เรื่องเด่น

เรื่องน่าตกใจของการออมเงินเพื่อ “เกษียณ”

อัพเดทวันที่ 17 ธ.ค. 2561


       เรื่องหนึ่งของชีวิตที่ไม่ว่ายังไงเราก็ไม่มีทางที่จะหนีพ้นเลย คือเรื่องของการ "เกษียณอายุ" เพราะต้องยอมรับว่าพอเราเข้าสู่วัยทำงาน ก็ต้องมีวันหนึ่งที่เราไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าเดิม ด้วยอายุที่มากขึ้น เราก็จะหลีกทางให้กับคนที่พร้อมมากกว่าเข้ามาทำงานแทน ซึ่งถ้าถามว่าเราควรเริ่มออมเงินเพื่อเกษียณเมื่อไหร่ดี คำถามนี้คงตอบได้ทันทีเลยว่า “เริ่มตอนนี้” เริ่มเดี๋ยวนี้คงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
       นั่นก็เพราะว่าถ้ายิ่งเราออมเร็วเท่าไหร่ก็จะทำให้เราออมต่อเดือนน้อยลง และโอกาสที่จะเกษียณได้ตามแผนที่ตั้งใจไว้ก็จะยิ่งสูงขึ้น เราลองมานึกตัวอย่างประกอบเรื่องการเกษียณอายุกัน เอาแบบง่ายๆไม่ต้องมีเรื่องผลตอบแทน เงินเฟ้อมาให้วุ่นวาย


ออมเงินเพื่อเกษียณ


       สมมติว่าให้เราเรียนจบปริญญาโท สักอายุ 25 ปี แล้วเริ่มงานทันที จากนั้นถ้าลองถามว่าเราจะหยุดทำงานหรือเกษียณอายุเมื่อไหร่ดี เชื่อว่าหลายๆ คนคิดว่าเกษียณอายุ 60 ปี ดูช้าเกินไปมาก งั้นลองสมมติเกษียณที่ 55 ปีแล้วกัน ปัจจุบันอายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 75 ปี แล้วมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีกเรื่อยๆ ตามเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ดีขึ้น สมมติว่าเราน่าจะมีอายุสูงขึ้นสักประมาณ 85 ปี เราลองมาดูตัวเลขกันดีดี เราเริ่มต้นทำงานอายุ 25 ปี เกษียณตอนอายุ 55 ปี นั่นแปลว่าเรามีเวลาทำงาน 30 ปี แล้วหลังจากอายุ 55 ปี ที่เราเกษียณ เราจะมีอายุถึง 85 ปี หมายถึงเราจะต้องใช้ชีวิตไปอีก 30 ปี เราลองมองให้สั้นกว่านั้น แปลว่าเราต้องทำงาน 1 เดือน เพื่อเลี้ยงตัวเองให้ได้ 2 เดือน ทำให้สิ่งที่เราควรจะทำ คือ เราควรออมเงินอย่างน้อยให้ได้เดือนละ 50% !!


ออมเงินเพื่อเกษียณ


       เชื่อได้เลยว่าหลายๆคนตอนนี้น่าจะยังเก็บเงินหรือออมเงินกันไม่ถึง 50% ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะถ้าเรารู้จักเอาเงินไปลงทุนให้เงินงอกเงย ก็จะช่วยทำให้เราออมเงินในแต่ละเดือนน้อยลงได้ หลังจากนั้นเมื่อรายได้เรามากขึ้นตามอายุงาน เราก็ค่อยๆ เพิ่มจำนวนเงินออมได้เช่นกัน แต่ถ้าให้แนะนำเราก็ควรออมเงินให้ได้เดือนละ 30-50% ของรายได้

       เพราะว่านอกจากเป้าหมายเรื่องการเกษียณอายุแล้ว เป้าหมายการเงินอื่นๆ อย่างเช่น การซื้อรถ ซื้อบ้าน หรือถ้ามีครอบครัวก็ยังต้องวางแผนเรื่องการศึกษาของบุตร รวมไปถึงการวางแผนประกันชีวิตและประกันสุขภาพอีก ถึงเราจะไม่ต้องเอาเงินออม 50% ไปออมเพื่อเกษียณก็จริง แต่ก็เราควรมีเงินเก็บเพื่อไปบรรลุเป้าหมายการเงินอื่นๆ ที่เรามีด้วย เพราะยิ่งเรามีเงินออมมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีโอกาสในอนาคตมากขึ้นเท่านั้น