14 วิธีดึงดูดเรียกลูกค้าเข้าร้าน เพิ่มยอดขายให้ร้านค้า
ในยุคที่ธุรกิจแข่งขันกันสูง เจ้าของธุรกิจต่างงัดกลยุทธ์จูงใจลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้า บริการต่าง ๆ จะเห็นได้ว่าแหล่งชอปปิง ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ที่เป็นออฟไลน์ เริ่มปรับตัวเพิ่มช่องทางออนไลน์เพื่อขยายฐานลูกค้า ในขณะเดียวกัน ร้านค้าออนไลน์เองก็ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มยอดขาย สร้างการจดจำ และทำให้ลูกค้าประทับใจ แต่จะทำอย่างไรให้ร้านของคุณโดดเด่นและน่าสนใจ วันนี้เราขอแนะนำ วิธีดึงดูดลูกค้าเข้าร้าน ทํายังไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ ลิสต์มาให้ 14 ข้อ
แนะนำ 14 วิธีที่ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้าที่ร้าน
ทํายังไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ แน่นอนว่า โปรโมชั่นและส่วนลด ต้องดึงดูดใจ และในยุคปัจจุบันที่เรามีช่องทางออนไลน์มาช่วยสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เทคโนโลยีต่าง ๆ ต้องช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า นี่เป็นเพียงแค่บางส่วนของวิธีเรียกลูกค้าเข้าร้าน มาดูกันว่า 14 ข้อต่อไปนี้ มีอะไรบ้าง
1. ป้ายโฆษณาและการจัดแสดงสินค้าต้องโดดเด่น
การใช้ป้ายที่สวยสะดุดตาและการจัดวางสินค้าให้โดดเด่นและเป็นระเบียบจะช่วยทำให้ลูกค้าสนใจและอยากเข้ามาดูสินค้าในร้าน นอกจากนั้น การวางป้ายสแกนจ่ายที่สวยงาม มีขนาดเหมาะสม ตัว QR Code ชัดเจน เช่น ป้าย ถุงเงินซุปเปอร์ QR ของ ธนาคารกรุงไทย ก็จะช่วยให้ลูกค้าสแกนจ่ายได้ง่าย สะดวกทั้งผู้ซื้อ และผู้ขาย นอกจากนี้ ยังสามารถรับชำระด้วยพอยท์จากแบรนด์ชั้นนำด้วยเช่น เอไอเอส พอยท์ มายบายเคทีซี หรือคะแนนบางจาก ลูกค้าที่มีพี่พอยท์ใช้พอยท์จ่ายแทนเงินได้
2.การสร้างบรรยากาศที่เชิญชวน
อีกหนึ่งวิธีเรียกลูกค้าเข้าร้าน นั่นก็คือการสร้างบรรยากาศที่ดีในร้านค้า การเลือกใช้สี แสงไฟ รวมถึงการใช้กลิ่นที่เหมาะสม จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า กระตุ้นให้พวกเขาอยากเข้ามาใช้บริการมากขึ้น
3.โปรโมชั่นพิเศษ
การจัดโปรโมชั่นเฉพาะกิจ เช่น ส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อครั้งแรก หรือจะเป็นการใช้วิธีการสะสมแต้ม เพื่อให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำเพื่อนำคะแนน มาใช้แทนเงินสด ก็สามารถทำได้ นอกเหนือจากนี้ยังมีอีกหลายโปรโมชั่นที่สามารถนำมาปรับใช้กับร้านค้าของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็น โปรโมชั่นสำหรับวันหยุดหรือเทศกาล โปรโมชั่นเฉพาะกลุ่มลูกค้า เป็นต้น
4. บัตรสมาชิกและโปรแกรมสะสมแต้ม
บัตรสมาชิก และ โปรแกรมสะสมแต้ม เป็นอีกหนึ่งวิธีดึงดูดลูกค้าเข้าร้าน ที่กระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความผูกพันระหว่างลูกค้าและร้านค้าได้อย่างยั่งยืน และยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายระยะยาวอีกด้วย เช่น ในปัจจุบันหลายร้านค้ามีการนำรูปแบบการสะสมแต้มด้วย LINE coin เป็นวิธีที่สะดวกและเหมาะสำหรับร้านค้าที่อาจจะมีงบประมาณจำกัดในการซื้อระบบสมาชิก CRM ซึ่งการสะสมแต้มด้วย LINE coin ที่หลายร้านนิยมใช้กัน จะเป็นรูปแบบของการสะสมครบ 10 คะแนน ฟรีสินค้า 1 ชิ้น หรือจะเป็นการสะสมคะแนนตามที่กำหนดเพื่อรับส่วนลดต่าง ๆ เช่น สะสมครบ 5 แต้ม แลกส่วนลดครั้งต่อไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละร้านค้า เป็นต้น
-
วิธีการสร้างบัตรสมาชิกและการให้ส่วนลดพิเศษสำหรับสมาชิก
บัตรสมาชิก เป็นวิธีที่ดีในการมอบความพิเศษให้กับลูกค้า การทำบัตรสมาชิกนั้นสามารถทำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น บัตรพลาสติก บัตรดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน หรือการลงทะเบียนออนไลน์ เมื่อมีบัตรสมาชิกแล้ว ร้านค้าสามารถให้สิทธิพิเศษเฉพาะสำหรับสมาชิก ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดพิเศษที่มากกว่าลูกค้าทั่วไป หรือการจัดโปรโมชั่นเฉพาะสำหรับสมาชิกเท่านั้น เป็นวิธีที่ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษและมีแรงจูงใจในการสมัครสมาชิก รวมถึงการซื้อสินค้าบ่อยขึ้น -
โปรแกรมสะสมแต้มเพื่อกระตุ้นการกลับมาซื้อซ้ำ การใช้โปรแกรมสะสมแต้มจากการซื้อสินค้า เป็นวิธีที่ดีที่นอกจากลูกค้าจะได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ จากการสะสมคะแนนเพื่อนำไปแลกเป็นส่วนลด ใช้แทนเงินสด หรือของรางวัลพิเศษต่าง ๆ แล้ว ยังช่วยทำให้ร้านค้าสามารถเก็บข้อมูลลูกค้า เช่น พฤติกรรมการซื้อ ข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนการตลาดและปรับปรุงบริการได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น คาเฟ่และร้านอาหารขนาดเล็ก สามารถใช้โปรแกรมสะสมแต้มที่ลูกค้าจะได้รับเครื่องดื่มฟรีเมื่อซื้อครบ 10 แก้ว หรือเป็นส่วนลดเมื่อมาใช้ครั้งต่อไป เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้ากลับมาอุดหนุนซ้ำ หรือจะเป็น ร้านค้าท้องถิ่น ก็สามารถใช้โปรแกรมสะสมแต้มอย่าง LINE coin เพื่อใช้เป็นส่วนลดเมื่อซื้อครบจำนวนครั้งตามที่กำหนด เป็นต้น
5. การใช้โซเชียลมีเดีย
ในปัจจุบัน การตลาดออนไลน์ เป็นเครื่องมือที่ช่วยดึงดูดลูกค้าเข้าร้าน ในยุคนี้คนใช้เวลาออนไลน์เพิ่มขึ้นทุกวัน การทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, TikTok, Twitter หรือ LINE ล้วนแล้วแต่เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้สื่อสารและเชื่อมโยงกับลูกค้าได้โดยตรง ร้านค้าสามารถใช้โซเชียลมีเดียเพื่อสร้างความน่าสนใจและดึงดูดลูกค้าได้หลายวิธี มาดูกันว่าวิธีเรียกลูกค้าเข้าร้านผ่านการตลาดออนไลน์ ทำอย่างไรบ้าง
-
การโพสต์ภาพและวิดีโอโปรโมทร้านค้าและสินค้า
การใช้ภาพและวิดีโอเป็นเครื่องมือหลักที่สามารถสื่อความหมายได้เร็วและชัดเจนกว่าข้อความทั่วไป การโพสต์ภาพและวิดีโอสามารถทำได้หลายรูปแบบ อาทิ การโพสต์ภาพสินค้าและบริการที่โดดเด่น ด้วยการถ่ายภาพ รวมถึงการใช้ กราฟิก ดึงดูดความสนใจ หรือจะเป็น วิดีโอสาธิตการใช้งานสินค้า รีวิวสินค้า จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจสินค้าได้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อ รวมถึงการไลฟ์สดเพื่อโปรโมทสินค้า รีวิวสินค้า หรือจัดกิจกรรมพิเศษ จะช่วยให้ลูกค้าเห็นสินค้าแบบเรียลไทม์ และสามารถถาม-ตอบได้ทันทีซึ่งก็เป็นหนึ่งช่องทางในการโปรโมท ซึ่งร้านค้า offline ก็สามารถใช้วิธีนี้ช่วยโปรโมทร้านได้อีกด้วย -
การใช้โฆษณาบน Facebook, Instagram, และ TikTok
การใช้โฆษณาบนโซเชียลมีเดียเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นและขยายกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว การทำโฆษณาออนไลน์ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook, Instagram และ TikTok จะช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ที่อาจไม่เคยรู้จักร้านมาก่อน และเพิ่มโอกาสในการดึงพวกเขาเข้ามาเยี่ยมชมร้าน มาดูรายละเอียดของการใช้โฆษณาในแต่ละแพลตฟอร์ม
Facebook Ads : Facebook มีระบบโฆษณาที่มีความสามารถในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ โดยสามารถกำหนดได้จากอายุ เพศ ที่อยู่ ความสนใจ และพฤติกรรมของผู้ใช้ สามารถสร้างโฆษณาได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ภาพนิ่ง วิดีโอ หรือสไลด์โชว์ สามารถดึงดูดผู้ชมได้หลากหลาย การทำ Carousel Ads ที่มีหลายภาพหมุนไปเรื่อยๆ สามารถแสดงสินค้าได้หลากหลายชนิดในโฆษณาเดียว
Instagram Ads : คอนเทนต์ใน Instagram จะเน้นการใช้ภาพและวิดีโอเป็นหลัก การโฆษณาบน Instagram จึงเหมาะสำหรับการโปรโมทสินค้าและบริการที่ต้องการนำเสนอภาพสวย ๆ หรือวิดีโอที่น่าดึงดูด
TikTok Ads : เป็นแพลตฟอร์มที่มาแรงสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ การทำโฆษณาบน TikTok สามารถใช้วิดีโอสั้นที่สร้างความบันเทิงและดึงดูดใจ ไม่เพียงเท่านี้ การใช้ Hashtag Challenges ที่เป็นเทรนด์หรือการสร้างคอนเทนต์ที่สนุกสนาน เช่น การเต้น การเล่นเกม หรือการรีวิวสินค้า จะช่วยสร้างกระแสและกระตุ้นให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์
การใช้โฆษณาบนโซเชียลมีเดียช่วยให้ร้านค้าสามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการมองเห็นร้านค้าในวงกว้าง โดยที่สามารถปรับแต่งแคมเปญโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้
TikTok Ads : เป็นแพลตฟอร์มที่มาแรงสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ การทำโฆษณาบน TikTok สามารถใช้วิดีโอสั้นที่สร้างความบันเทิงและดึงดูดใจ ไม่เพียงเท่านี้ การใช้ Hashtag Challenges ที่เป็นเทรนด์หรือการสร้างคอนเทนต์ที่สนุกสนาน เช่น การเต้น การเล่นเกม หรือการรีวิวสินค้า จะช่วยสร้างกระแสและกระตุ้นให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์
การใช้โฆษณาบนโซเชียลมีเดียช่วยให้ร้านค้าสามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการมองเห็นร้านค้าในวงกว้าง โดยที่สามารถปรับแต่งแคมเปญโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้
6.การเพิ่มการมองเห็นบน Google My Business
Google My Business เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณปรากฏบน Google Search และ Google Maps ได้อย่างง่ายดาย การตั้งค่าและใช้เครื่องมือนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะช่วยเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะค้นพบร้านของคุณและตัดสินใจแวะมาเยี่ยมชม
-
การตั้งค่าและเพิ่มข้อมูลบน Google My Business
ก่อนอื่นต้องลงทะเบียนและสร้างโปรไฟล์ธุรกิจของคุณบน Google My Business กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน เช่น ชื่อร้าน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เวลาทำการ ประเภทธุรกิจ และคำอธิบายธุรกิจ อัปโหลดรูปภาพของร้านค้า บรรยากาศภายในร้าน และสินค้าของคุณให้ครบถ้วน และรูปภาพต้องมีความคมชัด จากนั้นก็โพสต์ข้อเสนอพิเศษ กิจกรรมต่าง ๆ หรือข่าวสารเกี่ยวกับร้านค้าของคุณ และอย่าลืมตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ -
การตอบรีวิวและการโต้ตอบกับลูกค้าผ่าน Google
การโต้ตอบกับลูกค้าผ่าน Google My Business เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความประทับใจและเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ และช่วยให้ธุรกิจมีการมองเห็นมากขึ้นด้วยรีวิวที่ดี อย่าลืมตรวจสอบรีวิวที่ลูกค้าเขียนเกี่ยวกับร้านของคุณเป็นประจำ ตอบรีวิวเชิงบวก แสดงความขอบคุณและชื่นชมในความคิดเห็นของลูกค้า
7. การฝึกอบรมพนักงาน
หน้าร้านน่ามอง มีระบบสมาชิก แล้วอย่าลืมเรื่องของการบริการที่ประทับใจ การฝึกอบรมพนักงานเป็นหนึ่งในวิธีที่สำคัญในการดึงดูดและรักษาลูกค้า การมีพนักงานที่มีทักษะการบริการที่ดีและสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ทำให้พวกเขากลับมาใช้บริการที่ร้านอีกครั้งและแนะนำร้านให้กับคนอื่น ๆ
-
การพัฒนาทักษะการบริการลูกค้าให้ดีเยี่ยม
การฝึกอบรมพนักงานให้มีทักษะในการให้บริการที่ดีนั้นเป็นสิ่งที่เจ้าของร้านต้องให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ทักษะการสื่อสารที่ดีสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างชัดเจนและสุภาพ ทั้งในเรื่องของการแนะนำสินค้า การตอบคำถาม และการแก้ไขปัญหา อีกทั้งการรับฟังอย่างตั้งใจและเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ จะช่วยให้พวกเขาสามารถแนะนำสินค้า บริการ หรือวิธีการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น -
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
การฝึกอบรมพนักงานให้สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้ จะช่วยให้ร้านค้าสร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและมีความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็น การแสดงถึงความใส่ใจในความต้องการของลูกค้าอย่างจริงใจ ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำสินค้า การตอบคำถาม หรือการให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ ความจริงใจจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจในการใช้บริการ รวมถึงการให้บริการที่เป็นมิตร การแนะนำสินค้าที่เหมาะสม หรือการให้คำแนะนำในสิ่งที่ลูกค้าอาจยังไม่รู้ การสร้างประสบการณ์ที่ดีจะทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจและอยากกลับมาใช้บริการอีกครั้ง
8.การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า ไม่ใช่แค่การขายสินค้าหรือบริการ แต่เป็นการสร้างความประทับใจที่ทำให้ลูกค้าอยากกลับมาใช้บริการอีกครั้ง
-
วิธีการทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษเมื่อเข้าร้าน
ยิ้มแย้มแจ่มใสทักทายลูกค้าทุกคนที่เข้ามาในร้าน สอบถามความต้องการ และพร้อมช่วยเหลือ แนะนำสินค้าหรือบริการที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย และอย่าลืมที่จะขอบคุณลูกค้าทุกครั้งที่ใช้บริการ และเชิญชวนให้กลับมาใช้บริการอีกครั้ง -
การจัดพื้นที่นั่งรอหรือพื้นที่พิเศษในร้าน
พื้นที่นั่งรอควรมีบรรยากาศผ่อนคลายและสะดวกสบาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น น้ำดื่ม หรือ Wi-Fi ฟรี หรืออาจจะเป็นพื้นที่พิเศษสำหรับลูกค้า VIP หรือลูกค้าประจำ เช่น ห้องรับรองส่วนตัว หรือโซนที่ได้รับสิทธิพิเศษ เป็นต้น
9. การจัดกิจกรรมในร้าน
กิจกรรมพิเศษและเวิร์คช็อป นอกจากจะช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่แล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าเดิมกลับมาใช้บริการซ้ำอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นเจ้าของร้านกาแฟ อาจจะมีจัดกรรม เวิร์คช็อปชงกาแฟ, จิบกาแฟยามบ่าย หรือถ้าเป็นร้านเครื่องสำอาง ก็อาจจะเป็น เวิร์คช็อปแต่งหน้า เป็นต้น นอกจากกิจกรรเวิร์คช็อป การสาธิตสินค้า ยังเป็นกิจกรรมที่จะได้เห็นถึงวิธีการใช้สินค้าใหม่ ๆ หรือสินค้าที่เป็นที่นิยม ให้ลูกค้าได้เห็นประโยชน์และคุณสมบัติของสินค้าอย่างชัดเจน
10. การร่วมมือกับ Influencers
การร่วมมือกับ Influencer เป็นกลยุทธ์การตลาดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะ Influencer มีอิทธิพลต่อผู้ติดตามเป็นอย่างมาก การเชิญ Influencer มาร่วมกิจกรรมในร้านของคุณ จึงเป็นวิธีที่ดีในการสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ และดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาในร้านได้
11. การใช้แอปพลิเคชันเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน การใช้แอปพลิเคชันเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี โดยเฉพาะเรื่องของการชำระเงิน อีกหนึ่งทางเลือกที่เราขอ แนะนำ กับแอปฯ ถุงเงิน แอปรับเงินร้านค้าแอปเดียวที่สามารถรับชำระได้ทุกแอปฯ ธนาคาร วอลเล็ตและพอยท์ เพิ่มความสะดวกให้ร้านค้าและลูกค้า
ข้อดี สำหรับร้านค้าที่ใช้ แอปฯ ถุงเงิน
- ใช้งานสะดวก ง่าย รับชำระได้จากทุกแอปฯ ธนาคาร วอลเล็ต และพอยท์
- มีสรุปยอดขายให้ทั้งแบบรายวันและรายเดือน
- รับเงินจากนักท่องเที่ยวได้ 7 ประเทศผ่าน mobile banking โดยจะเปลี่ยนเงินเป็นสกุลเงินบาทให้อัตโนมัติ (สิงคโปร์ มาเลเชีย อินโดนีเซีย ฮ่องกง เวียดนาม กัมพูชา และ ลาว)
- มีบริการแจ้งเตือนเงินเข้าด้วยเสียง ค้าขายอยู่ก็รู้ยอด ลดความเสี่ยงเรื่องสลิปปลอม
ข้อดี สำหรับลูกค้าที่ใช้ แอปฯ ถุงเงิน
-
ลูกค้าสามารถสแกนจ่ายได้ผ่านป้ายถุงเงินซุปเปอร์ QR หรือ QR จากแอปฯ ถุงเงิน แอปร้านค้าธนาคาร
-
สามารถใช้พอยท์จากพันธมิตร เช่น บางจาก เอไอเอส จ่ายแทนเงินได้ที่ร้านถุงเงิน
12. การตลาดผ่านอีเมล
อีเมลมาร์เก็ตติ้ง คือ การส่งอีเมลไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อสื่อสารข้อมูลข่าวสาร โปรโมชั่น หรือสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยมีเป้าหมายหลักคือการดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการหรือซื้อสินค้าในร้าน โดยการส่งอีเมลโปรโมชั่นและข้อมูลข่าวสารให้กับลูกค้า สามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น ส่งอีเมลแจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการใหม่ ข้อเสนอพิเศษ เช่น ส่วนลดหรือคูปองเฉพาะสำหรับสมาชิกหรือผู้รับอีเมล การให้ข้อเสนอพิเศษผ่านอีเมลช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความสนใจและมีแนวโน้มที่จะมาใช้บริการที่ร้าน
สำหรับการใช้แคมเปญอีเมลเพื่อดึงดูดลูกค้าเข้าร้าน ยกตัวอย่างเช่น แคมเปญอีเมลเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษ เช่น เทศกาล วันสำคัญ หรือวันเกิดของลูกค้า การออกแบบแคมเปญให้มีธีมเฉพาะตามโอกาส เช่น “โปรโมชั่นวันแม่: ลด 30% สำหรับสินค้าทุกชิ้น” หรือ “เซอร์ไพรส์วันเกิด: รับของขวัญพิเศษเมื่อมาที่ร้านในวันเกิดของคุณ” เป็นต้น
13. การกระตุ้นให้ลูกค้ารีวิวร้าน
การรีวิวและคำแนะนำจากลูกค้า เป็นวิธีสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าของคุณ และเป็นการบอกต่อที่ดีที่สุด เพราะรีวิวเหล่านั้น มาจากลูกค้าที่เคยใช้บริการจริง
-
วิธีการขอรีวิวจากลูกค้าที่พอใจ
ขณะที่ลูกค้ายังประทับใจกับบริการ แนะนำให้ลองขอให้พวกเขารีวิวผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น โซเชียลมีเดียของทางร้าน, เว็บไซต์ ซึ่งอาจจะมีข้อเสนอให้กับลูกค้าเมื่อมาใช้บริการในครั้งต่อไป เช่น ส่วนลดพิเศษ, ของพรีเมี่ยมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเป็นการขอบคุณที่ลูกค้าสละเวลาให้รีวิว และไม่ว่าการรีวิวนั้นจะเป็นบวกหรือลบ ควรแสดงความขอบคุณต่อรีวิวนั้น ๆ เพราะจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับความใส่ใจ -
การใช้รีวิวเพื่อโปรโมทร้านค้าและดึงดูดลูกค้าใหม่
เจ้าของร้าน อาจจะสร้างคอนเทนต์ด้วยการนำรีวิวมาโพสต์บนโซเชียลมีเดีย หรือเว็บไซต์ของร้าน สร้างบทความหรือวิดีโอที่รวบรวมรีวิวจากลูกค้า เมื่อมีลูกค้าใหม่สอบถามเกี่ยวกับบริการ สามารถนำรีวิวมาอ้างอิงเพื่อสร้างความมั่นใจ
14. การตอบสนองต่อรีวิว
การตอบสนองต่อรีวิวของลูกค้านั้นสำคัญมาก เพราะเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของลูกค้า และพร้อมที่จะปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การตอบรีวิวอย่างมืออาชีพยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าของคุณ และดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาอีกด้วย
-
ตัวอย่างการตอบรีวิวเชิงบวก
"ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำชมค่ะ เราดีใจที่คุณชอบบริการของเรา เรายินดีต้อนรับคุณกลับมาใช้บริการอีกครั้งเสมอค่ะ" -
ตัวอย่างการตอบรีวิวเชิงลบ
"เราขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นค่ะ เราจะนำคำติชมของคุณไปปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้นค่ะ หากคุณสะดวก สามารถติดต่อเราโดยตรงเพื่อให้เราช่วยแก้ไขปัญหาได้นะคะ"
การตอบสนองต่อรีวิวเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าที่สำคัญมาก ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และนำไปสู่การปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้นในระยะยาว
และนี่คือ 14 เทคนิคดึงดูดลูกค้าเข้าร้าน ไม่ว่าจะเป็น การตกแต่งหน้าร้านให้โดดเด่น ช่วยเพิ่มความน่ามอง ดึงดูดลูกค้าให้เข้าไปในร้านเพื่อซื้อสินค้า และแน่นอนว่าการที่มีโปรโมชั่นและส่วนลด การตลาดออนไลน์ที่ดี รวมถึงการบริการที่สร้างความประทับใจให้ลูกค้าเพื่อความสำเร็จในระยะยาว จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การซื้อสินค้าและบริการของลูกค้าได้อย่างมาก ท้ายที่สุดรีวิวและคำแนะนำจากลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้พัฒนาการบริการ ปรับปรุงร้านค้าให้ดียิ่งขึ้น
และหากคุณเป็นเจ้าของร้านค้า ให้เรื่องการเงินเป็นเรื่องง่ายด้วยการใช้ แอปพลิเคชันถุงเงิน แอปเดียวที่เข้ามาช่วยบริหารการเงินร้านค้า รับเงินง่าย จ่ายสะดวก ต่อยอดสบาย ค้าขายร่ำรวย รองรับทั้งเงิน ทั้งพอยท์ จากบริการ พอยท์เพย์ ไม่ต้องโหลดแอปใหม่เพิ่มเติม สมัครฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02 111 1111 หรือที่ krungthai.com