เรียนรู้การเงิน

อยากเที่ยวต่างจังหวัดแบบสบายๆปีละ 2 ครั้ง จัดการเงินอย่างไรดี?

อัพเดทวันที่ 19 พ.ย. 2563

การออกเดินทางเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ถือเป็นไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่กำลังมาแรง เพราะสมัยนี้การเดินทางเป็นเรื่องสะดวกสบายมากกว่าเดิม ด้วยข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่แพร่หลายอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ต ตั๋วเครื่องบินโลว์คอสลดราคาลงมาใกล้เคียงกับรถทัวร์ VIP และโรงแรมที่พักราคาถูกต่างก็หาได้ง่าย รวมถึงมีแพลตฟอร์มเทคโนโลยีต่างๆทำให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยความง่ายดายและสะดวกสบายนี้เอง คนรุ่นใหม่หลายคนก็เลยเสพติดการเดินทาง อย่างน้อยก็ได้ขับรถหรือนั่งเครื่องบินไปต่างจังหวัดปีละครั้งสองครั้งก็ยังดี แต่ก็ต้องยอมรับเหมือนกันว่าการเดินทางแต่ละครั้ง เราต้องใช้ “เงิน” เป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนทริป หากบริหารจัดการเงินในกระเป๋าไม่ดีพอ การเดินทางที่น่าตื่นเต้นก็จะกลายเป็นความยากลำบากที่กระทบไปชีวิตในด้านอื่นได้

สำหรับผู้ที่หลงใหลการเดินทาง การบริหารเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญ สิ่งจะช่วยให้เราสามารถเดินทางได้อย่างสบายใจมากขึ้น ไม่ต้องสร้างหนี้บัตรเครดิตเกินความจำเป็น ไม่ต้องประหยัดจนต้องเดินทางแบบยากลำบาก ไม่ต้องเดือดร้อนเพื่อนร่วมทริป นั่นคือเราต้องรู้จัก “วางแผนการเดินทางล่วงหน้าไปพร้อมๆกับการวางแผนการเงิน”

1. เลือกหมุดหมายที่อยากจะเดินทางไว้ก่อน

เราสามารถคาดคะเนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีเป้าหมายที่อยากไปอยู่ในใจเรียบร้อยแล้ว และสามารถวางแผนการเงินในส่วนนี้ล่วงหน้าได้โดยไม่กระทบเงินส่วนอื่น เช่น ถ้าอยากเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆอย่าง เขาใหญ่ สวนผึ้ง หัวหิน พัทยา หรือกาญจนบุรี แบบเรียบง่ายก็อาจจะใช้งบประมาณ 3,000-5,000 บาท อยากไปไกลหน่อยก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นเพราะต้องมีค่าตั๋วเครื่องบิน เช่น ภูเก็ต พังงา เกาะสมุย ระนอง เชียงใหม่ ขอนแก่น โดยรวมอาจจะอยู่ที่ 5,000-10,000 บาท ถ้าหากอยากไปแบบพรีเมี่ยม นอนโรงแรม 5 ดาวริมชายหาดทะเลอันดามันอันนี้ก็อาจจะต้องใช้งบประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลา กิจกรรม และความสะดวกสบายด้วย ซึ่งในแต่ละสถานที่ก็จะมีจุดท่องเที่ยวยิบย่อยลงไปอีก แต่ละสถานที่ท่องเที่ยวก็จะให้ประสบการณ์การเดินทางที่ต่างกัน และมีค่าใช้จ่ายที่ต่างกันด้วย...

2. วางงบประมาณในการเดินทางล่วงหน้า

เมื่อเลือกจังหวัดปลายทางไว้แล้ว ต่อมาคือการสร้างแผนเดินทางเพื่อหางบประมาณแบบลงรายละเอียด แต่ละคนจะมีค่าใช้จ่ายเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป บางคนทุ่มเทค่าใช้จ่ายให้กับค่าที่พัก บางคนเน้นกินหรูอยู่ดี บางคนชอบช็อปปิ้งซื้อของฝาก หรือบางคนยอมจ่ายเงินเพื่อกิจกรรมที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับชีวิต เช่นเดินป่า ล่องแก่ง เล่นเซิร์ฟ หรือดำน้ำลึก เป็นต้น ดังนั้นแล้วงบประมาณในการเดินทางจะขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางในแต่ละทริปเช่นกัน ควรหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตประกอบกับการวางแผนงบประมาณด้วย เพื่อให้ค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะเกิดขึ้นจริงไม่เยอะเกินกว่าจำนวนเงินที่เราคาดการณ์ไว้

3. ทยอยเก็บออมและทยอยใช้จ่าย

เมื่อมีงบประมาณตามเป้าหมายแล้ว สิ่งที่ควรทำต่อมาคือการ “วางแผนเงินออม” สมมติว่าเราวางงบประมาณสำหรับเดินทางไปเที่ยวสองครั้ง ครั้งแรกไปใกล้ๆกับเพื่อนแถวๆทะเลบางแสน นอนริมหาด ปิ้งย่างอาหารทะเล วางแผนเอาไว้อย่างละเอียดอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท ต่อคน กำหนดการเดินทางคือ 5 เดือนนับตั้งแต่วันที่วางแผน นั่นแปลว่าทุกเดือนเราต้องออมเงินสำหรับเดินทางไปทริปนี้เดือนละ 1,000 บาท และมีแผนจะบินไปเที่ยวเชียงรายกับแฟนในปีหน้า นอนโรงแรมสวยๆ เช่ารถขับสบายๆ วางงบประมาณไว้ที่ 12,000 บาทต่อคน ก็เลยวางแผนเก็บเงินเดือนละ 1,000 สำหรับทริปเชียงราย รวมเป็น 2,000 บาทต่อเดือน เงินก้อนนี้จะถูกเก็บแยกไว้ต่างหาก เพื่อไม่ให้เงินส่วนอื่นได้รับผลกระทบ

เมื่อวางแผนเงินออมแล้วก็ควร “วางแผนค่าใช้จ่าย” ด้วย เพราะสำหรับทริปต่างจังหวัด ค่าใช้จ่ายต่างๆจะเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงที่แผนการถูกร่างขึ้นมา เริ่มตั้งแต่การจองตั๋วเครื่องบิน วางเงินมัดจำที่พัก หรือจองเช่ารถขับ แปลว่าในระหว่างที่เราเก็บออมเงินตามงบประมาณที่วางไว้ เงินที่ออมก็ต้องถูกใช้ล่วงหน้าเพื่อค่าใช้จ่ายเหล่านี้บ้างในบางส่วน เช่น เมื่อเวลาผ่านไป 3 เดือนและเราควรมีเงินเก็บส่วนนี้ถึง 6,000 บาท ถ้าในระหว่างนั้นเจอโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ-เชียงราย ราคาคุ้มค่า 3,000 บาท เราก็นำเงิน 6,000 บาทในส่วนที่ออมไว้จ่ายค่าตั๋วเครื่องบินได้ทันที เพราะมันถูกออมไว้เพื่อใช้กับการท่องเที่ยวอยู่แล้ว และเมื่อเวลาผ่านไป 2-3 เดือนจึงเริ่มจองบ้านพักหรือโรงแรมที่บางแสนเพราะใกล้จะถึงกำหนดวันเดินทางแล้ว ส่วนเงินที่จะกันไว้เป็นค่าใช้จ่ายในระหว่างการเดินทางหรือ Pocket Money ควรจะถูกรวมอยู่ในงบประมาณและแผนการออมเรียบร้อยแล้ว และควรจะมีเงินสดส่วนเพิ่มด้วย เผื่อมีความต้องการฉุกเฉินในระหว่างการเดินทาง

4. วางแผนทั้งทีอย่าลืมคุ้มครองด้วยประกันอุบัติเหตุและประกันสุขภาพ

สิ่งที่หลายคนมักจะลืมก็คือทุกๆสถานที่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ภัยธรรมชาติ หรือโรคภัยไข้เจ็บต่างๆเรื่องเหล่านี้สร้างความเสียหายให้กับเงินในกระเป๋าของเราได้เสมอ ถ้าไม่อยากให้เงินที่อุตส่าห์เก็บไว้เพื่อการท่องเที่ยวต้องสลายหายไปพร้อมกับเหตุการณ์แย่ๆ อย่างน้อยๆเราต้องมีวงเงินไว้เพื่อคุ้มครองเงินในกระเป๋าด้วยประกันอุบัติเหตุ  ซึ่งเบี้ยจ่ายไม่แพงมากเมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับ หรืออย่างมากก็ควรมีประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายเอาไว้ให้เราอุ่นใจได้ทุกเวลา

ถ้าอยากจะมีอิสระในการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ก็อย่าลืมคุ้มครองตัวเองจากความเสี่ยงที่มองไม่เห็นเอาไว้ด้วย เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้แผนการท่องเที่ยวประจำปีของเราปราศจากการสร้างหนี้สินที่มากเกินจำเป็น มีเงินไว้สำหรับใช้ในส่วนอื่น และปลอดความกังวลใจตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดการเดินทางได้เลย และที่สำคัญหากทุกคนรู้วิธีวางแผนได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าใครสามารถเดินทางได้ตามที่ต้องการ อย่างน้อยก็ท่องเที่ยวได้ปีละสองครั้งแบบสบายๆ

เที่ยวอย่างสบายใจ อย่าลืมซื้อประกันอุบัติเหตุ ประกันภัยเที่ยวไทยไปด้วยกัน ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุรวมการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์สูงสุด 300,000 บาท เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นที่ 58 บาทต่อรายต่อทริปการเดินทาง