อัพเดทผลิตภัณฑ์ลดหย่อนภาษี ประจำปี 2563

เข้าสู่ปลายปีแบบนี้ ใครหลายคนอาจจะเริ่มต้นวางแผนลดหย่อนภาษีกันอยู่ แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะมีปัญหาคือ ไม่รู้อัพเดทว่าอะไรลดหย่อนภาษีได้บ้าง และจะวางแผนลดหย่อนอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า ค่าลดหย่อน คือ ตัวช่วยหนึ่งในการลดเงินได้สุทธิที่ใช้ในการคำนวณภาษี หรือพูดแบบสรุปได้ว่า ถ้าเรามีค่าลดหย่อนมาก เราก็จะเสียภาษีในจำนวนที่น้อยลง แต่ค่าลดหย่อนนั้นไม่ได้ใช้ลดจำนวนเงินภาษีได้โดยตรง  เพราะมันขึ้นอยู่กับอัตราภาษีที่เราเสียตั้งแต่ ยกเว้นภาษี จนถึง 35% ซึ่งเป็นอัตราสูงสุด

เมื่อเราเข้าใจหลักการของค่าลดหย่อนภาษีแล้ว มาดูกันต่อว่า เรามีค่าลดหย่อนตัวไหนที่สามารถนำมาใช้ได้บ้าง โดยค่าลดหย่อนในแต่ละปีจะมีการเปลี่ยนแปลงกันไปตามนโยบายของรัฐบาล หรือ การกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ซึ่งบทความนี้ได้รวบรวมรายการค่าลดหย่อนต่างๆ ที่เพิ่มเติมมาในปี 2563 นี้ มาฝากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้แก่

1. แพ็คคู่ลดหย่อนภาษี SSF และ SSFX หรือกองทุนรวมเพื่อการออม และ กองทุนรวมเพื่อการออมแบบพิเศษ ซึ่งเปิดโอกาสให้เราสามารถซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีได้ตามสิทธิ ดังนี้

1. กองทุน SSF :  นำมาลดหย่อนได้ 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี ตามที่จ่ายจริงและสูงสุดไม่เกินจำนวน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุน RMF ประกันบำนาญ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนการออมแห่งชาติแล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
2. กองทุน SSFX : นำมาลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท โดยจำกัดช่วงเวลาในการซื้อตั้งแต่ 1 เมษายน  - 30 มิถุนายน 2563

โดยทั้งสองกองทุนนี้ มีเงื่อนไขที่ต้องถือครองเป็นระยะเวลา 10 ปีเต็มนับจากวันที่ซื้อกองทุนดังกล่าว ดังนั้นถ้าใครพร้อมที่จะลงทุนและถือครองในเวลาที่กำหนดได้ กองทุน SSF ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจในตอนนี้ หลังจากที่ LTF หมดอายุไปในปี 2562 นั่นเอง

2. ประกันสุขภาพจำนวนสูงสุด 25,000 บาท ตัวนี้ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่ตัวใหม่เพิ่งมา แต่เป็นตัวที่อัพเกรดให้หลังจากที่มีโควิด-19 โดยทางภาครัฐได้เพิ่มจำนวนวงเงินเดิมจาก 15,000 บาทเป็น 25,000 บาท และเมื่อรวมกับประกันชีวิตทั่วไปหรือเงินฝากแบบมีประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเรื่องของประกันสุขภาพในตอนนี้ที่จะมาช่วยบรรเทาความเสี่ยงและได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีไปพร้อม ๆ กัน

3. ประกันสังคมจำนวนสูงสุด 5,850 บาท สำหรับมนุษย์เงินเดือนอาจจะแปลกใจว่าทำไมถึงลดลงจากเดิม 9,000 บาท แต่ตัวนี้ คืออีกตัวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่นเดียวกัน เนื่องจากมีการปรับลด % การนำส่งใน 2 ช่วง คือ เดือน มีนาคม – พฤษภาคม และ เดือนกันยายน - พฤศจิกายน จึงทำให้ค่าลดหย่อนตัวนี้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีลดลงตามจำนวน % ที่เราสะสมลดลงนั่นเอง โดยกรณีของผู้ที่ทำอาชีพอิสระหรือผู้ประกันตนเอง ก็จะได้สิทธิลดลงต่ำกว่านี้ตามจำนวนเงินที่ปรับลดลงเช่นเดียวกัน

และนี่คือ 3 ตัวค่าลดหย่อนที่มีการเพิ่มขึ้นและเปลี่ยนแปลงระหว่างปี 2563 ที่เราควรรู้เพื่อที่จะได้ปรับตัวรับมือและจัดการวางแผนภาษีได้อย่างถูกต้อง และไม่พลาดโอกาสดี ๆ ที่จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้อย่างคุ้มค่า

สำหรับคนที่สนใจตัวช่วยลดหย่อนภาษี ทางกรุงไทยมีตัวช่วยดี ๆ ครบทั้งประกัน SSF และ RMF ที่ช่วยให้คุณสามารบรรลุวัตถุประสงค์ทางการเงินได้อย่างครบถ้วนทุกมิติ ดังต่อไปนี้

• ประกัน iHealthy ครบทั้งค่ารักษา คุ้มครองครอบคลุมทั้งผู้ป่วยในและนอก ตลอดทั่วทุกมุมโลก 

• ประกัน LifePlus Saver จ่ายเบี้ยคงที่ รับเงินคืนทุกปี มีเงินก้อนให้เมื่อครบกำหนดสัญญา 

• SSF กองทุนเปิดกรุงไทยก่อการดีเพื่อการออม เน้นลงทุนในหุ้นที่มีเป้าหมายระยะยาวเกินกว่า 10 ปี

หรือ RMF กองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดีเพื่อการเลี้ยงชีพ สำหรับเป้าหมายเกษียณ โดยเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล รับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มให้กับพอร์ตการลงทุนของคุณ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คลิก ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอหนังสือชี้ชวน ได้ที่ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารฯ กำหนด