หากต้องการลดหย่อนภาษี ซื้ออะไรก่อนดี?

เมื่อเราทำงาน เราก็ต้องเสียภาษี การใช้สินค้าทางการเงินบางตัว จะสามารถช่วยทำให้เราเสียภาษีน้อยลงได้อย่าง LTF RMF และประกันชีวิต คำถามที่น่าสนใจก็คือ เราจะใช้สินค้าการเงินตัวไหนในการลดหย่อนภาษีดีกว่ากันล่ะ? เพราะทั้ง 3 ตัว ก็ลดหย่อนภาษีให้กับเราได้เหมือนกัน

เมื่อนึกถึงเวลาที่เราอยากจะลดหย่อนภาษี แน่นอนว่าก็หนีไม่พ้น LTF RMF และประกันชีวิต ตอนนี้สินค้าทางการเงิน 3 ตัวนี้ ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีจากทางกรมสรรพากรอยู่ แต่ถ้าเราดูที่เรื่องความสามารถในการลดหย่อนภาษีเพียงอย่างเดียว ก็จะไม่พบความแตกต่างกันเลยระหว่าง 3 สินค้าทางการเงินนี้ ดังนั้น หากเราอยากจะลดหย่อนภาษีเราต้องไปดูที่แก่นของสินค้าทางการเงินแต่ละตัวว่าจะสามารถช่วยอะไรเราได้บ้าง ?

	LTF (Long-Term Mutual Fund)  LTF ถูกออกแบบมาให้ประชาชนแบบเราๆ เข้าใจและรู้จักการลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดหุ้นและช่วยสร้างผลตอบแทนในระยะยาวให้กับประชาชน นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไม LTF จึงถูกบังคับให้ถืออย่างน้อย 7 ปีปฏิทิน
RMF (Retirement Mutual Fund) สินค้าทางการเงินตัวนี้ แก่นแท้ก็ตามชื่อเลย ถือเพื่อให้ประชาชนมีเงินสำรองสำหรับวัยเกษียณมากขึ้น จะเห็นได้จากเงื่อนไขคือ บังคับให้เราซื้อทุกปีหรือปีเว้นปีก็ได้ แล้วเราจะเอาเงินออกจาก RMF ได้ก็ต่อเมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์แล้วเท่านั้น ซึ่งก็เป็นอายุเฉลี่ยนั่นเอง
	ประกันชีวิต (Insurance) ตัวนี้ก็ตรงๆ ง่ายๆ เช่นกัน ก็คือ เพื่อสร้างหลักประกันให้กับคนข้างหลัง ในกรณีที่เราไม่อยู่

LTF (Long-Term Mutual Fund)  LTF ถูกออกแบบมาให้ประชาชนแบบเราๆ เข้าใจและรู้จักการลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดหุ้นและช่วยสร้างผลตอบแทนในระยะยาวให้กับประชาชน นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไม LTF จึงถูกบังคับให้ถืออย่างน้อย 7 ปีปฏิทิน

RMF (Retirement Mutual Fund) สินค้าทางการเงินตัวนี้ แก่นแท้ก็ตามชื่อเลย ถือเพื่อให้ประชาชนมีเงินสำรองสำหรับวัยเกษียณมากขึ้น จะเห็นได้จากเงื่อนไขคือ บังคับให้เราซื้อทุกปีหรือปีเว้นปีก็ได้ แล้วเราจะเอาเงินออกจาก RMF ได้ก็ต่อเมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์แล้วเท่านั้น ซึ่งก็เป็นอายุเฉลี่ยนั่นเอง

ประกันชีวิต (Insurance) ตัวนี้ก็ตรงๆง่ายๆเช่นกัน ก็คือ เพื่อสร้างหลักประกันให้กับคนข้างหลัง ในกรณีที่เราไม่อยู่

ดังนั้น ก่อนที่จะเลือกสินค้าทางการเงินเพื่อลดหย่อนภาษี ห้ามมองแค่เรื่องภาษีที่ได้ลดไปเท่านั้น แต่ควรมองที่ความจำเป็นและแก่นแท้ของสินค้าทางการเงินนั้นๆ ด้วยว่าสามารถตอบโจทย์เป้าหมายการเงินของเราได้หรือไม่ แต่ถ้าไม่ตอบโจทย์ได้เลย ก็ไม่ควรใช้ทั้ง 3 ตัวเพื่อลดหย่อนภาษีเช่นกัน เพราะในแง่มุมการวางแผนภาษีนั้นถือว่าเป็นเพียงผลประโยชน์เสริม (Side Benefit) เท่านั้นเอง