บัตรเดบิต คืออะไร ต่างจากบัตรเครดิตอย่างไร บัตรแบบไหนเหมาะกับคุณ
ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีด้านการเงินเติบโตอย่างรวดเร็ว บัตรเครดิต บัตรเดบิต คือ หนึ่งในช่องทางการทำธุรกรรมการเงินต่าง ๆ ที่ผู้คนนิยมใช้อำนวยความสะดวกให้สามารถซื้อสินค้าและบริการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ไม่ต้องพกเงินสดติดตัว แต่เคยสงสัยหรือไม่ว่า บัตรเครดิตกับบัตรเดบิตต่างกันยังไง แล้วบัตรแบบไหนล่ะที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ
บัตรเดบิต คือ อะไร?
บัตรเดบิต คือ บัตรที่ผูกไว้กับบัญชีเงินฝากของผู้ถือบัตร คุณสามารถใช้บัตรเดบิตในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เสมือนพกเงินสดติดตัว ไม่ว่าจะเป็น ถอนเงินสดที่ตู้ ATM, ชำระสินค้าหรือบริการตามร้านค้าที่ร่วมรายการ หรือจะช้อปปิงออนไลน์ โดยจำนวนเงินที่ใช้ในบัตรเดบิตจะถูกหักจากยอดเงินในบัญชีเงินฝากของคุณ
ข้อดีของบัตรเดบิต
มีบัตรเดบิต เหมือนมีเงินสดติดตัว ข้อดีของบัตรเดบิตมีอะไรบ้าง แล้วบัตรเดบิตรูดได้ไหม สรุปได้ดังนี้
1. ใช้จ่ายได้สะดวก ไม่ต้องพกเงินสด
บัตรเดบิตช่วยให้คุณซื้อสินค้าและบริการได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องพกเงินสด ไม่มีค่าธรรมเนียมในการรูดและไม่ต้องเสียเวลาในการถอนเงิน หรือหาตู้ ATM เพื่อถอนเงินสดออกมา (ซึ่งอาจมีค่าธรรมเนียม) แค่ยื่นบัตรเดบิตในการชำระเงิน ใช้ได้ทุกที่ที่มีเครื่องอ่านบัตร ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือ ช้อปออนไลน์2. ควบคุมการใช้จ่าย
บัตรเดบิตมีความปลอดภัยสูงในแง่ของการจำกัดวงเงิน เนื่องจากผู้ถือบัตรเดบิตจะสามารถใช้จ่ายได้ตามจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีเงินฝากเท่านั้น ไม่สามารถใช้เงินเกินจำนวนที่มีในบัญชีได้ เป็นการควบคุมเรื่องการใช้จ่าย ไม่ต้องกังวลว่าจะมีหนี้สินหรือการค้างชำระ
วิธีการสมัครบัตรเดบิต ต้องทำอย่างไร ยุ่งยากไหม?
ต้องบอกว่าการสมัครบัตรเดบิตนั้น ง่าย และ รวดเร็ว ซึ่งวิธีการสมัคร มี 2 วิธีด้วยกัน
1. สมัครบัตรเดบิตที่สาขาของธนาคาร
สำหรับผู้ที่มีบัญชีธนาคารอยู่แล้วก็สามารถขอสมัครบัตรเดบิตได้ เพียงแค่มีสมุดบัญชีธนาคาร และ บัตรประชาชน เพื่อกรอกแบบฟอร์มการสมัคร รวมถึงเลือกประเภทบัตรเดบิตที่ต้องการ แล้วก็จัดการเรื่องรหัสผ่าน เปิดใช้งานได้ เท่านี้เป็นอันเสร็จเรียบร้อย|2. สมัครบัตรเดบิตผ่าน Mobile Banking
เป็นวิธีที่สะดวก และรวดเร็ว แค่สมัครผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร เลือกบัตรเดบิตที่ต้องการสมัคร แล้วอ่านเงื่อนไข สิทธิพิเศษต่าง ๆ รวมถึงกรอกข้อมูลส่วนตัว เมื่อกดสมัครแล้วก็รอรับบัตรได้เลยที่บ้าน หรือไปรับเองที่สาขาธนาคาร
บัตรเดบิตแบบมีประกัน คืออะไร ดีหรือไม่?
บัตรเดบิตแบบมีประกัน คือ บัตรเดบิตที่มาพร้อมกับบริการเพิ่มความคุ้มครองส่วนบุคคลให้กับผู้ถือบัตร เช่น ประกันการเดินทาง ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ หรือความคุ้มครองอื่น ๆ
โดยผู้ถือบัตรเดบิตแบบมีประกันจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่นอกเหนือจากการใช้บัตรเดบิตในการชำระเงิน นั่นก็คือการได้รับความคุ้มครอง หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ซึ่งข้อดีของบัตรเดบิตแบบมีประกันนั้นก็มีหลายประการ อาทิ
- ให้ความคุ้มครองด้านอุบัติเหตุ ช่วยให้ผู้ถือบัตรและครอบครัวรู้สึกอุ่นใจ
- บางบัตรเดบิตมีวงเงินความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นความคุ้มครองที่รับประกันภัยโดยบริษัทประกันชั้นนำ
- ค่าธรรมเนียมรายปีของบัตรเดบิตแบบมีประกันโดยทั่วไปไม่แพงมากนัก และมักจะคุ้มค่ากว่าการสมัครบัตรเดบิตธรรมดาพร้อมซื้อประกันแยกกัน
บัตรเครดิตคืออะไร
หลังจากที่เราพูดถึงบัตรเดบิตไปแล้ว บัตรอีกประเภทที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นก็คือ บัตรเครดิต เป็นบัตรที่มีวงเงินเครดิตกำหนดไว้จากธนาคารหรือสถาบันทางการเงินที่ออกบัตร ซึ่งผู้ถือบัตรจะสามารถใช้เงินจากวงเงินเครดิตที่คุณมีในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ตามประเภทของบัตรที่คุณมี
เช่น ช้อปปิงสินค้า หรือจ่ายค่าบริการอื่น ๆ โดยคุณไม่จำเป็นต้องมีเงินในบัญชีในขณะที่ทำธุรกรรม อย่างไรก็ตาม วงเงินที่คุณใช้จากบัตรเครดิตต้องชำระคืนให้ตรงเวลา หากคุณไม่ชำระหนี้ในเวลาที่กำหนด จะมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยและค่าปรับ
ประโยชน์ของบัตรเครดิตในยุคสมัยแห่งสังคมไร้เงินสด มีอะไรบ้าง
- บัตรเครดิตสามารถใช้รูดจ่ายแทนเงินสด ช่วยให้เราซื้อสินค้าและบริการได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องพกเงินสด
- ชำระเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless) เป็นวิธีการชำระเงินรูปแบบใหม่ โดยใช้เทคโนโลยี NFC ซึ่งทำให้ผู้ถือบัตรเครดิตสามารถแตะบัตรของตนเองกับเครื่องอ่านบัตรที่มีสัญลักษณ์ Contactless เพื่อชำระเงินได้โดยไม่ต้องรูดหรือเสียบบัตร
- บัตรเครดิตช่วยให้เราผ่อนชำระสินค้าหรือบริการได้ โดยไม่ต้องใช้เงินก้อนทั้งหมดในครั้งเดียว ซึ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของเราได้
- ได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น การสะสมคะแนน การคืนเงินสด ฯลฯ ซึ่งช่วยให้ผู้ถือบัตรได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจากการใช้จ่าย
บัตรเครดิต ใช้ซื้อของออนไลน์ได้หรือไม่?
แน่นอนว่าการใช้บัตรเครดิต เป็นวิธีการชำระเงินที่ง่าย และ สะดวก ยิ่งในยุคนี้ที่เราสามารถซื้อของออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน shopee / lazada ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาชำระผ่านเงินสด แค่ผูกบัตรเครดิตในระบบ เท่านี้ก็เรียบร้อย
หรือจะเป็นการ ซื้อตั๋วเครื่องบิน ซื้อเกม เติมเกม ซื้อแอปพลิเคชัน ผู้ถือบัตรเครดิตสามารถใช้บัตรในการชำระเงินได้ทุกที่ที่มีเครื่องอ่านบัตร (EDC) รวมถึง e-Commerce โดยไม่ต้องเสียเวลากดเงินสดเพื่อซื้อสินค้า
ความแตกต่างระหว่าง บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตร ATM และ บัตรกดเงินสด บัตรแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ
ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตร ATM และ บัตรกดเงินสด ล้วนแล้วแต่เป็นบัตรที่ช่วยอำนวยความสะดวกที่ช่วยให้เราสามารถซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย อย่างไรก็ตาม บัตรแต่ละประเภทมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน
การเลือกบัตรให้เหมาะกับความต้องการจึงเป็นเรื่องสำคัญ มาดูกันว่า บัตรเครดิตกับบัตรเดบิตต่างกันยังไง รวมทั้ง บัตร ATM และ บัตรกดเงินสด บัตรแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ
- บัตรเดบิต คือ บัตรที่ผูกไว้กับบัญชีเงินฝากของผู้ถือบัตร สามารถใช้ทำธุรกรรมทางการเงินที่ตู้ ATM ได้ และสามารถใช้บัตรเดบิตซื้อสินค้าหรือบริการที่เครื่อง EDC และ e-Commerce ได้ โดยเงินจะถูกหักออกจากบัญชีเงินฝากของเราทันที
- บัตรเครดิต เป็นบัตรที่ให้ผู้ถือบัตรสามารถใช้ซื้อสินค้าหรือบริการได้ โดยผู้ถือบัตรจะได้รับวงเงินในการใช้จ่าย ซึ่งผู้ถือบัตรจะต้องชำระคืนธนาคารตามเงื่อนไขที่กำหนด
- บัตร ATM เป็นบัตรที่ผูกไว้กับบัญชีเงินฝากของผู้ถือบัตร และสามารถใช้ทำธุรกรรมทางการเงินได้ที่ตู้ ATM เท่านั้น เช่น การถอนเงิน โอนเงิน สอบถามยอดเงินคงเหลือ
- บัตรกดเงินสด คุณสมบัติจะคล้ายกับบัตร ATM แต่ต่างกันตรงที่ บัตรกดเงินสด ไม่ต้องผูกกับบัญชีเงินฝาก ผู้ถือบัตรจะได้รับวงเงินในการใช้จ่าย ที่สามารถใช้จ่ายได้ตามยอดที่มีอยู่บนบัตรเท่านั้น โดยผู้ถือบัตรจะต้องชำระคืนธนาคารตามเงื่อนไขที่กำหนด
แล้วบัตรเครดิต บัตรเดบิต แบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ?
การเลือกบัตรเครดิต บัตรเดบิต ให้เหมาะกับความต้องการนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ความสามารถในการควบคุมการใช้จ่าย ความต้องการใช้เงินในอนาคต และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ
- หากคุณต้องการวงเงินสำรองเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน บัตรกดเงินสด ตอบโจทย์สำหรับคุณ
- หากคุณต้องการทั้งวงเงินสด ผ่อนสินค้าหรือบริการ แนะนำให้ใช้บัตรเครดิต เนื่องจากบัตรเครดิตช่วยให้เราผ่อนชำระสินค้าหรือบริการที่มีราคาแพงได้ โดยไม่ต้องใช้เงินก้อนทั้งหมดในครั้งเดียว
- หากคุณเป็นคนที่ไม่สามารถควบคุมการใช้จ่ายได้ดี แนะนำให้ใช้บัตรเดบิต หรือ บัตร ATM เนื่องจากเราจะสามารถใช้จ่ายได้ตามยอดเงินที่เรามีอยู่ในบัญชีเท่านั้น ไม่มีวงเงินสำรอง
และถ้าคุณกำลังมองหาบัตรเดบิตที่เป็นมากกว่าแค่การใช้จ่าย แถมได้ความคุ้มครอง กรุงไทยขอแนะนำ บัตรเดบิตแบบมีประกัน ที่เป็นมากกว่าแค่การใช้จ่าย แถมได้ความคุ้มครองอุบัติเหตุ ไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็น
- บัตรเดบิตกรุงไทย แคร์ บัตรเดบิตที่คุ้มครองอุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ สูงสุด 30,000 บาท
- บัตรเดบิตกรุงไทย เอ็กซ์ตร้า แคร์ คุ้มครองอุบัติเหตุแบบเอ็กซ์ตร้า คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง อีกทั้งยังชดเชยรายได้ครั้งละ 10,000 บาท เมื่อพักรักษาตัวในโรงพยาบาลติดต่อกันมากกว่า 4 วันขึ้นไป
หรือถ้าอยากจะเพิ่มความคุ้มครองทั้งชีวิต และ ทรัพย์สิน ขอแนะนำ
- บัตรเดบิตกรุงไทย อัลตร้า แคร์ บัตรเดบิตแบบมีประกัน คุ้มครบบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินบนท้องถนน คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล สูงสุด 20,000 บาทต่ออุบัติเหตุ รับความคุ้มครองอุบัติเหตุ ตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วโลก สูงสุด 1,000,000 บาท รวมถึงคุ้มครองการโจรกรรมเงินที่ถอนจากตู้ ATM กรุงไทยอีกด้วยนะ สมัครได้เลยผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิตรูปแบบไหนก็ตาม ควรศึกษาเงื่อนไขและข้อจำกัดต่าง ๆ ของบัตรแต่ละประเภทให้ดีก่อนตัดสินใจสมัครบัตรด้วยนะ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.krungthai.com