ชุมชนเขมรโบราณ ตำบลสนวน อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ แหล่งผลิตผ้าไหมหางกระรอกคู่ ผ้าไหมลวดลายดั่งเดิม
![ชุมชนบ้านสนวนนอก](/ktb/imgUpload/CSR/4_P35_1200-x-520.jpg)
ชุมชนบ้านสนวนนอก ตำบล สนวน อำเภอ ห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นชุมชนเขมรโบราณ มีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและ ทอผ้าไหม ด้วยความรู้ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตผลิตไหม เริ่มตั้งแต่การปลูกหม่อน เก็บใบหม่อนไปเลี้ยงไหม การเลี้ยงไหม ให้อาหารตัวไหม การเลี้ยงไหมสาวไหม ไปจนถึงการฟอก ย้อม มัดหมี่ ทอผ้า แปรรูป กระทั่งถึงการสร้างสรรค์ ลวดลายต่างๆ บนผืนผ้าไหม ทั้งผลิตสินค้าจากทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่น เช่น กระดิ่งไม้ ข้าวของเครื่องใช้จากกะลามะพร้าว จักสานเป็นต้น
![ชุมชนบ้านสนวนนอก](/ktb/imgUpload/CSR/sanuannok-1m.jpg)
ธนาคารกรุงไทยได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของชุมชน ที่มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน คีย์เวิร์ดสำคัญของโครงการ CSR ในครั้งนี้คือ “ความยั่งยืน” จึงจับมือกับชุมชนบ้านสนวนนอก มอบองค์ความรู้ ให้คนในชุมชนสามารถนำไปพัฒนาและประยุกต์ใช้ กับทรัพยากรหรือผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่ในชุมชน ภายใต้โครงการ “กรุงไทยรักชุมชนบ้านสนวนนอก” เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างความเข้มแข็งให้กับการท่องเที่ยวของชุมชนได้ ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำนวัตกรรมทางการเงินจากทางธนาคาร เช่น แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT, Krungthai Connext การแนะนำระบบบัญชีรายรับ-รายจ่าย การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อยกระดับสินค้าและมาตรฐานการท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น
บ้านสนวนนอก
ผ้าไหมหางกระรอกคู่ ผ้าไหมลวดลายดั่งเดิม เอกลักษณ์โดดเด่นของผ้าไหมชุมชนบ้านสนวนนอก ที่เกิดจากการดำรงวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย สืบสานการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีขั้นตอนที่พิถีพิถันตั้งแต่การปลูกหม่อน เลี้ยงไหม สาวเส้นใยไหมสีเหลืองทอง นำมาต้มเพื่อฟอกกาวออกจากเส้นไหม จนกลายเป็นไหมสีขาวนวลนิ่มเงางาม แต่หากอยากได้สีสัน ก็ต้องนำไปย้อม แต่ที่สำคัญจะต้องนำเส้นไหมไป “ตีเกลียว” คือการนำเส้นไหมสองสีมาพันเป็นเกลียวจนเป็นเส้นเดียว หรือ “ควบเส้น” จากนั้นค่อยนำไปทอเป็นผืนผ้า ซึ่งผ้าที่ทอออกมาก็จะมีสีสันเลื่อมลายเหลื่อมกันคล้ายกับหางกระรอก จึงเรียกผ้าทอลักษณะนี้ว่า “ผ้าหางกระรอก” อันเป็นภูมิปัญญาการทอผ้าของชาวอีสานใต้นั่นเอง และได้ทางธนาคารกรุงไทย ช่วยเหลือด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และจัดหาช่องทางการจัดจำหน่าย ทำให้ชุมชนมีรายได้ที่มากขึ้น เกิดความยั่งยืนในชุมชน
สามารถสั่งซื้อผ้าและจองการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.facebook.com/BanSanuanNokVillage/
“ขนมตดหมา” ขนมท้องถิ่นหรือเรียกตามภาษาถิ่นว่า “เวือระพอม” เป็นอีกหนึ่ง hilight ที่อยากให้ทุกคนได้ลองชิมขนมตดหมาหน้าตาและรสชาติจะคล้าย ๆ ขนมจาก แต่จะมีความนุ่มหนึบมากกว่า และมีความหอมหวาน โดยมีส่วนผสมของแป้งข้าวเหนียว น้ำตาลโตนด น้ำตาลทรายแดง มะพร้าวทึนทึก ทั้งหมดนี้นำมาผสมกับน้ำเครือตดหมา พืชไม้เลื้อยชนิดหนึ่ง หากนำต้นหรือใบมาขยี้แล้วลองดมก็จะรู้เลยว่ากลิ่นเหม็นคล้ายตด แต่เครือตดหมาเป็นสมุนไพรมากประโยชน์ ทั้งเป็นยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ กลิ่นเหม็นๆ นั้นยังช่วยระบายความร้อนในร่างกาย ช่วยขับลม ช่วยย่อย เป็นสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคดีซ่านและเบาหวานได้ ชาวบ้านนิยมนำมาปลูกใกล้บ้านเพื่อเก็บไว้กิน
![ด้านความรู้ทางการเงิน](/ktb/imgUpload/CSR/Icon-1.png)
• จัดอบรมการวางแผนทางการเงิน การลงบัญชี
รายรับ-รายจ่าย
• แนะนำผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคาร มีการเปิดบัญชี
และ ใช้ QR Code
• จัดทำสมุดบัญชี
![ด้านการตลาด](/ktb/imgUpload/CSR/Icon-2.png)
• ปรับปรุงป้ายข้อมูลการปลูกม่อนเลี้ยงไหมภายในศูนย์การเรียนรู้ กลุ่มทอผ้าไหมบ้านสนวน
• ทำทางลาดห้องน้ำเพื่อคนพิการ
• ชุดแสดงรำตรด และเครื่องดนตรี
![ด้านสินค้า](/ktb/imgUpload/CSR/Icon-3.png)
• พัฒนา Packaging
• สอนออกแบบและตัดเย็บชุดและกระเป๋า
• ปรับปรุงศูนย์การเรียนรู้ กลุ่มทอผ้าไหมบ้านสนวน
![ด้านการตลาด](/ktb/imgUpload/CSR/Icon-4.png)
• ปรับปรุง Visibility
• การขายสินค้าผ่าน E-Commerce
• การประชาสัมพันธ์สินค้าชุมชนผ่าน Krungthai care
![ด้านศิลปวัฒนธรรม](/ktb/imgUpload/CSR/Icon (1).png)
• ชุดแสดงรำตรด
• เครื่องดนตรี.
![ด้านบริหารจัดการ](/ktb/imgUpload/CSR/Icon-5.png)
• เตาเผาขยะไร้ควัน
• จัดอบรมให้ความรู้โดยกรมการท่องเที่ยว
• จัดอบรมให้ความรู้โดย อพท.
![บ้านสนวนนอก](/dist/resources/images/share/icon-file/jpg-icon.png)