แนะนำ 7 วิธีขายของในธุรกิจยุคใหม่ ขายเป็นเห็นเงินล้าน
อยากขายของในเส้นทางธุรกิจของคนยุคใหม่ ไม่ว่าจะขายแบบมีหน้าร้านหรือขายแบบออนไลน์ แม่ค้าและพ่อค้ามือใหม่ต่างมีความหวังที่จะสร้างยอดขายปัง ๆ ให้คุ้มการลงทุนทั้งนั้น เพื่อให้นักลงทุนมือใหม่ก้าวสู่ตลาดแห่งการแข่งขันได้อย่างมั่นคง เราก็ต้องมีแผนในการสร้างโอกาสต่อยอดสู่ความสำเร็จกันเสียหน่อย
กรุงไทยขอพาทุกท่านที่มีใจอยากลงทุนเริ่มต้นขายของผ่านบทความนี้ ให้ก้าวสู่ตลาดพร้อมความมั่นใจสู่ความสำเร็จ ด้วย 7 เทคนิคง่าย ๆ ทำได้จริงกับการเริ่มต้นขายของในธุรกิจยุคใหม่ ขายเป็นเห็นเงินล้านแน่นอน
อยากขายของต้องเปิดตำรา “7 เทคนิคพิชิตยอดขาย” ที่มือใหม่ไม่ควรพลาด
ใคร ๆ ก็สามารถขายของได้ แต่การขายให้ได้กำไรที่งอกงามในระยะยาวอาจเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของนักลงทุนในธุรกิจยุคใหม่ที่มีการแข่งขันสูง
เพื่อให้นักลงทุนทุกท่านได้เริ่มต้นขายของอย่างมีประสิทธิภาพ กรุงไทยขอเปิดตำราพิชิตยอดขายให้ปังด้วย 7 วิธีง่าย ๆ ที่ทำได้จริง เริ่มต้นจากตรงไหน? ต้องทำอย่างไรบ้าง? มาดูพร้อมกันเลย
1. ขายสินค้าที่ตนเองสนใจ
ก่อนจะเริ่มต้นธุรกิจเราต้องมีสินค้าที่อยากขาย หรือ “Hero Product” ประจำร้านนั่นเอง โดยเริ่มจากการตั้งคำถามกับตัวเองว่าเรามีความสนใจเกี่ยวกับอะไร? เพราะสิ่งนี้จะทำให้เราเข้าใจถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย มองเห็นต้นทุนและราคาขายที่จะสร้างกำไรได้อย่างชัดเจน มองเห็นคู่แข่งในตลาดเดียวกันและดึงความโดดเด่นของร้านจากสินค้าในมือได้ดี
ยิ่งเราเข้าใจสินค้าของเราและตลาดที่จะเข้าไปขายสินค้ามากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นการเริ่มต้นที่มั่นคงสู่ผลกำไรในระยะยาวได้มากขึ้นเท่านั้น ถ้ามีสินค้าประจำร้านแล้วก็อย่ารอช้า เตรียมนำเสนอ Hero Product ของเราให้ลูกค้าได้เลย
2. รู้แหล่งสินค้าราคาดี ก่อนขายของกระตุ้นกำไรได้ไม่ยาก
ต้นทุนคือสิ่งสำคัญในการเริ่มต้นขายของ มือใหม่ที่กำลังตั้งตัวเป็นนักพิชิตยอดขายควรให้ความสำคัญกับการมองหาแหล่งสินค้าราคาทุนอย่างมาก โดยเฉพาะในระยะเริ่มแรก ยิ่งเราเจอแหล่งสินค้าที่ต้นทุนต่ำ คุณภาพดี ก็จะช่วยให้เรากระตุ้นกำไรตามมาได้ไม่ยาก
ดังนั้น การเริ่มการขายควรทำการบ้านให้ดี ประเภทสินค้าที่เรากำลังจะขายนั้นมีแหล่งขายราคาทุนอยู่ที่ไหนอย่างไร นอกจากจะได้ราคาทุนเพื่อสร้างกำไรแล้ว ก็อาจทำให้เราได้คำปรึกษาดี ๆ จากแหล่งซื้อสินค้า เพื่อนำมาสานต่อการขายสู่ความสำเร็จได้อีกด้วย
3. อยากขายของต้องมี Logo สะดุดตา กับ ชื่อร้านที่คุ้นหู
อีกหนึ่งวิธีขายของที่มือใหม่ไม่ควรพลาด คือการสร้างการจดจำ เริ่มต้นด้วยการตั้งชื่อร้านให้มีความคุ้นหู จำง่าย และสอดคล้องกับสินค้าที่เรากำลังจะวางขาย เพื่อให้การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เป็นวงกว้าง รวมถึงการสร้างโลโก้ร้าน ที่ช่วยเสริมการจดจำให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งต้องมาพร้อมคอนเซปต์ที่เห็นแค่นิดเดียวก็นึกถึงร้านเราได้เลย โดยสามารถออกแบบโลโก้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองได้ผ่านเครื่องมืออย่าง Canva, Designhill, Figma หรือ Looka ที่จะช่วยดีไซน์โลโก้ให้คุณได้ในทันตา
อีกหนึ่งความสำคัญก่อนขายของที่ไม่ควรมองข้าม คืออย่าลืมศึกษาคู่แข่งให้ดีว่าความโดดเด่นของเขาเป็นอย่างไร และเราสามารถนำจุดเด่นของเรามาสู้อย่างไรได้บ้าง
4. แผนโปรโมทร้านช่วยกระตุ้นยอดขา
เริ่มต้นขายของสิ่งที่ควรทำความเข้าใจในลำดับถัดมา คือช่องทางการขาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ในการวางจำหน่ายสินค้า หรือแฟลตฟอร์มออนไลน์ อย่าง Facebook Page, Instagram, Tiktok หรือ LINE SHOPPING
ด้วยความที่ปัจจุบันนี้มีช่องทางการขายสินค้ามากมายให้ได้เลือกลงตลาดสู่การสร้างยอด เพื่อให้การลงทุนประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน เราต้องทำการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายของสินค้าให้ดี เพราะสิ่งนี้จะทำให้เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดและสร้างยอดขายที่คุ้มค่าตามมาได้
นอกจากนี้ การมองหา Influencer หรือ KOL มาช่วยรีวิวสินค้า จะเป็นอีกพลังในการช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ รวมทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มเป้าหมายกล้าซื้อสินค้าของเราได้เช่นกัน
5. ตอบโจทย์การขายของด้วยการสร้างช่องทางการชำระเงินให้ครอบคลุม
เพิ่มความสะดวกในการขายของด้วยการสร้างช่องทางการชำระเงินให้ครอบคลุม ส่วนนี้จะช่วยให้เราจัดการกับระบบรายรับรายจ่าย และเช็กยอดขายในแต่ละวันได้ และกรุงไทยก็มีแอปพลิเคชันเด็ด ที่จะช่วยพลิกโอกาสค้าขายให้ร้านค้ากับ แอปพลิเคชันถุงเงิน ที่รับชำระพร้อมเพย์ได้ทุกธนาคาร วอลเล็ต และพอยท์จากพาร์ทเนอร์ชั้นนำ มีฟีเจอร์ช่วยสรุปยอดขายทั้งแบบรายวัน และรายเดือน ให้ร้านค้าวางแผนการขายได้ นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์แจ้งเตือนด้วยเสียง ขายของอยู่ก็รู้ยอดเงินเข้า และลดความเสี่ยงเรื่องสลิปปลอมได้อีกด้วย
นอกจากเป็นตัวช่วยให้ร้านค้าเรื่องการรับชำระแล้ว แอปรับเงินร้านค้าอย่างแอปฯ ถุงเงิน ยังช่วยให้ลูกค้าสแกนจ่ายได้สะดวกด้วยป้ายถุงเงินซุปเปอร์ QR ที่วางหน้าร้าน ไม่ว่าจะจ่ายด้วยเงินหรือจ่ายด้วยพอยท์ เพียงเปิดแอปฯ ธนาคาร, แอปฯ วอลเล็ต หรือ แอปฯ พาร์ทเนอร์ของพอยท์ที่มี แล้วสแกนจ่ายได้ทันที ไม่ยุ่งยาก รวมถึงยังมีคูปองส่วนลด สิทธิพิเศษ หรือโปรโมชันดีๆ ที่มีให้ลูกค้าเมื่อใช้จ่ายที่ร้านถุงเงินด้วยวอลเล็ตอีกด้วย
6. รู้ทุนร้าน เข้าใจแนวทาง วางแผนการเงินสู่ธุรกิจได้อย่างมั่นคง
“วิธีขายของ” มือใหม่ต้องรีบจดข้อนี้ เพราะจะช่วยให้คุณวางแผนการเงินในธุรกิจยุคใหม่ได้อย่างมั่นคง นั่นคือการทำความเข้าใจเรื่อง “เงินทุน” โดยเฉพาะช่วงเริ่มต้นที่จะต้องลงทุนกับสินค้าและด้านอื่น ๆ ภายในร้าน
เมื่อเรามีการวางแผนการลงทุนในช่วงเริ่มแรกดี สิ่งนั้นจะส่งผลสู่กำไรตามมา อีกทั้งยังช่วยให้แผนการขายในอนาคตราบรื่นด้วยอีกเช่นกัน และอีกสิ่งสำคัญที่ควรจดไว้ให้ดี คือการมีเงินทุนไว้หมุนเวียนในกิจการของเรา เพราะจะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดในอนาคตได้
7. สร้างโปรโมชันเรียกลูกค้า ซื้อใจสู่การขาย ประทับใจจนต้องกลับมาซื้อซ้ำ
ข้อสุดท้ายของการขายของให้ได้ดี คือการสร้างโปรโมชัน อีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยดึงความสนใจ และกระตุ้นให้ลูกค้ามีความต้องการซื้อในสินค้าของเรามากขึ้น เมื่อเราดึงลูกค้าให้มาสนใจได้นั้นเท่ากับการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้รู้จักสินค้าเรามากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาซื้อซ้ำ
โดยโปรโมชันในช่วงเปิดร้าน อาจเป็นการลดราคา หรือมีของแถมเป็นสินค้าตัวต่อไปให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ เป็นต้น และสำหรับ ร้านค้าถุงเงิน สามารถใช้พอยท์เพย์ มาเป็นหนึ่งในโปรโมชันดีๆ ชวนลูกค้านำพอยท์มาใช้จ่ายแทนเงินสด เช่น เอไอเอส พอยท์ มายบายเคทีซี หรือ คะแนนบางจาก ก็ช่วยให้ทุกการใช้จ่ายคุ้มค่ามากขึ้น
นักลงทุนมือใหม่หลายท่านคงเห็นแล้วว่า การขายของในธุรกิจยุคใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องยาก กรุงไทยเชื่อว่า 7 วิธีขายของพิชิตเงินล้านในข้างต้นนี้จะเป็นคู่มือในการเปิดร้านให้คุณสามารถต่อยอดการลงทุนสู่กำไรที่ยั่งยืนได้อย่างแน่นอน
และสำหรับใครที่กำลังวางแผนมีธุรกิจเป็นของตัวเอง กรุงไทยมีตัวช่วยให้คุณได้ลงตลาดขายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ “แอปพลิเคชันถุงเงิน” ที่นอกจากจะสะดวกสบายในเรื่องการรับชำระและการบริหารจัดการยอดขายในแต่ละวันแล้ว บริการพอยท์เพย์ ก็ยังเป็นอีกหนึ่งบริการเด่น ที่ลูกค้าสามารถใช้พอยท์จ่ายแทนเงินสดได้ ไม่มีกำหนดพอยท์ขั้นต่ำในการจ่าย ที่ร้านถุงเงินพอยท์เพย์ทั่วประเทศ สะดวก คุ้มค่า ต่อยอดสบาย ตอบโจทย์ทุกร้านค้าได้ด้วยแอปพลิเคชันถุงเงิน