10 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ประจำปี 2024 พร้อมวิธีเดินทางที่คัดมาให้แล้ว
ฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งช่วงที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกตั้งตารอชมใบไม้เปลี่ยนสี หนึ่งในกิจกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งความพิเศษของช่วงนี้เห็นจะเป็น การที่เราจะได้ชม ความงดงามของธรรมชาติที่เปลี่ยนสีจากเขียวเป็นสีแดง เหลือง และส้ม ช่วยสร้างบรรยากาศที่สดชื่นและสวยงาม ใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้อยู่ล่ะก็ เราขอนำเสนอ 10 สถานที่ที่คุณไม่ควรพลาดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น 2024 มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง
ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ฤดูแสนโรแมนติก
ว่ากันว่าช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะมีเทศกาลท้องถิ่นมากมาย หนึ่งเทศกาลที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นั่นก็คือ เทศกาลนางาซากิคุนจิ (Nagasaki Kunchi) ในปี ค.ศ. 1634 ซึ่งจะจัดในช่วงต้นเดือนตุลาคม เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง ในขณะที่เมืองเกียวโต ก็มีเทศกาลจิไดมัตสึริ (Jidai Matsuri) เพื่อเป็นการรำลึกถึงการก่อตั้งศาลเจ้าเฮอันจิงงุ และเป็นการฉลองครบรอบปีที่ 1,100 สำหรับการย้ายเมืองหลวงมาสู่นครเฮอัน หรือปัจจุบันก็คือเมืองเกียวโตนี่แหละ
ไม่เพียงเท่านี้ ภูมิภาคอื่น ๆ ในญี่ปุ่น ต่างก็มี เทศกาลช่วงฤดูใบไม้ร่วง ไม่ว่าจะเป็น งานฤดูใบไม้ร่วงกินซ่า ในโตเกียว หรือจะเป็นงาน โคมไฟนิฮงมัตสึ (Nihonmatsu) ในฟุกุชิมะ (Fukushima) เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานเทศกาลที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่แท้จริง
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่น เป็นช่วงเวลาที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ความงดงามที่น่าประทับใจ ด้วยสีสันที่หลากหลายของใบไม้ที่เปลี่ยนจากสีเขียวสดใสไปเป็นสีแดง เหลือง และส้ม เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนจากทั่วโลกต่างตั้งตารอเพื่อชมความมหัศจรรย์นี้ ซึ่งไม่เพียงแค่ความงามทางธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชาวญี่ปุ่นอีกด้วย
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่น มักเริ่มในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนธันวาคม โดยช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสีจะขึ้นอยู่กับภูมิภาคและระดับความสูงของพื้นที่ โดยส่วนใหญ่จะเริ่มจากทางตอนเหนือของประเทศและค่อย ๆ ลงสู่ตอนใต้ ตามลำดับของภูมิภาคต่าง ๆ
พยากรณ์ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นแต่ละเมือง 2024
ในแต่ละปี การชมใบไม้เปลี่ยนสี ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก หรือแม้แต่คนญี่ปุ่นเอง ต่างตั้งตารอชมฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น ซึ่งสีสันของใบไม้จากสีเขียว เปลี่ยนเป็นแดง เหลือง และส้ม สร้างความประทับใจและบรรยากาศที่งดงามตามสถานที่ต่าง ๆ และในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น 2024 เราก็มีพยากรณ์ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีในเมืองสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างลงตัว
- โตเกียว : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
- ซัปโปโร : ปลายเดือนกันยายน – ปลายเดือนตุลาคม
- โอซาก้า, เกียวโต : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
- ฟุกุโอกะ : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
- เซนได : ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน
- อาโอโมริ : ต้นเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน
- โออิตะ : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
- ฮิโรชิม่า : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
- คากาว่า : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
- นีงาตะ : ต้นเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน
- นิกโก้ : ต้นเดือนตุลาคม - ปลายเดือนตุลาคม
- นากาโนะ, คามิโคจิ,ฮาคุบะ : กลางเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน
-
นาโกย่า : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
สำหรับการพยากรณ์ช่วงเวลา ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น 2024 ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและภูมิประเทศของแต่ละเมือง การวางแผนท่องเที่ยวล่วงหน้าและติดตามพยากรณ์ท้องถิ่นจะช่วยให้คุณสามารถสัมผัสความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างเต็มที่
10 สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น วิวสวย น่าประทับใจ
ช่วงฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น นับเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ เมื่อใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นเฉดสีแดง เหลือง และส้มที่สดใส สร้างทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสวยงามของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่นมีสถานที่หลากหลายที่ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์นี้ ตั้งแต่ภูเขาที่สูงตระหง่าน สวนสาธารณะอันเงียบสงบ ไปจนถึงเส้นทางเดินชมธรรมชาติอันงดงาม ในบทความนี้ เราขอแนะนำ 10 สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น 2024 ที่สวยงามและน่าประทับใจที่สุด
1.วัดคิโยมิซุ (วัดน้ำใส) เกียวโต
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ต้นไม้รอบวัดมีสีสันสดใสที่สุด
ข้อมูลน่ารู้ : วัดคิโยมิซุ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "วัดน้ำใส" เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกียวโต วัดนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 778 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก โครงสร้างหลักของวัดที่มีชื่อเสียงคือระเบียงไม้ขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาจากหน้าผา ซึ่งสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปูเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งวัดยังล้อมรอบด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง
ไฮไลท์ที่น่าสนใจ : จุดชมวิวตรงระเบียงไม้ขนาดใหญ่ ที่คุณสามารถชมวิวของเมืองเกียวโตและธรรมชาติที่ล้อมรอบ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดง ส้ม และเหลือง งดงามสะดุดตา
การเดินทาง : สามารถเดินทางมาวัดคิโยมิซุได้โดยรถบัสจากสถานีเกียวโต โดยขึ้นรถบัสสาย 100 หรือ 206 และลงที่ป้าย "Gojo-zaka" หรือ "Kiyomizu-michi" จากนั้นเดินขึ้นเนินประมาณ 10 นาทีถึงวัด หรือนั่งรถไฟ Keihan Line ลงสถานี Gion-shijo แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาที
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/mdjGTtZrjKUywVcj7
วัน-เวลาทำการ : 6.00 - 18.00 น.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.kiyomizudera.or.jp
2.ปราสาทโอซาก้า ที่โอซาก้า
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม
ข้อมูลน่ารู้ : ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองโอซาก้า และเป็นหนึ่งในปราสาทที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1583 โดยโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) เพื่อแสดงถึงอำนาจและความมั่งคั่ง ปราสาทนี้ผ่านการบูรณะหลายครั้ง และปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองโอซาก้า บริเวณรอบๆ ปราสาทมีสวนกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้มากมาย ซึ่งในฤดูใบไม้ร่วงต้นไม้เหล่านี้จะเปลี่ยนสีสวยงามเป็นสีแดง เหลือง และส้ม ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี
ไฮไลท์ที่น่าสนใจ : ตัวปราสาทโอซาก้า ที่สูงตระหง่านมีสีขาวและเขียว ประดับด้วยทองคำและสัญลักษณ์สำคัญ ทำให้เป็นจุดชมวิวเมืองและสวนรอบ ๆ ที่งดงามอย่างยิ่งในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
การเดินทาง : รถไฟ Osaka Loop Line ลงสถานี Osakajo Koen station รถไฟใต้ดิน Tanimachi Line ลงสถานี Tanimachi Yonchome รถไฟใต้ดิน Chuo Line ลงสถานี Tanimachi Yonchome
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/85c3VvQv5A3nS7HP7
วัน-เวลาทำการ : 09:00 – 17:00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่คนละ 600 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าชมฟรี
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.osakacastle.net/
3.ถนนมิโดสุจิ (Midosuji Avenue) ที่โอซาก้า
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม
ข้อมูลน่ารู้ : ถนนมิโดสุจิ (Midosuji Avenue) เป็นถนนสายสำคัญและยาวที่สุดในเมืองโอซาก้า มีความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต่สถานีอุเมดะ (Umeda) ทางตอนเหนือ ไปจนถึงนัมบะ (Namba) ทางตอนใต้ของเมือง ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในฐานะถนนสายธุรกิจและการค้าหลักของโอซาก้า โดยมีร้านค้า แบรนด์แฟชั่นระดับโลก รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่หรูหราตั้งอยู่ตลอดแนว
ไฮไลท์ที่น่าสนใจ : การประดับไฟฤดูใบไม้ร่วง ถนนมิโดสุจิยังมีการประดับไฟในตอนกลางคืน โดยเฉพาะบริเวณใกล้กับย่านนัมบะและชินไซบาชิ ไฟประดับเหล่านี้เพิ่มความโรแมนติกให้กับถนนสายนี้ในช่วงเย็น
การเดินทาง : ถนนมิโดสุจิเข้าถึงได้ง่ายผ่านระบบรถไฟใต้ดินโอซาก้า สามารถเดินทางมาได้โดยใช้สาย Midosuji Line ลงที่สถานี Umeda, Shinsaibashi, หรือ Namba ซึ่งถนนมิโดสุจิจะอยู่ใกล้กับทางออกสถานีทั้งสามแห่งนี้
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/XjUNEhx9te2Ca8D26
วัน-เวลาทำการ : เปิดตลอดเวลา
ค่าเข้าชม : ไม่เก็บค่าเข้าชม
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.city.osaka.lg.jp/toshikeikaku/page/0000050399.html
4.สวนอนุสรณ์บัมปาคุ (Expo ‘70 Commemorative Park) ที่โอซาก้า
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม
ข้อมูลน่ารู้ : สวนอนุสรณ์บัมปาคุ (Expo '70 Commemorative Park) ตั้งอยู่ในเมืองซุยตะ (Suita) ทางตอนเหนือของโอซาก้า สวนแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์งานนิทรรศการโลก (World Expo) ที่จัดขึ้นในปี 1970 ซึ่งเป็นงานนิทรรศการระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ สวนครอบคลุมพื้นที่กว่า 260 เฮกตาร์ และมีจุดชมวิวและกิจกรรมหลากหลายให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัส รวมถึงธรรมชาติที่งดงามในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่สวนแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมสำหรับการชมใบไม้หลากสี
ไฮไลท์ที่น่าสนใจ : สวนญี่ปุ่นขนาดใหญ่ หอคอยแห่งดวงอาทิตย์ (Tower of the Sun) หนึ่งในสัญลักษณ์ของสวนและงาน Expo 1970 หอคอยแห่งนี้สูง 70 เมตร มีการออกแบบที่โดดเด่นและกลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม โดยรอบ ๆ หอคอยจะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
การเดินทาง : การเดินทางไปยังสวนอนุสรณ์บัมปาคุสามารถทำได้โดยใช้รถไฟโมโนเรลโอซาก้า (Osaka Monorail) ลงที่สถานี Banpaku-Kinen-Koen ซึ่งจะมีทางเข้าสวนอยู่ใกล้สถานี
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Xtn7svtMdnsvMnUBA
วัน-เวลาทำการ : เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 9.30 - 17.30 น. (แนะนำให้มาก่อน 16.30 น.) ปิดทุกวันพุธ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 260 เยน, เด็ก (อายุ 7-15 ปี) 80 เยน, เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี เข้าชมฟรี
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.expo70-park.jp/
5.สวนสาธารณะโมมิจิดะนิ เกาะมิยะจิมะ ที่ฮิโรชิมา
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม
ข้อมูลน่ารู้ : สวนสาธารณะโมมิจิดะนิ (Momijidani Park) ตั้งอยู่บนเกาะมิยะจิมะ (Miyajima) ในจังหวัดฮิโรชิมา เกาะมิยะจิมะมีชื่อเสียงจากศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) และเสาโทริอิกลางน้ำอันงดงาม แต่สำหรับฤดูใบไม้ร่วง สวนโมมิจิดะนินับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี ชื่อ “โมมิจิดะนิ” มีความหมายว่า "หุบเขาใบเมเปิ้ล" และพื้นที่สวนถูกปกคลุมไปด้วยต้นเมเปิ้ลมากกว่า 200 ต้น เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาถึง ใบของต้นเมเปิ้ลเหล่านี้จะเปลี่ยนเป็นสีแดงสดใสสร้างทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ไฮไลท์ที่น่าสนใจ : สะพานโมมิจิ สะพานไม้ที่ทอดข้ามลำธารในสวน เป็นจุดชมวิวที่ผู้คนมักมาถ่ายรูป เนื่องจากมีทิวทัศน์ของใบไม้สีแดงที่เรียงรายอยู่ทั้งสองฝั่งของลำธาร บริเวณนี้ให้บรรยากาศที่เงียบสงบและสวยงามโดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น
การเดินทาง : นั่งรถจากสถานี JR Hiroshima สาย Sanyo Line ไปยัง JR Miyajimaguchi หรือ เดินจาก JR Miyajimaguchi ไปที่ท่าเรือ JR Miyajima Ferry แล้วนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามเกาะ
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/atWGv5qKFUKbcEQ9A
วัน-เวลาทำการ : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.miyajima.or.jp/english/spot/spot_momiji.html
6.ทะเลสาบคาวากูจิโกะ
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม
ข้อมูลน่ารู้ : ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Lake Kawaguchiko) เป็นหนึ่งในทะเลสาบทั้งห้าที่ล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Five Lakes) ตั้งอยู่ในจังหวัดยามานาชิ ทะเลสาบนี้มีชื่อเสียงอย่างมากในการเป็นสถานที่ที่ผู้คนมักมาเยี่ยมชมเพื่อดูวิวของภูเขาไฟฟูจิที่สะท้อนอยู่บนผิวน้ำ ซึ่งในฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น ทะเลสาบคาวากูจิโกะกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี เนื่องจากต้นไม้รอบทะเลสาบจะเปลี่ยนเป็นสีสันสดใส ทำให้ทิวทัศน์รอบๆ ทะเลสาบดูสวยงามตระการตายิ่งขึ้น
ไฮไลท์ที่น่าสนใจ : วิวภูเขาไฟฟูจิและใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ธรรมชาติโดยรอบทะเลสาบแต่งแต้มไปด้วยสีสันของใบเมเปิ้ลและต้นไม้นานาชนิด ทำให้เกิดทิวทัศน์ที่สวยงามเหนือจินตนาการ
การเดินทาง : นั่งรถไฟสถานี JR ชินจูกุ มายังสถานี JR โอสึกิ และเปลี่ยนสายสถานี Fujikyu Railway เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานี Kawaguchiko หรือขึ้นรถบัสทางด่วนชินจูกุ มายังสถานีคาวากุจิโกะ
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/aVmcE8p6ya9DZq1SA
วัน-เวลาทำการ : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://fujisan.ne.jp/
7.อุโมงค์ใบไม้แดง โมมิจิ ไคโร ที่คาวากูจิโกะ
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ใบเมเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีแดงสดใสและส้มเข้ม
ข้อมูลน่ารู้ : อุโมงค์ใบไม้แดงโมมิจิ ไคโร (Momiji Kairo) ตั้งอยู่บริเวณทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Lake Kawaguchiko) ในจังหวัดยามานาชิ เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เมื่อใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงและส้มสดใส อุโมงค์นี้ทำจากต้นเมเปิ้ลที่ปลูกเรียงรายกันอย่างสวยงาม ตลอดระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร ผู้เยี่ยมชมจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของฤดูใบไม้ร่วงอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังสามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji) ที่อยู่ในฉากหลังได้อย่างงดงาม
ไฮไลท์ที่น่าสนใจ : อุโมงค์โมมิจิ ไคโรเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีที่เรียงราย สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกและเหมาะแก่การถ่ายภาพ อีกทั้งในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี อุโมงค์โมมิจิ ไคโรจะจัดงานประดับไฟที่จะเพิ่มความน่าตื่นตา ตื่นใจ ท่ามกลางแสงไฟที่สาดส่องผ่านใบไม้แดงจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในเทพนิยาย
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Fujikyu Line จากสถานี Otsuki ไปยังสถานี Kawaguchiko จากนั้นสามารถเดินต่อไปยังอุโมงค์ประมาณ 20 นาที
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Fg4qrMHWm63PXLfD9
วัน-เวลาทำการ : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://fujisan.ne.jp
8.สวนริคุงิเอน ที่โตเกียว
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีอย่างเต็มที่และงดงามที่สุด
ข้อมูลน่ารู้ : สวนริคุงิเอน (Rikugien Garden) ตั้งอยู่ในเขตโตเกียวบุนเคียว (Bunkyo) เป็นหนึ่งในสวนญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากที่สุดในโตเกียว สวนแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1700 โดยเจ้าของนามว่า "โทกุอิ" (Tokugawa Tsunashige) ซึ่งมีการออกแบบสวนตามรูปแบบของสวนญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ (Edo Period) ด้วยพื้นที่ประมาณ 75,000 ตารางเมตร สวนริคุงิเอนมีภูมิทัศน์ที่งดงามทั้งฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
ไฮไลท์ที่น่าสนใจ : ใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น สวนริคุงิเอนมีต้นไม้หลายชนิดที่เปลี่ยนสีเป็นสีแดง เหลือง และส้ม โดยเฉพาะต้นเมเปิ้ลที่สร้างทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ รวมถึง งานประดับไฟในยามค่ำคืน ที่จะจัดในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
การเดินทาง : เดินทางไปยังสวนริคุงิเอนสามารถทำได้โดยใช้รถไฟใต้ดินสาย Namboku สาย Toei Marunouchi ลงที่สถานี Komagome และเดินต่อไปประมาณ 15 นาที หรือสามารถนั่งรถประจำทางจากสถานีรถไฟที่ใกล้เคียง
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/G49cDdie41gDtDRYA
วัน-เวลาทำการ : 9:00-17:00 น. (เข้าได้ถึง 16:30 น.), ช่วงเวลาไลท์อัพ 9:00-21:00 น. (เข้าได้ถึง 20:30 น.)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน, ผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป 150 เยน, นักเรียนประถม - มัธยมต้นที่อาศัยหรือเรียนอยู่ในโตเกียว เข้าชมฟรี
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.japan.travel/th/spot/1693/
9.น้ำตกเคงอน ที่นิกโก้
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีอย่างสวยงามที่สุด
ข้อมูลน่ารู้ : น้ำตกเคงอน (Kegon Falls) เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเขตนิกโก้ จังหวัดโตเกียว น้ำตกแห่งนี้มีความสูงประมาณ 97 เมตร และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาตินิกโก้ (Nikko National Park) น้ำตกเคงอนถูกสร้างขึ้นจากน้ำที่ไหลลงมาจากทะเลสาบจูเซนจิ (Lake Chuzenji) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ในฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น น้ำตกเคงอนจะถูกล้อมรอบด้วยใบไม้ที่เปลี่ยนสีเป็นสีแดงและเหลือง ทำให้ทิวทัศน์ดูงดงามและน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น
ไฮไลท์ที่น่าสนใจ : ทิวทัศน์น้ำตก น้ำตกเคงอนมีวิวที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น ที่ใบไม้รอบน้ำตกเปลี่ยนสีและสะท้อนกับน้ำ ทำให้บรรยากาศรอบข้างดูมีเสน่ห์และโรแมนติก
การเดินทาง : นั่งรถไฟจากโตเกียวไปยังสถานีนิกโก้ จากนั้นสามารถนั่งรถบัสไปยังน้ำตกได้โดยตรง หรือจะเลือกนั่งรถบัสจากทะเลสาบจูเซนจิไปยังน้ำตกก็ได้
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/vFGhJzUdvyZXVbjU8
วัน-เวลาทำการ : 8.00 - 17.00 น. ค่าเข้าชม : บริเวณน้ำตกเข้าชมฟรี จุดชมวิวมีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 550 เยน / นักเรียนชั้นประถม 330 เยน
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.visitnikko.jp/en/spots/kegon-falls
10.อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัน (Daisetsuzan National Park) ที่ฮอกไกโด
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีแดงและเหลืองสดใส
ข้อมูลน่ารู้ : อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัน (Daisetsuzan National Park) ตั้งอยู่ในภูมิภาคฮอกไกโด เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีพื้นที่ประมาณ 2,267 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมภูเขาหลายลูก รวมถึงยอดเขาไดเซ็ทซัน (Daisetsuzan) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในฮอกไกโด อุทยานแห่งนี้มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง และเป็นที่รู้จักในเรื่องของธรรมชาติที่งดงามและทิวทัศน์ที่ตระการตา โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น ที่ใบไม้จะเปลี่ยนสีเป็นสีสันสดใส
ไฮไลท์ที่น่าสนใจ : อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซันมีภูมิทัศน์ที่หลากหลาย รวมถึงภูเขา น้ำตก และทะเลสาบ ซึ่งในฤดูใบไม้ร่วงจะมีการเปลี่ยนสีของใบไม้ที่สร้างภาพที่งดงามที่สุด โดยสถานที่ยอดฮิตในการชมใบไม้เปลี่ยนสี ภูเขาอากัง (Akan) และพื้นที่รอบทะเลสาบเทนโบ (Tennbobu Lake)
การเดินทาง : การเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซันสามารถทำได้โดย นั่งรถไฟ JR Shimokinboku ลงที่สถานี Kamikawa แล้วขึ้นรถประจำทางฮอกไกโดสาย Sounkyo Kamikawa ลงที่ Sounkyo
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/PUaYfQ19roRQgbej6
วัน-เวลาทำการ : 9.00 - 17.00 น. ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.japan.travel/national-parks/parks/daisetsuzan/explore
การชมใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด หากคุณมีโอกาสได้เดินทางไปช่วงฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น สถานที่เหล่านี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติสุดตราตรึงใจ และให้คุณได้เพลินเพลินกับการท่องเที่ยว ใช้จ่ายได้อย่างสะดวกไม่ต้องพกเงินสด แค่มี Krungthai Travel Debit Card บัตรเดียว ที่มีเรทแลกเงินให้แบบครอบคลุม คุ้มค่า ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศที่ดีที่สุดผูกกับ Global Savings บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ แลกเงินเรทดี20 สกุลเงิน รองรับการใช้จ่ายทั่วโลก ไม่เสียค่าธรรมเนียมสำหรับอัตราแลกเปลี่ยน 2.5% สมัครปุ๊บใช้จ่ายได้ทันที ด้วยการเปิดใช้บัตรดิจิทัล จะแลกเงินหรือช้อปออนไลน์ก็ทำได้เลย สมัครบัตรได้แล้ววันนี้ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT อ่านข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่นี่