เรียนรู้การเงิน

มนุษย์เงินเดือนทำอย่างไรถึงจะรวย

อัปเดตวันที่ 6 ส.ค. 2563

หากพูดถึงอาชีพมนุษย์เงินเดือนแล้ว หลายคนก็มักจะคิดว่าเป็นอาชีพที่ไม่มีวันรวยเพราะทำงานเต็มเวลาตลอดเดือนและมีรายได้เพียงทางเดียว แถมรายได้ก็น้อยเมื่อเทียบกับผลกำไรที่เจ้าของกิจการได้รับ พอมองไปถึงการขึ้นเงินเดือนในแต่ละปีก็ไม่ได้มาก 

นอกจากนี้ในสังคมปัจจุบันก็มีสิ่งล่อตาล่อใจอีกเป็นจำนวนมากที่จะทำให้มนุษย์เงินเดือนจำนวนไม่น้อยใช้โอกาสจากการที่มีรายได้อย่างสม่ำเสมอในแต่ละเดือน เพื่อผ่อนชำระสินค้าต่างๆที่ตัวเองต้องการ และเมื่อจัดการไม่ดีก็กลายเป็นภาระทางการเงิน เกิดหนี้สินจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาที่ตามมาในอนาคต การที่มนุษย์เงินเดือนจะรวยได้ จึงต้องมีวิธีคิดและวิธีทำ ดังนี้

1. เข้าใจความหมายของความรวย

ในสังคมเรามีการให้ความหมายของคำว่ารวยหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการมีเงินจำนวนมากๆ เช่น 10 ล้านบาท 100 ล้านบาทขึ้นไป หรือ ต้องครอบครองของหรูหราราคาแพง ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกาเรือนละล้าน รถสปอร์ทสุดหรู ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและความร่ำรวยและทุกคนยอมรับเมื่อได้เห็น

ในความเป็นจริงแล้วความร่ำรวยเกิดจากการที่เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน มีรายได้ที่มากกว่ารายจ่ายในแต่ละเดือน สามารถเก็บออมเงินและนำไปต่อยอดสร้างความมั่งคั่งตามเป้าหมายทางการเงินในชีวิตของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็น เมื่อแก่ตัวไปมีเงินเกษียณเลี้ยงตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาใคร มีเงินให้ลูกเรียนหนังสือจนจบปริญญา สามารถนำเงินส่วนเพิ่มที่เรามีไปมอบโอกาสให้กับสังคม

2. รู้จักการบริหารรายรับรายจ่าย

เมื่อเราเข้าใจความหมายของความรวยแล้ว ก็ต้องเริ่มลงมือปฏิบัติโดยเริ่มจากการบริหารรายรับรายจ่ายให้เกิดเงินออม ซึ่งข้อดีของมนุษย์เงินเดือนนั้นคือการมีรายได้แบบประจำ ทำให้เรารู้ว่าในแต่ละเดือนจะมีรายได้เข้ามาในบัญชีเท่าไหร่ สามารถกำหนดแผนการออมและการใช้จ่ายได้อย่างไม่ยาก

การออมที่มีประสิทธิภาพที่สุดนั้นคือ “ออมก่อนใช้” ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆโดยการกำหนดเงินออมในแต่ละเดือน เช่น 10% - 20% ของรายได้ และในส่วนที่เหลือก็จะเป็นเงินที่เราจะนำไปใช้รายจ่ายเพื่อใช้ดำรงชีวิตประจำวัน 

ตัวอย่างเช่น

  • มีเงินเดือน 20,000 บาท
  • เก็บออมในวันเงินเดือนออกทันที 20% หรือ 4,000 บาท
  • ใช้จ่ายในเดือนนั้นๆ 16,000 บาท

เงินออมส่วนนี้จะสามารถนำไปต่อยอดในเรื่องต่างๆเพิ่มได้ เช่น การสร้างหลักประกันให้ตัวเองในยามฉุกเฉิน การนำไปลงทุนพัฒนาตัวเอง การนำไปลงทุนในทรัพย์สินต่างๆเพื่อเพิ่มความมั่งคั่ง

นอกจากนี้ การลดรายจ่ายของมนุษย์เงินเดือนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้เรามีเงินเก็บมากขึ้น โดยเริ่มจากการลำดับความสำคัญของรายจ่ายเพื่อหาทางเปลี่ยนแปลงให้รายจ่ายลดลง ไม่ว่าจะเป็นการตัดค่าใช้จ่ายหรือเปลี่ยนวิธีการที่จะทำให้ชีวิตใช้จ่ายน้อยลง เช่น จากการทานอาหารนอกบ้านมื้อละ 500 บาท สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ให้ลดลงเหลือเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น

3. ลงทุนกับตัวเองเพื่อเพิ่มรายได้จากการทำงาน

การเป็นมนุษย์เงินเดือน ในช่วงเริ่มต้นการทำงานอาจจะมีรายได้ไม่มาก เช่น มนุษย์เงินเดือนจบใหม่วัย 22 ทำงานครั้งแรกได้เงินเดือน 15,000 - 20,000 บาท และอาจจะเพิ่มขึ้นในแต่ละปีตามอัตราค่าครองชีพและภาวะเงินเฟ้อ การเติบโตในรูปแบบปกตินั้นอาจจะต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะได้เงินเดือนที่มากขึ้นในระดับ 50,000 - 100,000 บาท

การลงทุนกับตัวเองเพื่อสร้างทักษะใหม่ๆกับชีวิตที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงาน จะทำให้เรามีความรู้และความเชี่ยวชาญ สามารถทำงานและตัดสินใจต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้บริษัทเห็นมูลค่าในตัวเราต่อองค์กร ซึ่งจะนำมาสู่โอกาสในการเลื่อนตำแหน่งงาน การมอบหมายความรับผิดชอบที่มากขึ้น รวมถึงไว้ใจให้ทำงานที่มีความเสี่ยงมากขึ้น แน่นอนว่าทั้งหมดมีผลต่อการเพิ่มเงินเดือนให้กับเราอย่างก้าวกระโดดใน หรือการย้ายงานไปเติบโตในองค์กรอื่นในอนาคตด้วยเช่นกัน

ตัวอย่างทักษะที่สำคัญที่เราควรลงทุนกับตัวเอง เช่น ทักษะด้านภาษา ความรู้ในเรื่องเทคโนโลยี ทักษะในการจัดการบุคลิคภาพ ความรู้ในเรื่องการออกแบบและงานดีไซน์ เป็นต้น

4. ลงทุนกับทรัพย์สินต่างๆเพื่อต่อยอดความมั่งคั่ง

นอกจากการลงทุนกับตัวเองแล้ว มนุษย์เงินเดือนหลายๆคนอาจจะกำลังมองหาช่องทางการลงทุนต่างๆที่มีความเสี่ยงมากขึ้น แต่ได้ผลตอบแทนมากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในธนาคาร ซึ่งทุกคนสามารถเริ่มต้นด้วยการศึกษาการลงทุนในทรัพย์สินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หุ้น ตราสารหนี้ กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการลงทุนในยุคดิจิตัลต่างๆ

สิ่งที่จะได้รับจากการลงทุนในทรัพย์สินที่ดีคือ โอกาสที่ทรัพย์สินนั้นจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นและการได้รับเงินสดจากทรัพย์สินนั้นๆ เช่น 

  • การลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวม ที่มูลค่าเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตและได้รับเงินปันผลจากการลงทุนตามนโยบาย 
  • การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถขายต่อได้แพงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ในขณะเดียวกันก็สามารถเก็บค่าเช่าจากผู้เช่าได้ 
  • การลงทุนในกองทุนรวมที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากจะสามารถสร้างความมั่งคั่งจากการลงทุนแล้ว ยังช่วยในการวางแผนเปลี่ยนภาษีเป็นเงินออมได้

เมื่อเราศึกษาอย่างเข้าใจแล้วก็สามารถวางแผนนำเงินออมมาลงทุนในทรัพย์สินต่างๆ และทยอยสะสมทรัพย์สินและกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นๆให้มากขึ้นเพื่อสร้างความมั่งคั่งจากการลงทุนในระยะยาว หรือสนใจลงทุนกับธนาคารกรุงไทย ในกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น พลัส (ชนิดสะสมมูลค่า) (KTSTPLUS-A)

สรุปจะเห็นได้ว่า มนุษย์เงินเดือนทุกคนสามารถรวยได้ทุกคนโดยเริ่มต้นจากการสร้างวิธีคิดและเข้าใจความหมายของความรวย วางแผนจัดการรายรับรายจ่ายให้เกิดเงินออม และลงทุนต่อยอดให้กับตัวเองเพื่อพัฒนาให้มีรายได้มากขึ้น รวมถึงลงทุนในทรัพย์สินต่างๆ ที่ทำให้เงินไปต่อเงินให้งอกเงยมากยิ่งขึ้นจนทำให้เราไปถึงเป้าหมายทางการเงินของเรา

สนใจลงทุนในทรัพย์สินต่างๆ เพื่อต่อยอดความมั่งคั่ง กับธนาคารกรุงไทย ลงทุนกับกองทุน กองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดี (ชนิดสะสมมูลค่า) (KT-ESG-A) 

หรือ กองทุนเปิดเคแทม ไชน่า อิควิตี้ ฟันด์ (KT-CHINA-A)

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา