สิ่งต้องรู้ก่อนกู้เงินสร้างบ้าน อยากกู้สร้างบ้านต้องอ่าน
ไม่มีสถานที่ใดอุ่นใจเท่าบ้านเรา เหตุผลของคนอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง เพราะการมีบ้านช่วยสร้างความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัย สามารถตกแต่งบ้านได้ตามใจ และยังเป็นทรัพย์สินที่ส่งต่อไปยังลูกหลาน แต่ความฝันของการมีบ้านจะกลายเป็นความจริงอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะต้องวางแผนอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะการกู้เงินสร้างบ้าน
สินเชื่อบ้านคืออะไร?
สินเชื่อบ้าน คือ การกู้เงินสร้างบ้านที่สถาบันการเงินหรือธนาคารให้แก่บุคคลทั่วไปเพื่อใช้ในการซื้อบ้าน สร้างบ้าน ปรับปรุงหรือซ่อมแซมบ้าน รวมถึงการซื้อที่ดินเพื่อสร้างบ้าน โดยใช้ที่ดินและบ้านที่จะสร้างเป็นหลักประกัน สินเชื่อประเภทนี้แตกต่างจากสินเชื่อบ้านทั่วไปตรงที่เป็นการกู้เพื่อสร้างบ้านใหม่ ไม่ใช่ซื้อบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว โดยลักษณะเฉพาะของสินเชื่อสร้างบ้าน ได้แก่
- วงเงินกู้สูง สามารถกู้ได้ถึง 80-100% ของราคาประเมิน
- ระยะเวลากู้ยืมยาว มีระยะเวลาผ่อนชำระระหว่าง 15-30 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของธนาคารและอายุผู้กู้
- การเบิกจ่ายเป็นงวด ธนาคารจะปล่อยเงินกู้เป็นงวด ๆ ตามความคืบหน้าของการก่อสร้าง
- อัตราดอกเบี้ยที่หลากหลาย มีทั้งอัตราดอกเบี้ยคงที่และลอยตัว
- ต้องมีแบบแปลนและใบอนุญาตก่อสร้าง เป็นเอกสารสำคัญในการพิจารณาสินเชื่อ
ทำไมถึงควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนกู้สินเชื่อบ้าน
การกู้เงินสร้างบ้านเป็นทางเลือกที่ทำให้มีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ควรศึกษาข้อมูลและวางแผนให้รอบคอบก่อนกู้สินเชื่อบ้าน เพราะการกู้เงินสร้างบ้านเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนกว่าการกู้ซื้อบ้านแบบทั่วไป เนื่องจากธนาคารต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่างนอกเหนือจากความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ เช่น แบบบ้าน ผู้รับเหมา และความเป็นไปได้ของโครงการก่อสร้าง การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อและทำให้กระบวนการกู้เงินสร้างบ้านราบรื่นมากขึ้น หลีกเลี่ยงปัญหาทางการเงินในอนาคต
เหตุผลที่ทำให้คนส่วนใหญ่กู้บ้านไม่ผ่าน
การกู้สินเชื่อบ้านไม่ผ่านเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ซึ่งมักเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการพิจารณาของธนาคาร
- ความมั่นคงทางรายได้ ธนาคารมักประเมินความสามารถในการผ่อนชำระจากรายได้สุทธิของผู้กู้ หากรายได้ต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับค่างวดที่ต้องชำระก็อาจถูกปฏิเสธได้ รวมถึงกรณีไม่มีรายได้ประจำหรือรายได้ไม่สม่ำเสมอ เช่น ฟรีแลนซ์ที่ไม่มีเอกสารยืนยันรายได้ชัดเจน
- ภาระหนี้สิน หากผู้กู้ยืมมีภาระหนี้สินอื่น เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต หรือสินเชื่อรถยนต์ และค่างวดรวมเกิน 40%-50% ของรายได้จะส่งผลธนาคารปฏิเสธการกู้
- ประวัติทางการเงินไม่ดี หากผู้กู้เคยมีประวัติค้างชำระหนี้หรือผิดนัดชำระในอดีต ธนาคารจะมองว่าเป็นความเสี่ยงได้
- เอกสารไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง การยื่นเอกสารไม่ครบ เช่น สลิปเงินเดือน รายการเดินบัญชี หรือเอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ซื้อ รวมถึงเอกสารข้อมูลส่วนตัวไม่ถูกต้อง เช่น ชื่อผิด หรือข้อมูลไม่ตรงกับทะเบียนบ้านก็มีสิทธิที่ทำให้การกู้บ้านไม่ผ่าน
5 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนกู้สร้างบ้าน
รู้สถานะทางการเงิน
ควรประเมินสถานะทางการเงินของตัวเองด้วยการคำนวณรายได้และหนี้สิน ตรวจสอบรายได้สุทธิและภาระหนี้สินที่มีอยู่ เช่น ค่างวดรถหรือบัตรเครดิต โดยวางแผนงบประมาณการก่อสร้างอย่างละเอียด คำนวณหาราคาที่ต้องกู้สร้างบ้านว่าควรเป็นเท่าไหร่ แยกค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทั้งค่าวัสดุก่อสร้าง ค่าจ้างแรงงาน ค่าออกแบบ และค่าดำเนินการอื่น ๆ ทั้งนี้ควรสำรองงบฉุกเฉิน โดยเผื่อเงินไว้ประมาณ 10%-15% ของงบก่อสร้างทั้งหมด กรณีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
รู้กำลังในการผ่อน
งบประมาณในการสร้างบ้านขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของบ้าน ทำเล วัสดุที่ใช้ ค่าแรงก่อสร้าง ที่ต้องคำนวณออกมา เพื่อนำมาประเมินความสามารถในการผ่อนชำระ โดยธนาคารมักกำหนดให้ค่างวดที่ผ่อนชำระไม่เกิน 40%-50% ของรายได้ต่อเดือน การเลือกระยะเวลาผ่อนที่เหมาะ เช่น 15-30 ปีจะส่งผลต่อค่างวดที่ต้องจ่าย โดยต้องวางแผนว่าจะผ่อนชำระเงินกู้สร้างบ้านก้อนนี้จากธนาคารอย่างไร จะแบ่งเงินผ่อนออกเป็นกี่งวด ระยะเวลากี่ปี และจำนวนเงินที่ต้องผ่อนจ่ายต่อเดือน
รู้แหล่งเงินกู้สุดเซฟ
กู้เงินสร้างบ้านต้องมองหาแหล่งเงินกู้ที่ตรงกับคุณสมบัติ โดยเฉพาะสถาบันการเงินที่มีความมั่นคงและมาพร้อมกับข้อเสนอที่น่าสนใจ หากลองเปรียบเทียบข้อเสนอของสินเชื่อเงินกู้สร้างบ้านจะเห็นว่าบางแห่งอัตราดอกเบี้ยบ้านต่างกัน ซึ่งจะทำให้มีผลต่อระยะเวลาในการชำระหนี้ และยอดการผ่อนชำระในแต่ละเดือน
รู้จักเอกสารประกอบการกู้สร้างบ้าน
ขั้นตอนการเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการกู้เงินสร้างบ้าน ควรเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้
- เอกสารส่วนตัว ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี) ทะเบียนสมรส (ถ้ามี) เป็นต้น
- เอกสารแสดงรายได้ ได้แก่ สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน รายการเดินบัญชีธนาคาร เป็นต้น
- เอกสารหลักประกัน ได้แก่ สำเนาโฉนดที่ดิน สัญญาว่าจ้าง ใบอนุญาตปลูกสร้าง แบบพิมพ์เขียวที่ได้รับอนุญาตจากทางราชการ, เอกสารประมาณราคาค่าก่อสร้าง เป็นต้น
รู้กฎหมายลดหย่อนภาษี
สำหรับเงินกู้สร้างบ้านสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาท ยกเว้นกรณีที่มีผู้กู้ร่วม สิทธิประโยชน์ก็จะเฉลี่ยกันออกไปจากวงเงิน 100,000 บาทนี้ เช่น เมื่อมีผู้กู้ร่วม 2 คน ก็จะได้สิทธิลดหย่อนภาษีคนละ 50,000 บาท การรู้กฎหมายลดหย่อนภาษีจึงเป็นเรื่องสำคัญ
เทคนิคเลือกธนาคารเพื่อกู้เงินสร้างบ้าน
อีกหนึ่งขั้นตอนของการวางแผนกู้เงินสร้างบ้าน คือ การเลือกธนาคารเพื่อกู้เงินสร้างบ้าน เพราะการเลือกธนาคารยื่นกู้ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ตลอดทางการก่อสร้างและตลอดระยะเวลาผ่อนชำระดำเนินไปอย่างราบรื่น ได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด และลดภาระทางการเงินในระยะยาว โดยพิจารณาจาก
- อัตราดอกเบี้ย ควรเลือกธนาคารที่ให้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ต่ำกว่า ซึ่งเหตุผลที่ต้องพิจารณาดอกเบี้ยตลอด 3 ปี เพราะเป็นระยะเวลาที่สามารถรีไฟแนนซ์เปลี่ยนเจ้าหนี้ได้ เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอีกต่อ
- วงเงินกู้ ควรเลือกธนาคารที่ให้วงเงินกู้สูงหรือพอเพียงกับการก่อสร้าง ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีวิธีการประเมินแตกต่างกันในรายละเอียด โดยส่วนปัจจัยหลักที่จะทำให้ได้วงเงินกู้สูง คือ ความน่าเชื่อถือทางการเงินของผู้กู้ และหลักประกัน
- บริการและความรวดเร็ว ควรเลือกธนาคารที่ให้บริการรวดเร็วเพื่อให้ขั้นตอนตลอดการยื่นกู้ราบรื่น เช่น การให้ข้อมูล การติดตามความคืบหน้าระหว่างกู้ ความชัดเจนในการดำเนินงาน รวมทั้ง ความรวดเร็วในกระบวนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่ผู้ยื่นกู้จะได้ทราบคำตอบว่าได้หรือไม่ได้ และสามารถดำเนินงานก่อสร้างได้ตามแผน
การกู้เงินสร้างบ้านจะช่วยให้ความฝันของคนอยากมีบ้านเป็นของตัวเองสามารถเป็นความจริงได้ โดยต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับดำเนินการกู้เงินสร้างบ้าน ทั้งการวางแผนทางการเงิน การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน การขอเงินกู้ที่เหมาะสมกับรายได้ รวมถึงการเลือกธนาคารที่เหมาะสม
ธนาคารกรุงไทยพร้อมสนับสนุนคนอยากมีบ้าน ด้วยสินเชื่อบ้านกรุงไทย สินเชื่อกู้สร้างบ้านที่อนุมัติไว ให้ระยะเวลากู้สูงสุดถึง 40 ปี พร้อมวงเงินกู้ที่ให้มากถึง 100% ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับกู้เงินซื้อบ้านมือหนึ่ง บ้านมือสอง ซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างบ้าน หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.krungthai.com
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
*อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 5.18% - 5.36% ต่อปี
*สมมติฐานการคำนวณจากวงเงินกู้ 1 ล้านบาท อายุสัญญา 20 ปี ผ่อนชำระ 7,600 บาท/เดือน | MLR = 6.925% ต่อปี (ณ วันที่ 1 พ.ย. 67) | อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ | เงื่อนไขและหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด