เรื่องเด่น

เช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองง่าย ๆ รู้ผลไว ก่อนขอสินเชื่อ

อัพเดทวันที่ 17 ก.ค. 2567

เช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองง่าย ๆ สะดวก รู้ผลไว

เครดิตบูโร คำยอดนิยมของวงการสินเชื่อ ที่ไม่ว่าใครเมื่อกำลังวางแผนซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือเป็นลูกค้าบัตรเครดิตต่างก็เคยได้ยินคำนี้ เพราะเครดิตบูโรมีผลอย่างมากต่อการพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร เป็นเครื่องการันตีความหน้าเชื่อถือของผู้กู้ ว่ามีความสามารถในการชำระหนี้แค่ไหน

บทความนี้เราจะพามารู้จักกับเครดิตบูโร และการเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ รู้ผลไวในไม่กี่ขั้นตอน


เครดิตบูโรคืออะไร

ในการพิจารณาให้สินเชื่อ ธนาคารจะรู้ได้อย่างไรว่าบุคคลนั้น ๆ มีประวัติการชำระหนี้ดีหรือไม่ หากไม่มีหน่วยงานที่น่าเชื่อถือเป็นผู้รวบรวมข้อมูล ทำให้ พรบ. การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ.2545 เกิดขึ้นมาพร้อมกับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือ National Credit Bureau เพื่อทำหน้าที่ในการเช็คข้อมูลประวัติการชำระหนี้ของลูกค้า

ในมุมของคนทั่วไป “เครดิตบูโร” (Credit Bureau) คือ ข้อมูลลูกค้าที่ทำธุรกรรมผ่านสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลส่วนบุคคลอย่าง ชื่อ, เลขที่บัตรประชาชน, ที่อยู่, วัน เดือน ปีเกิด, สถานภาพการสมรส, อาชีพ รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ, ประวัติการชำระสินเชื่อ, การผ่อนชำระ นอกจากนี้ยังรวมถึงข้อมูลบัตรเครดิต อาทิ จำนวนบัตรที่ถือครอง, ประวัติการชำระ และยอดค้างจ่าย เมื่อเราต้องการขอสินเชื่อ สถาบันการเงินก็จะเช็คเครดิตบูโรของเรา เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณา บางคนที่ขอสินเชื่อไม่ผ่านจึงมักคิดว่าตัวเองติดเครดิตบูโร หรือติด Blacklist ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ เพราะเครดิตบูโรเป็นเพียงการรวบรวมข้อมูลทางการเงินเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้กู้ก็สามารถเช็คบูโรด้วยตัวเองได้เช่นกัน


ควรเช็คเครดิตบูโรเมื่อไหร่

อย่างที่บอกว่า หากต้องการขอสินเชื่อแนะนำให้เช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจ แต่การเช็คบูโรด้วยตัวเองนั้น ก็ไม่ได้จำกัดเฉพาะการขอสินเชื่อเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายเหตุผลดังต่อไปนี้

  1. เพื่อวางแผนการเงินระยะยาว ในกรณีที่มีภาระหนี้สินเยอะ หรือต้องบริหารจัดการเงินหลายก้อนในแต่ละเดือน บางครั้งการชำระหนี้อาจตกหล่น จ่ายไม่ครบ ซึ่งสถานะของเครดิตบูโรจะบอกได้ว่าเรามียอดค้างชำระหรือไม่ และมีระยะเวลาค้างชำระเท่าไหร่ เพื่อให้เราเช็คและปิดหนี้ได้ครบถ้วน หรือถ้าเรามีเรื่องต้องใช้เงินอีกในอนาคต ก็สามารถนำข้อมูลนี้มาวางแผนได้ว่าเราสามารถก่อหนี้เพิ่มได้หรือไม่
  2. เพื่อเช็คความถูกต้องและป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพ บางครั้งเจ้าหน้าที่ของสถาบันการเงินอาจกรอกข้อมูลลูกหนี้ผิดพลาด ไม่ได้นำส่งข้อมูลการชำระสินเชื่อให้กับเครดิตบูโร ทำให้ข้อมูลของเราผิดพลาดโดยที่เราไม่รู้ตัว หรือในยุคที่มิจฉาชีพทำงานอย่างแข็งขันเช่นนี้ อาจมีการแอบอ้างหลอกลวงว่าเราติดเครดิตบูโร  พร้อมแนะนำให้เราเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเพื่อเข้าถึงช่องทางการเงินของเรา หากเราเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองเอาไว้แต่แรก ก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
  3. เพื่อเป็นข้อมูลก่อนการขอสินเชื่อ ไม่เพียงมีข้อมูลการชำระหนี้ แต่เครดิตบูโรยังเก็บข้อมูล Credit Scoring หรือเกรดที่สถาบันการเงินระบุให้กับลูกค้าเอาไว้ด้วย หากประวัติการชำระหนี้ดี ก็จะมี Credit Scoring สูงถึงระดับ AA ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งเป็นลูกหนี้เกรดดีเท่าไหร่ โอกาสในการขอสินเชื่อก็มีมากขึ้นเท่านั้น

เช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองง่าย ๆ รู้ผลไว


เช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองได้จากที่ไหน

ปัจจุบันมีวิธีเช็คบูโรด้วยตัวเองได้จากหลายช่องทาง ทั้งแบบศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ตู้ Kiosk และผ่านแอปพลิเคชัน ดังต่อไปนี้

เช็คที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร และตู้ Kiosk ใช้เวลารอผลเพียง 15 นาที


  1. ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ แกรนด์พระรามเก้าชั้น 2
    ที่ตั้ง อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส แกรนด์ พระราม 9 ชั้น 2 โซนพลาซ่า
    เลขที่ 33/4 ถนนพระราม 9  แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10130
    วันเวลาเปิด-ปิด วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00 - 16.30 หยุดวันนักขัตฤกษ์

  2. เครดิตบูโรคาเฟ่ อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ชั้น 3
    ที่ตั้ง เลขที่ 1177 ชั้น 3 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
    วันเวลาเปิด-ปิด วันจันทร์ - วันศุกร์ 09.00 - 18.00 น. (เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)

  3. ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง
    ที่ตั้ง เลขที่ 201 ซอยสีลม 2/1 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
    วันเวลาเปิด-ปิด วันจันทร์ - วันศุกร์ 09.00 - 18.00 น. หยุดวันหยุดนักขัตฤกษ์

  4. ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
    ที่ตั้ง สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ภายในสถานี)
    ถนนพญาไท แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
    วันเวลาเปิด-ปิด จันทร์-อาทิตย์ ไม่มีวันหยุด เวลา 9.00-18.00 น.

  5. ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต
    ที่ตั้ง สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีหมอชิต (ภายในสถานี) แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
    วันเวลาเปิด-ปิด วันจันทร์-อาทิตย์ ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9.00-18.00 น.

  6. ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ห้างเจ-เวนิว (นวนคร)
    ที่ตั้ง เลขที่ 98/40 หมู่ 13 ห้างเจเวนิว (นวนคร) ชั้น 3 (ติดประกันสังคม)
    ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120
    วันเวลาเปิด-ปิด วันจันทร์ - วันอาทิตย์ 09.00 - 18.00 น.

  7. ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร-ท่าวังหลัง บริเวณทางเข้า-ออกท่าเรือ
    และใกล้ประตู 8 ของโรงพยาบาลศิริราช
    ที่ตั้ง ท่าเรือพรานนก แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700
    วันเวลาเปิด-ปิด วันจันทร์ - วันอาทิตย์ 09.00 - 18.00 น.

  8. สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ)
    ที่ตั้ง เลขที่ 10 ถนนกำแพงเพชร แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
    ด้านหลังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ประตูทางเข้า 1
    จุดติดตั้งนาฬิกาประจำสถานี หรือนาฬิกาหน้าปัดหมายเลข ๙
    วันเวลาเปิด-ปิด วันจันทร์ - วันอาทิตย์ 08.30 - 23.00 น.

  9. อาคารสาธรนครทาวเวอร์ ชั้น 1
    ที่ตั้ง เลขที่ 100 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
    อาคารสาธรนครทาวเวอร์
    วันเวลาเปิด-ปิด วันจันทร์ - วันเสาร์ 08.00 - 17.30 น.

  10. ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย (อาคาร A) ชั้น 2
    ที่ตั้ง โถงต้อนรับชั้น 2 เยื้องจุดสอบถามศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย
    เลขที่ 273 ถนนสามเสน แขวงวัดสามพระยา. เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
    วันเวลาเปิด-ปิด วันจันทร์ - วันอาทิตย์ 08.00 - 20.00 น.

  11. ยื่นผ่านเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ธนาคาร กรุงศรี (ทุกสาขา)
    ที่ตั้ง เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงศรีทุกสาขาทั่วประเทศ
    วันเวลาเปิด-ปิด วันจันทร์ - วันศุกร์ 08.30- 15.30
    หรือเคาน์เตอร์ธนาคารในห้างสรรพสินค้าเปิดทุกวันเวลา 10.00 - 18.30 น.

  12. ใช้บัตร ATM ทำรายการผ่านหน้าจอของธนาคารที่รับเช็คเครดิตบูโร
    ที่ตั้ง ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย และตู้ ATM ธนาคารไทยพาณิชย์ทั่วประเทศ
    วันเวลาเปิด-ปิด ตลอด 24 ชั่วโมง

  13. ยื่นที่ทำการไปรษณีย์ เฉพาะสาขาที่ให้บริการ
    ที่ตั้ง ที่ทำการไปรษณีย์และเคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์สาขาที่ให้บริการ
    วันเวลาเปิด-ปิด ตามเวลาทำการของที่ทำการไปรษณีย์สาขานั้น ๆ

เช็คแบบออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน สะดวก ง่าย ไม่ต้องเดินทาง


  1. ยื่นคำร้องผ่านโมบายแอปพลิเคชันทางรัฐ
    ระยะเวลาในการรอผล 15 นาที

  2. ยื่นคำร้องผ่านโมบายแอปพลิเคชัน “Bureau OK” 
    ก่อนใช้งานให้ลงทะเบียนที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโรทุกแห่ง

  3. ยื่นคำร้องผ่านโมบายแอปพลิเคชัน “Flash Express” (Flash Money)
    ระยะเวลาในการรอผล
    • กรณีรับรายงานทางอีเมล: ภายใน 24 ชั่วโมง
    • กรณีรับรายงานทางไปรษณีย์: ภายใน 7 วัน

  4. ลงทะเบียนเพื่อทำรายการผ่านแอปพลิเคชันธนาคารบนโทรศัพท์มือถือ ต่อไปนี้
    • Krungthai Next ธนาคารกรุงไทย ช่องทางที่สะดวกที่สุดสำหรับลูกค้าธนาคารกรุงไทย คลิกเลย
    • Bualuang mBanking ธนาคารกรุงเทพ
    • MyMo ธนาคารออมสิน
    • KKP Mobile

    ระยะเวลารอผล

    • กรณีรับรายงานทางอีเมล: ภายใน 24 ชั่วโมง
    • กรณีรับรายงานทางไปรษณีย์: ภายใน 7 วัน

  5. TTB Touch แอปพลิเคชันของธนาคารธนชาต ระยะเวลาในการรอผล
    • กรณีรับรายงานทางอีเมล: ภายใน 3 วัน
    • กรณีรับรายงานทางไปรษณีย์: ภายใน 7 วัน

  6. ทำรายการผ่านภายใน เว็บไซต์ธนาคารกรุงศรีฯ
    ระยะเวลาในการรอผล 7 วัน

ข้อควรรู้ สถานะเครดิตบูโรเป็น 0 คืออะไร

เมื่อรู้วิธีเช็คบูโรด้วยตัวเองแล้ว ต่อมาก็ต้องรู้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสถานะเครดิตบูโร หลายคนที่เช็คข้อมูลมาแล้วอาจสงสัยว่าเครดิตบูโรเป็น 0 คืออะไร อธิบายได้ว่าเครดิตบูโรของคุณอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะไม่มียอดค้างชำระเกิน 30 วัน โดยข้อมูลสถานะจะแสดงเป็น 0 – F ดังนี้

สถานะ 0 ไม่ค้างชำระ หรือค้างชำระไม่เกิน 30 วัน
สถานะ 1 ค้างชำระ 31 - 60 วัน
สถานะ 2 ค้างชำระ 61 - 90 วัน
สถานะ 3 ค้างชำระ 91 - 120 วัน
สถานะ 9 ค้างชำระ 271 - 300 วัน
สถานะ F ค้างชำระมากกว่า 300 วัน

เครดิตบูโรเป็น 0 คืออะไร

ทำอย่างไรให้เครดิตบูโรเป็น 0

ถึงขั้นตอนนี้ ถ้าพบว่าสถานะเครดิตบูโรของเรากำลังน่าเป็นห่วง อยากขอสินเชื่อ แต่ดูแล้วน่าจะผ่านยาก ลองมาดูกันสิว่า เราจะสามารถแก้สถานะเครดิตบูโรให้เป็น 0 หรือกลับมาเป็นปกติได้อย่างไร

  1. เคลียร์หนี้ให้หมด โดยเช็คสถานะเครดิตบูโรว่ามีหนี้สินอะไรคงค้างอยู่ อย่าเพิ่งก่อหนี้ใหม่ แล้ววางแผนชำระหนี้ให้หมด อาจใช้วิธีขอพักชำระหนี้ ทยอยชำระขั้นต่ำจนหมด ไม่ให้มีข้อมูลค้างในระบบ
  2. สร้างสถานะเครดิตบูโรขึ้นใหม่ เป็นการสร้างความน่าเชื่อถืออีกครั้ง ด้วยการขอสินเชื่อเงินสด หรือบัตรเครดิตแล้วชำระตามข้อตกลงให้ถูกต้อง เพียงเท่านี้สถานะเครดิตบูโรของเราก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น
    สำหรับใครที่รับเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย ขอแนะนำทางเลือกในการมีเงินพร้อมใช้ในยามฉุกเฉิน สร้างสถานะเครดิตบูโรใหม่ ด้วย สินเชื่อกรุงไทยธนวัฏ* ที่ให้วงเงินสดสำรองพร้อมใช้สูงสุดถึง 15 เท่าของเงินเดือนตามเงื่อนไข ดอกเบี้ยต่ำ ไม่จำเป็นต้องค้ำประกัน คิดดอกเบี้ยตามจริง ถ้าไม่ใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ย
  3. รออนุมัติเครดิตบูโรเป็น 0 เนื่องจากธนาคารแต่ละแห่งจะติดตามพฤติกรรมการชำระหนี้ตามระยะเวลาที่ธนาคารกำหนด ก่อนพิจารณาสินเชื่อใหม่อีกครั้ง ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลา 6 เดือน หรือ 1 - 2 ปี

เครดิตบูโรเป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าที่คิด เพราะทุก ๆ การใช้จ่ายผ่านสถาบันการเงินข้อมูลจะบันทึกเอาไว้เพื่อเป็นคะแนนให้กับเราในการขอสินเชื่อครั้งต่อ ๆ ไป ดังนั้น อย่ามองข้ามการชำระหนี้สิน ควรใส่ใจและตรงต่อเวลาเสมอ รวมทั้งตรวจเช็คสถานะเครดิตบูโรด้วยตัวเอง เพื่อให้ข้อมูลถูกต้อง และเป็นการรักษาสถานะเครดิตที่ดีสำหรับการขอสินเชื่อในอนาคต


กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
*อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 11.07% – 16.57% ต่อปี | อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง MRR = 7.57% ต่อปี (ณ วันที่ 20 พ.ย. 66) | อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ | วงเงินสูงสุด 15 เท่าของเงินเดือน สำหรับกรณีที่หน่วยงานต้นสังกัดทำบันทึกข้อตกลงกับธนาคาร (MOU)| เงื่อนไขและเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

เช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองง่าย ๆ รู้ผลไว ก่อนขอสินเชื่อ | ธนาคารกรุงไทย มาดูวิธีเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง พร้อมดูว่าเครดิตบูโรเป็น 0 คืออะไร เช็คง่าย สะดวก รู้ผลไว เพื่อวางแผนการเงินก่อนขอสินเชื่อ