เรื่องเด่น

ไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม ใช้เงินเท่าไหร่ และต้องเตรียมอะไรบ้าง?

อัพเดทวันที่ 6 ต.ค. 2567

ไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหมและต้องเตรียมอะไรบ้าง

หากพูดถึงทริปในฝัน “ดินแดนอาทิตย์อุทัย” ต้องเป็นหนึ่งในประเทศยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวอยากลัดฟ้าไปพักผ่อน นอกจากบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นผสานกับความสวยงามแล้ว ประเทศญี่ปุ่นยังเป็นแหล่งรวมอาหารชั้นเลิศ อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมที่น่าจดจำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราที่ได้ไปเที่ยวนั้นยากที่จะลืม

เพื่อให้ทริปในฝันของคุณเกิดขึ้นจริง กรุงไทยขอพานักเดินทางทุกท่านเตรียมความพร้อมก่อนลัดฟ้าสู่แดนปลาดิบ ด้วยคู่มือก่อนเดินทางที่รวมเกร็ดต้องรู้ให้ได้เตรียมตัว เช่น ไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไหร่?, ไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม? บอกเลยว่าคู่มือฉบับนี้จะติวให้คุณพร้อมบินได้อย่างแน่นอน


เตรียมความพร้อมก่อนทะยานสู่ประเทศญี่ปุ่น

อยากจะเที่ยวแดนปลาดิบทั้งทีต้องเตรียมตัวกันหน่อย จะได้มีทริปในฝันสุดหรรษาแบบไร้กังวล ถ้าพร้อมออกเดินทางแล้ว หยิบกระดาษและปากกาเตรียมจดเช็กลิสต์ที่ไม่ควรพลาดก่อนทะยานฟ้าสู้ประเทศญี่ปุ่นไปด้วยกัน


เที่ยวญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม


ไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม? รู้เร็วเตรียมตัวทัน

ใครที่วางแผนอยู่เที่ยวไม่เกิน 15 วัน คำตอบคือ “ไม่ต้องขอวีซ่า” ในการเดินทางเข้าญี่ปุ่น เพราะทางการญี่ปุ่นเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวด้วยการมอบวีซ่าฟรีให้เป็นเวลา 15 วันนั่นเอง ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศญี่ปุ่นเองแถมเป็นการเปิดโลกทางวัฒนธรรมให้นักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ได้ดื่มด่ำกับเสน่ห์ที่น่าจดจำด้วยเช่นกัน

ในกรณีนักเดินทางที่ต้องการอยู่มากกว่า 15 วัน จำเป็นต้องขอวีซ่าตามประเภทของตนเอง และถ้าใครฝ่าฝืนในระเบียบนี้ จะมีโทษห้ามเข้าญี่ปุ่นขั้นต่ำ 1 ปีขึ้นไป เพราะฉะนั้นวางแผนการเดินทางของเราให้ดี จะได้เที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างเพลิดเพลิน


“พาสปอร์ต” ไอเทมสำคัญในต่างแดน

เมื่อทราบคำตอบแล้วว่าไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม? ลำดับถัดมาคือการเตรียมพาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทางในต่างแดนนั่นเอง โดยพาสปอร์ตจะเป็นหนังสือในการยืนยันตัวตนแก่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองว่าเรานั้นเป็นนักเดินทางสัญชาติไทยที่มาท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง

ซึ่งก่อนออกเดินทาง นักท่องเที่ยวทุกท่านต้องตรวจเช็กให้ดีว่าเรานั้นมีหนังสือเดินทางหรือยัง? ถ้ามีแล้วพาสปอร์ตเล่มนั้นมีอายุน้อยกว่า 6 เดือนหรือไม่? หากเช็กแล้วเราขาดข้อใดข้อหนึ่งไป ก็สามารถมาทำหนังสือเดินทางได้ที่กรมการกงสุล หรือสำนักงานหนังสือเดินทางทั่วประเทศ โดยมีค่าใช้จ่ายในการทำพาสปอร์ตเริ่มต้นที่ 1,000 บาท สำหรับ 5 ปี และ ราคา 1,500 สำหรับ 10 ปี ซึ่งเราสามารถเลือกระยะเวลาตามต้องการได้เลย


ตั๋วเครื่องบิน

มีตั๋วเครื่องบินมุ่งสู่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว สิ่งสำคัญเลยคือการเก็บติดตัวและรักษาไว้ให้ดี อย่าเผลอทิ้งเป็นอันขาด เพราะเราต้องใช้ตั๋วเครื่องบินในการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง โดยเราจะใช้ข้อมูลจากตั๋วเครื่องบิน ในการกรอกลงทะเบียนบนเว็บไซต์ Visit Japan Web ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลากระบวนการทางศุลกากร รวมถึงขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นด้วยนั่นเอง


เอกสารการจองที่พัก

หลังจากซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว วางแผนการเดินทางรวมถึงระยะเวลาในการอยู่อาศัยในประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อย สิ่งสำคัญลำดับถัดมาคือ “การจองที่พัก” ล่วงหน้าให้เรียบร้อย เพราะส่วนนี้จะนำมาใช้เป็นหลักฐานในการยืนยันตนต่อเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง


นักท่องเที่ยวห้ามลืม Visit Japan Web เด็ดขาด

"Visit Japan Web" คือเว็บไซต์ที่พัฒนาขึ้นโดยรัฐบาลญี่ปุ่น เป็นการกรอกใบตรวจคนเข้าเมืองในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับนักเดินทางทุกท่านให้ได้เตรียมตัวก่อนเดินทาง และช่วยลดขั้นตอนทางศุลกากรในการตรวจคนเข้าเมืองนั่นเอง

โดยนักเดินทางสามารถเข้าไปทำการลงทะเบียนได้ที่ vjw-lp.digital.go.jp พร้อมข้อมูลเอกสารประกอบการเดินทางอย่าง พาสปอร์ต, ตั๋วเครื่องบิน และรายละเอียดการจองที่พักในประเทศญี่ปุ่น เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อย ก็เตรียมตัวเดินทางสู่ทริปในฝันได้เลย


“บัตร Travel Card” ไอเทมที่ต้องมีในการท่องเที่ยวทริปในฝัน

แลกเงินบาทสู่เงินเยนแล้วก็จริง แต่จะดีกว่าไหมถ้ามีบัตร Travel Card เป็นเพื่อนคู่ใจในการเดินทาง ลดความเสี่ยงต่อการถือเงินจำนวนมากระหว่างเดินทาง อีกทั้งยังแลกเงินเก็บไว้ในอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดได้อีกด้วย และสามารถจ่ายผ่านบัตรได้ที่ ATM หรือร้านค้าที่รับบัตร Visa ทั่วโลกภายใต้สกุลเงินที่รองรับได้ เรียกว่าสานฝันทริปหรรษาให้เพลิดเพลินได้อย่างไร้รอยต่อด้วยบัตรใบเดียว

และกรุงไทยเองก็มีบริการบัตร Travel Card มาเอาใจนักเดินทางทุกท่าน ตอบโจทย์ทุกการเดินทางอย่างครอบคลุมทั่วโลก พร้อมีเครดิตเงินคืนสูงสุด 5,000บาท ต่อปี แลกเเงินไว้ก็ได้รับดอกเบี้ยสูงสุดถึง 2.5% จากบัญชี Global Savings และใช้จ่ายสบายไม่เสียค่าธรรมเนียม ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5% รองรับบริการโอนเงิน และชำระเงินด้วย QR Code ในต่างประเทศด้วยเงินสกุลเงินที่แลกเก็บไว้ในบัตรได้อีกด้วย


อยากไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไร? บทความนี้มีคำตอบ

เตรียมตัวสเต็ปแรกเรียบร้อยแล้ว การทะยานสู่ทริปในฝันลำดับถัดมาคือการตอบคำถามที่ว่าไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไร? แน่นอนว่ารูปแบบทริปในฝันของแต่ละคนนั้นมีมุมมองที่ต่างกันออกไป บางคนก็อยากท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ บางคนก็อยากไปแหล่งเช็กอินสุดฮอต บางคนก็อยากตามรอยแอนิเมชันในดวงใจ นั่นแปลว่าราคาของทริปเที่ยวญี่ปุ่นนั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบการท่องเที่ยวของเรา และไม่มีราคาที่แน่นอน

ถึงแม้ราคาของทริปในฝันจะมีความผันผวนไปตามความต้องการของแต่ละคน แต่ก็ใช่ว่าจะไกด์ทางสู่การคำนวณค่าใช้จ่ายไม่ได้เลย กรุงไทยจะมาช่วยหาคำตอบที่ว่าไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไร? กับปัจจัยสำคัญในการเดินทางครั้งนี้ มีอะไรบ้างที่ต้องเตรียมตัว มาดูพร้อมกันเลย


ไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไรดี ไม่ให้เกินงบ


ไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไรกับค่าตั๋วเครื่องบิน

เริ่มต้นด้วยค่าเดินทางข้ามประเทศกับราคาตั๋วเครื่องบินไป - กลับญี่ปุ่น ซึ่งราคาส่วนนี้มีความแตกต่างกันออกไปตามสายการบิน รวมถึงค่าบริการต่าง ๆ โดยชั้นประหยัดในปี 2567 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังประเทศญี่ปุ่น ราคาเริ่มต้น 7,000 บาท ซึ่งบางครั้งอาจมีโปรโมชันฟ้าแล่บจากสายการบินหรือเอเย่นต์ ทำให้เราได้ราคาเครื่องบินที่ถูกกว่านี้ได้อีกเช่นกัน


ไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไรกับค่าที่พัก

ที่พักในประเทศญี่ปุ่นมีหลากหลายรูปแบบให้ได้เลือกสรรตามความต้องการ จะเป็นโฮสเทล หรือโรงแรมชั้นนำก็มีพร้อมให้เราได้เลือกอาศัยชั่วคราว โดยที่พักในแต่ละที่มีราคาแตกต่างกันไปในแต่ละเมืองและฤดูกาล

ด้วยความที่ปัจจุบันนี้มีรูปแบบที่พักในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลากหลายมากขึ้น เป็นผลให้เมืองท่องเที่ยวอย่างโอซาก้า, โตเกียว, ฟุกุโอะกะ, นาโกย่า และอื่น ๆ มีราคาที่พักเริ่มต้นในราคาหลักร้อย ไปจนถึงหลักหมื่น โดยสามารถดูรายละเอียดราคาเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์เอเย่นต์การท่องเที่ยวเพิ่มเติมอย่าง Skyscanner หรือ Agoda เพื่อตามหาที่พักที่ตอบโจทย์ต่องบประมาณเราที่สุด


ไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไรกับค่าเดินทางในประเทศ

การคมนาคมที่ญี่ปุ่นนั้นเลื่องชื่ออย่างมาก สะดวกสบายแก่ผู้เดินทางสุด ๆ อีกหนึ่งเสน่ห์ของการเดินทางในญี่ปุ่น คือการเดินทางด้วยรถไฟ ซึ่งตั๋วรถไฟ JR PASS นั้นเริ่มต้น 700 บาท/คน นักเดินทางสามารถคำนวณงบประมาณเบื้องต้นได้จากแผนการท่องเที่ยวของเราเองว่าจะเดินทางไปที่ไหน อย่างไรบ้าง เพียงเท่านี้ก็สามารถกะงบประมาณด้านการเดินทางในญี่ปุ่นได้แล้ว


ไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไรกับค่าอาหาร

อาหารเลิศรสในญี่ปุ่นนั้นมีให้คุณเลือกสรรไม่น้อย โดยเฉพาะอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่ออย่าง ราเมน หรือ ซูชิ เฉลี่ยตกมื้อละ 200 – 700 บาทต่อคนได้ เพื่อการคำนวณงบประมาณก่อนเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองมองหารีวิวร้านอาหารในญี่ปุ่นเบื้องต้น เพื่อศึกษาราคา และอาจเป็นอีกหนึ่งทริคในการวางแผนการท่องเที่ยวของคุณได้


ไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไรกับค่าบัตรเข้าชม สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม

ประเทศญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจให้เราได้ไปเยือนในแต่ละเมืองมากมาย เพื่อให้คุณได้วางแผนงบประมาณการท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น เราจะมาไกด์ให้คุณได้รู้ก่อนเตรียมตัวออกเดินทาง


เมือง สถานที่ ราคาบัตรเริ่มต้น (บาท)
โอซาก้า
พิพิธภัณฑ์ปราสาทโอซาก้า
160
โอซาก้า ยูนิเวอร์แซล โอซาก้า
2,160
โตเกียว จุดชมวิวโตเกียวสกายทรี 450
ฟุกุโอกะ ฟุกุโอกะทาวเวอร์ 180
ฟุกุโอกะ ธีมปาร์คฮูสเทนบอช 260
โอกินาว่า พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ 560
ซัปโปโร จุดชมวิวซัปโปโรทีวีทาวเวอร์  220


ไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไรกับค่าของฝาก

ปิดท้ายด้วยของฝากจากญี่ปุ่น ด้วยความที่ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศท่องเที่ยว ที่มีนักเดินทางแวะเวียนเยี่ยมชมบ่อยครั้ง ทำให้มีของที่ระลึกให้เลือกเยอะมากมาย ไม่ว่าจด้านวัฒนธรรม, การ์ตูนชื่อดัง, เครื่องสำอาง, ของเล่นและของสะสม รวมไปถึงของกิน

ซึ่งเป็นแหล่งละลายทรัพย์ชั้นดีให้คุณก่อนกลับบ้าน เพราะฉะนั้นคุณสามารถตั้งงบประมาณส่วนนี้ก่อนไปได้เลยว่าของฝากก่อนกลับนั้นมีงบประมาณไม่เกิน 3,000 บาท เพื่อให้แผนการซื้อของฝากของคุณเป็นไปตามแผนมากยิ่งขึ้น ลองศึกษาราคาของฝากต่าง ๆ ของญี่ปุ่นในเว็บไซต์ก่อน เพื่อคำนวณงบส่วนนี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น


ไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไหร่ วางแผนการเงินก่อนไปญี่ปุ่น


การเตรียมตัวทะยานฟ้าสู่ประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงมีบทความนี้เป็นเพื่อนคู่ใจก่อนออกเดินทาง ก็จะช่วยเสริมความมั่นใจได้ว่าทริปในฝันครั้งนี้สนุกได้อย่างไร้รอยต่อ เพราะเราได้รวมเกร็ดที่ต้องรู้ก่อนเดินทางสู่ประเทศญี่ปุ่นไว้ให้คุณแล้ว

เพื่อให้การเดินทางสู่แดนปลาดิบนั้นสนุกยิ่งขึ้น อย่าลืมเตรียมไอเทมสำคัญอย่างบัตร Krungthai Travel Debit Card ใช้จ่ายสบายไม่เสียค่าธรรมเนียมในต่างแดน ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง เป็นเพื่อนคู่ใจของคุณได้ตลอดทริป ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับคนชอบเที่ยว

  • รับเครดิตเงินคืนจุกๆ 0.1% สูงสุด 5,000 บาท/ปี จากการรูดใช้จ่ายในต่างประเทศ ด้วยสกุลเงินต่างประเทศ สะสมทุกๆ 30,000 บาท/เดือน ไม่จำกัดสิทธิ์ ไม่ต้องลงทะเบียน ตั้งแต่ 19 ก.ย. 67 ถึง 31 ธ.ค. 67 และ รับเครดิตเงินคืน 0.5% สูงสุด 5,000 บาท/ปี ตั้งแต่ 1 ม.ค. 68 ถึง 31 ธ.ค. 68
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศที่ดีที่สุด รองรับ 20 สกุลเงิน ได้แก่ AED, AUD, CAD, CHF, CNY, DKK, EUR, GBP, HKD, INR, JPY, KRW, NOK, NZD, SAR, SEK, SGD, TWD, USD และ QAR
  • แลกเงินไว้พร้อมรับดอกเบี้ยสูงสุด 2.5% ผ่านบัญชี Global Savings กับ 6 สกุลเงิน USD, GBP, EUR, AUD, NZD, CNY
  • ใช้จ่ายผ่านบัตรไม่เสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5%
  • สามารถแลกเงินและจัดการบัตรง่าย ๆ ตลอด 24 ชม. ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
  • สิทธิประโยชน์จากร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วโลก ส่วนลดพิเศษ, เครดิตเงินคืน หรือบริการพิเศษ จากร้านค้าชั้นนำที่ธนาคารและ MasterCard คัดสรรมานำเสนอตลอดทั้งปี
  • สมัครวันนี้ ยกเว้นค่าธรรมเนียมออกบัตร และรายปี(ปีแรก) รวมมูลค่า 1,000 บาท เมื่อคงสถานะเป็นลูกค้า Krungthai Wealth ของธนาคาร หรือ ลูกค้าเดิมที่ถือบัตรเรียนเชิญ Krungthai Travel Visa Platinum

ไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม ใช้เงินเท่าไหร่ และต้องเตรียมอะไรบ้าง? | ธนาคารกรุงไทย ญี่ปุ่นเป็นดินแดนในฝันที่ใครก็อยากไป แล้วไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไร?, ไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม? กรุงไทยได้รวมเกร็ดต้องรู้ให้คุณพร้อมบินแล้ว