รายงานความยั่งยืน

สำหรับชุมชนของเรา

กรอบการดำเนินงานการสร้างคุณค่าร่วมกับสังคม (CSV Framework)
ธนาคารกรุงไทย เชื่อมั่นว่าชุมชนที่มีรากฐานทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งจะช่วยให้สมาชิกในชุมชนสามารถสร้างสรรค์ และดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ ขณะเดียวกันชุมชนสามารถเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน ธนาคารจึงได้ดำเนินโครงการเพื่อสนับสนุนการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยการส่งเสริมอาชีพที่สร้างรายได้ที่มีความมั่นคง ควบคู่ไปกับการสนับสนุนความรู้ด้านการเงิน ค่านิยม และทัศนคติด้านการเงินที่ดี เพื่อเพิ่มต้นทุนให้กับสมาชิกในชุมชน ได้มีทักษะและศักยภาพในการแก้ไขปัญหา และรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ ทั้งในระดับบุคคล และระดับชุมชน เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยธนาคารได้กำหนดแผน และแนวทางการปฏิบัติในการสร้างคุณค่าร่วมกับสังคมที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นใน 4 มิติ ดังนี้

  1. การพัฒนาชุมชนสู่การเป็นกิจการเพื่อสังคม 
  2. การสร้างผลกระทบเชิงบวก เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน 
  3. การสร้างสังคมที่ยั่งยืนผ่านการให้ความรู้ทางการเงิน
  4. การสร้างวัฒนธรรมจิตอาสาแก่พนักงาน และบุคคลทั่วไป


โครงการพัฒนากระบวนการทำงานร่วมกับชุมชน และโครงการต้นแบบชุมชนเพื่อความยั่งยืน
กิจกรรมส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพของชุมชนของธนาคารกรุงไทย ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายการพัฒนาชุมชนที่ครอบคลุมทุกมิติสำคัญ 4 ประการ ประกอบด้วย โครงการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนสู่การเป็นกิจการเพื่อสังคม การให้ความรู้ทางการเงินที่ยั่งยืน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยดำเนินงานควบคู่กับการสร้างจิตสาธารณะให้กับพนักงาน โดยใช้หลักการคำนึงถึงการจัดการกับความต้องการที่หลากหลายของมนุษย์ และใช้ชุมชนเป็นพื้นที่ที่สามารถแลกเปลี่ยนมุมมอง ความคิด และมีความเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน โดยธนาคารได้นำกระบวนการพัฒนาวิสัยทัศน์ที่ดีให้เกิดขึ้นกับคนในชุมชน สามารถคาดการณ์ และปรับเปลี่ยนความคิดที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต

วัตถุประสงค์ของโครงการ
  1. ในปี 2565 ธนาคารได้พัฒนาโครงการชุมชนต้นแบบ ที่มีแนวคิด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริการ วิธีการดำเนินธุรกิจ และกระบวนการพัฒนาชุมชนที่สะท้อนอัตลักษณ์ (Community Identity) และการบริหารจัดการโครงการแบบองค์รวมที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นจนจบ (End-to-End) เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ และต่อยอดการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนในอนาคต
  2. โครงการชุมชนต้นแบบ เน้นการสร้างเสริมศักยภาพผู้นำชุมชนด้วยการพัฒนาวิสัยทัศน์ การบริหารจัดการชุมชนอย่างมีกลยุทธ์ โดยใช้วิธีการ และขั้นตอนการทำงานแบบธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise Way: SE Way) เพื่อสร้างเครื่องมือ กระบวนการ การปรับเปลี่ยนวิธีคิด (Mindset) วิธีการดำเนินธุรกิจ และกระบวนการพัฒนาชุมชน โดยบูรณาการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเป็นระบบ
  3. ถอดบทเรียนแนวทางการทำงานร่วมกันกับชุมชน พัฒนากรณีศึกษาการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน และถ่ายทอดกระบวนการทำงานสู่การสร้างองค์ความรู้ในการบ่มเพาะธุรกิจชุมชนที่ยั่งยืนกับโครงการพัฒนาชุมชนอื่น ๆ ในอนาคต

แนวทางการบริหารงานด้านการพัฒนาศักยภาพของชุมชน

ธนาคารเชื่อว่า ชุมชนที่มีความยั่งยืนจะต้องมีการบริหารจัดการทุนมนุษย์ และสินทรัพย์ของชุมชน (Community Assets) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไปพร้อมกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้เพียงพอต่อคนรุ่นหลัง ดังนั้นในการดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนของธนาคาร จึงเป็นไปในรูปแบบของการบูรณาการ และการสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนในระยะยาว (Sustainable Community Development) ผ่านกระบวนการสร้างชุมชน ภายใต้โครงการ “กรุงไทยรักชุมชน” ที่มีองค์ประกอบในการดำเนินงาน ดังนี้

โดยธนาคาร ได้ร่วมพัฒนากระบวนการพัฒนาชุมชนกับกลุ่มธุรกิจเพื่อสังคม 6 บริษัท และผู้เชี่ยวชาญในแขนงต่าง ๆ ได้แก่
  1. Social Enterprise Thailand องค์กรศูนย์กลางของธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทย และผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคม และการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับการเติบโตของกิจการเพื่อสังคม
  2. อุทยานวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Science and Technology Park Chieng Mai University) เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการโครงการ และการบ่มเพาะธุรกิจชุมชน
  3. Local Alike เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน
  4. TP Packing Solution เชี่ยวชาญด้านการจัดการทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม (Holistic Sustainable Waste Management Solutions)
  5. Flow Folk เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญา และอัตลักษณ์ชุมชน
  6. Noburo เชี่ยวชาญด้านการแก้หนี้ การออมอย่างยั่งยืน ด้วยหลักความรู้คู่ทุน
  7. คุณปรารถนา จริยวิสาศกุล นักสร้างแบรนด์เพื่อสังคม และผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบกระบวนการเชิงกลยุทธ์
  8. คุณภานุวัฒน์ สัจจะวิริยะกุล นักพฤติกรรมศาสตร์ และนักเศรษฐศาสตร์ความสุข

ในการพัฒนากระบวนการดังกล่าว จำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการดำเนินงาน ซึ่งธนาคารกรุงไทย มีนโยบายหลักในการพัฒนาชุมชนให้สามารถดำเนินธุรกิจ และบริหารจัดการชุมชน โดยใช้สินทรัพย์ชุมชน องค์ความรู้ อัตลักษณ์ และวัฒนธรรมชุมชน เพื่อให้คงอยู่อย่างยั่งยืน โดยองค์ความรู้ที่ได้จากกระบวนการทำงานร่วมกับชุมชน และธุรกิจเพื่อสังคมที่ธนาคารเลือกเป็นพันธมิตรนั้น จะถูกถ่ายทอดในรูปแบบของการพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริง 2 ชุมชน คู่มือกระบวนการดำเนินงาน องค์ความรู้ที่ถูกนำมาใช้ รวมถึงองค์ประกอบในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรของธนาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องการบ่มเพาะ การประเมิน การติดตาม และการถ่ายทอดองค์ความรู้ในกับชุมชนอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต

PARTNERSHIP FOR BETTER SOCIETY AND ENVIRONMENT
โครงการกรุงไทยรักษ์สิ่งแวดล้อม

1. โครงการกรุงไทยรักษ์เกาะเต่า ระยะที่ 3

ในปี 2565 ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับ UNDP ประเทศไทย มูลนิธิรักษ์ไทย และเทศบาลตำบลเกาะเต่า ในการต่อยอดโครงการ Koh Tao, Better Together ผ่านโครงการ “กรุงไทยรักษ์เกาะเต่า ระยะที่ 3” ด้วยการพัฒนาเนื้อหา และกลไกทำงานร่วมกับชุมชนบนเกาะเต่า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความต่อเนื่อง และเป็นรูปธรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสมาชิกในชุมชนเกาะเต่า ผ่านการฟื้นฟู ดูแลรักษา และการวางแผนการใช้ประโยชน์จากทรัพยากร และความหลากหลายทางชีวภาพ และกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน สร้างความมั่นคงด้านการประกอบอาชีพ รวมทั้งการจัดตั้งกองทุนเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของชุมชนเกาะเต่า

หลักการดำเนินโครงการ “กรุงไทยรักษ์เกาะเต่า ระยะที่ 3
ธนาคารได้กำหนดเป้าหมาย และหลักการดำเนินโครงการร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ในการสร้างโมเดล และกลไกทางการเงิน เพื่อเสริมอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับชุมชนชาวเกาะเต่า โดยมีกรอบการดำเนินงาน และตัวชี้วัดการดำเนินงาน ดังนี้

2. โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำตามแนวพระราชดำริด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

จากแนวคิดเรื่องการพัฒนาประเทศให้เกิดความมั่นคง และยั่งยืน ที่มาจากการสร้างรากฐานของชุมชนให้แข็งแกร่ง มีการส่งต่อมรดกทางสังคม และคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติให้กับคนรุ่นต่อไป ธนาคารจึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมโครงการพัฒนาระบบน้ำ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิต การมีสุขภาพที่แข็งแรง ตลอดจนการใช้น้ำเพื่อก่อให้เกิดรายได้ และความเป็นอยู่ที่ดี โดยการสนับสนุนให้ชุมชนสามารถบริหารจัดการทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า ได้ด้วยตนเอง เพิ่มน้ำต้นทุน และมีน้ำสำรองสำหรับอุปโภค บริโภค และทำการเกษตรได้ตลอดปี ทำให้สมาชิกในชุมชนมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น สามารถบริหารความเสี่ยงจากการขาดน้ำ ผ่านโครงการอุทกพัฒน์ และมูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ ใน 4 พื้นที่ ดังนี้

3. โครงการ กรุงไทย RELIFE เปลี่ยนฟื้นคืนชีวิต
ธนาคารกรุงไทย เล็งเห็นปัญหาสิ่งแวดล้อม มลพิษในอากาศ ภาวะขยะล้นโลกที่เกิดจากพฤติกรรมของมนุษย์ จึงได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินงาน เพื่อลดผลกระทบที่เกิดกับสิ่งแวดล้อม การจัดการใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดภายในองค์กร รวมถึงองค์กรต่าง ๆ ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินงาน ด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม โดย ติดตั้งตู้ RELIFE MACHINE ที่ธนาคารกรุงไทยอาคารสำนักงานใหญ่นานาเหนือ และที่สาขากระทรวงการคลัง เพื่อจัดเก็บขวดพลาสติก นำไปบริจาคให้วัดจากแดงเพื่อนำไปรีไซเคิล เป็นการลดกระบวนการย่อยสลายขยะพลาสติกตามธรรมชาติซึ่งจะใช้เวลานาน นอกจากนี้ธนาคารยังได้ติดตั้ง เครื่อง INNOWASTE บริเวณห้องอาหารวายุภักดิ์ ชั้น 4 สำนักงานใหญ่ เพื่อแปรรูปเศษอาหารให้กลายเป็นดินคุณภาพ โดยมีการนำดินที่ได้จากเครื่องฯ ดังกล่าว แจกจ่ายให้กับพนักงาน โรงเรียนและวัด เพื่อนำไปปลูกต้นไม้ ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ


โครงการจิตอาสาธนาคารกรุงไทย (We Vayu Volunteer)

1. เกาะเต่า
ความเป็นมา: ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับ UNDP ประเทศไทย และ มูลนิธิรักษ์ไทย จัดกิจกรรมโครงการ #UNDPกรุงไทยรักเกาะเต่า เพื่อเตรียมความพร้อมชุมชนในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่เริ่มเดินทางเข้ามา โดยพนักงานจิตอาสาของธนาคาร (We Vaya Volunteer) ได้ผนึกกำลังกันลงพื้นที่ ให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) เทคโนโลยีทางการเงิน ตรวจสุขภาพทางการเงิน ในรูปแบบกิจกรรม workshop แก่ชาวชุมชนเกาะเต่าสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน พร้อมต่อยอดกิจกรรมวางซั้งปลากับกลุ่มประมงพื้นบ้านให้เป็นแหล่งอนุบาลและเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล เพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรและระบบนิเวศทางทะเล เพื่อให้สิ่งมีชีวิตได้พึ่งพาอาศัยกันอย่างยั่งยืน

2. โครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์
ความเป็นมา: กิจกรรมจิตอาสาจัดขึ้นเพื่อให้พนักงานผู้มีจิตสาธารณะได้มีโอกาสเข้าร่วมทำกิจกรรมกับชุมชนบ้านหนองกระทิง โดยช่วยกันปรับปรุงพื้นที่บริเวณแหล่งน้ำของหมู่บ้าน ปลูกพืชพันธุ์ที่ช้างไม่ชอบรอบแปลงเกษตร ด้วยธนาคารตระหนักว่า มนุษย์ ป่าไม้และสัตว์ป่านั้น ต้องอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุลและเกื้อกูลซึ่งกัน แนวคิด “การเปลี่ยนคืนฟื้นชีวิต ทรัพยากรน้ำ” นำพาสู่ความร่วมมือกับมูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์  ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) เพื่อสนับสนุน งานพัฒนาแหล่งน้ำ และคุณภาพชีวิตชุมชน ในหมู่บ้านคชานุรักษ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่ารอยต่อที่เป็นถิ่นอาศัยของช้างป่า ให้พื้นที่ป่าบ้านของช้าง มีความอุดมสมบูรณ์ และให้พื้นที่หมู่บ้านของมนุษย์ มีแนวกันช้าง จากพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ ที่ช้างไม่โปรดปราน ส่งผลให้ต่างฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกันในพื้นที่ได้ อย่างไม่สร้างความรบกวนแก่กัน นำพาสู่การอนุรักษ์พันธุ์ช้างป่าไทย ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และการพัฒนาอาชีพ คุณภาพชีวิต รวมถึงความปลอดภัยจากช้างของชาวบ้านในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน


3. โครงการ บางน้ำผึ้ง
ความเป็นมา: เป็นขยายผลจากโครงการ OUR Khung Bangkachao เพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาพื้นที่สีเขียว ณ คุ้งบางกะเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งธนาคารเป็นหนึ่งในคณะทำงาน 3 ด้าน ได้แก่
  1. คณะทำงานด้านพื้นที่สีเขียว
  2. คณะทำงานด้านการพัฒนาเยาวชน การศึกษา และวัฒนธรรม
  3. คณะทำงานด้านการส่งเสริมอาชีพ

ดังนั้น ธนาคารจึงร่วมกับชุมชนตำบลบางน้ำผึ้ง จัดกิจกรรมจิตอาสา สนับสนุนการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนอย่างยั่งยืน ดำเนินกิจกรรมในรูปแบบ Green Event ที่หลีกเลี่ยงการสร้างมลภาวะ ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และย่อยสลายได้ โดยพนักงานจิตอาสา VVe Vayu Volunteers จัดทำถังหมักขยะอินทรีย์ Green Cone สำหรับบำบัดขยะ มอบให้ชุมชน 140 ครัวเรือน และบอลจุลินทรีย์ 1,300 ลูก สำหรับบำบัดน้ำในคลองบางน้ำผึ้ง พร้อมร่วมกับทีมงานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางน้ำผึ้ง (รพ.สต.) และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพและของใช้จำเป็นให้กับผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงในชุมชน

รวมทั้งได้เชื่อมโยงโครงการด้านสิ่งแวดล้อมของธนาคารเข้าด้วยกัน คือ การรวบรวมดินที่ได้จากการเปลี่ยนเศษอาหารจากห้องอาหารของธนาคารด้วยเครื่อง Inno Waste ปริมาณ 70 กิโลกรัม และขวดน้ำพลาสติกที่รวบรวมจาก RELIFE MACHINE จากโครงการ “กรุงไทย RELIFE เปลี่ยนฟื้นคืนชีวิต” จำนวน 7,425 ใบ นำไปมอบให้กับวัดจากแดง โดยขวดพลาสติกจะถูกนำไปรีไซเคิล ผลิตเป็นเส้นใย เพื่อ Upcycle ทอเป็นจีวรพระและเครื่องนุ่งห่ม โดยนำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติมาเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงาน ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ปัญหาด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-being) ด้านสุขอนามัยและการจัดการน้ำที่ยั่งยืน (Clean Water and Sanitation) นำไปสู่เป้าหมายเมืองและชุมชนที่ยั่งยืน (Sustainable Cities and Communities) และเป้าหมายการแก้ปัญหาโลกร้อน (Climate Action) สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน

;

4. ถุงยังชีพ
ความเป็นมา: จากสถานการณ์ที่ประเทศไทยประสบอุทกภัยจากพายุโซนร้อนและพายุโนรูทำให้เกิดฝนตกหนักและเกิดอุทกภัยในวงกว้าง ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำและริมแม่น้ำ ได้รับความเดือดร้อน ทรัพย์สินเกิดความเสียหาย และขาดแคลนเครื่องอุปโภคและบริโภค ธนาคารห่วงใยประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในหลายพื้นที่ จึงได้จัดทำถุงยังชีพบรรจุข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องอุปโภคบริโภค และยารักษาโรคที่จำเป็น และได้ลงพื้นที่ร่วมกับท่านนายกรัฐมนตรี หน่วยงานภาครัฐ เช่น ผู้แทนจากกระทรวงการคลัง ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยได้มอบถุงยังชีพไปแล้ว 2,284 ถุง ในจังหวัดอุตรดิตถ์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ จัขอนแก่น นนทบุรี สมุทรปราการ และจังหวัดปทุมธานี

5. แจกหนังสือ
ความเป็นมา: ธนาคารขอเป็นส่วนหนึ่งในการจัดโครงการแบ่งปันหนังสือเรียนสำหรับน้อง ๆ เพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้แก่นักเรียนและสถานศึกษาที่ขาดแคลนเพื่อแบ่งเบาภาระหน้าที่ของผู้ปกครองในสถานการณ์การเกิดโรคระบาด COVID -19 เพื่อสร้างพื้นฐานการแบ่งปันสำหรับน้อง ๆ ที่จะโตขึ้นมาในสังคมและเป็นอนาคตของชาติ โดยเปิดรับบริจาคหนังสือจากพนักงานและนำไปมอบให้แก่มูลนิธิบ้านนกขมิ้น เพื่อกระจายหนังสือให้น้อง ๆ ตามโรงเรียนต่าง ๆ ที่ขาดแคลน

6. โครงการกรุงไทยรักคนพิการ
ความเป็นมา: พรบ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 กำหนดให้สถานประกอบการดำเนินการ รับคนพิการเข้าทำงานในอัตราร้อยละหนึ่งของจำนวนพนักงาน ณ วันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี โดยสามารถดำเนินการได้ 3 รูปแบบ คือ
  1. การจ้างงานคนพิการทำงานที่องค์กร (มาตรา33)
  2. นำส่งเงินเข้าทองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามจำนวน คนพิการที่ไม่ได้จ้างงาน (มาตรา 34))
  3. ให้สัมปทานสามารถดำเนินการได้ 7 วิธี (มาตรา 35) ดังนี้    
    • การให้สัมปทาน
    • การจัดสถานที่จำหน่าย สินค้าหรือบริการ
    • การจัดจ้างเหมาช่วงงานหรือการจ้างเหมาบริการ
    • การฝึกงาน
    • การจัดให้มีอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก
    • การจัด ให้มีล่ามภาษามือ
    • การช่วยเหลืออื่นใด
โดยธนาคารพิจารณาดำเนินการตามมาตรา 33 และ 35 เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของ พรบ.ฯ ที่ประสงค์ให้เกิดการจ้างงานคนพิการ ทั้งนี้ ในปี 2566 ธนาคารกรุงไทยได้ดำเนินโครงการกรุงไทยรักคนพิการ ดังนี้
  • การจ้างงานคนพิการ ตามมาตรา 33 จำนวน 1 คน มูลค่า 256,896 บาท
  • จ้างเหมาช่วยงานหรือจ้างเหมาบริการ มาตรา 35 จำนวน 130 คน มูลค่า 15,563,600 บาท
  • การฝึกงานให้กับคนพิการ มาตรา 35 จำนวน 44 คน มูลค่า 5,267,680 บาท

รวมเป็นมูลค่าทั้งหมด 21,088,176 บาท

ข้อมูลเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ