เป็นอันตรายหรือกากสารกัมมันตรังสี
- อุตสาหกรรมเหมืองแร่ รวมถึงธุรกิจเหมืองแร่ถ่านหิน หรือธุรกิจการค้าถ่านหิน
- อุตสาหกรรมการผลิตโลหะทุกประเภท
- อุตสาหกรรมการผลิตสารเคมี และวัตถุอันตราย
- อุตสาหกรรมการเกษตร (เพาะปลูก)
** อุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ธนาคารอาจจะมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมในภายหลังเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงระดับเครดิตพอร์ตโฟลิโอและระดับธุรกรรมตามนัยสำคัญ และบริบทที่เปลี่ยนไป
กระบวนการพิจารณาสินเชื่อและการคัดกรองความเสี่ยงด้าน ESG (ESG Integration in Loan Screening Process)
ในกระบวนการพิจารณาให้สินเชื่อของธนาคาร ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อโครงการ สินเชื่อเพื่อธุรกิจ และสินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารได้ผนวกประเด็นด้าน ESG เข้าไปในกระบวนการคัดกรอง เพื่อประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลกระทบในแต่ละด้านของ ESG โดยจะต้องผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับที่ธนาคารกำหนดไว้ ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ รวมทั้งเมื่อได้รับวงเงินสินเชื่อแล้ว จะมีการติดตามการใช้วงเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเงื่อนไขและมีการทบทวนวงเงินสินเชื่อตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าได้ดำเนินการในการบริหารจัดการประเด็นด้าน ESG อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามข้อกำหนด ตลอดระยะเวลาของการกู้ยืม
ผลการดำเนินการปี 2565 และเป้าหมายการดำเนินงาน
ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในปี 2565 และแผนการดำเนินการ สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความมุ่งมั่นในการเป็นส่วนสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านอย่างเป็นระบบ