เรียนรู้การเงิน

สมการเงินออม

อัปเดตวันที่ 15 ก.พ. 2561
จุดเริ่มต้นของการวางแผนการเงินส่วนบุคคล เริ่มต้นจากสมการเงินออม ซึ่งเป็นสมการพื้นฐานง่ายๆ ดังนี้
โดยที่สมการเงินออมของคนส่วนใหญ่ (ประมาณ 90% ของประชากรทั้งหมด) จะเป็นดังนี้
รายได้ - ค่าใช้จ่าย = เงินออม --> ใช้ก่อนเก็บ
ความหมายของสมการข้างต้นนี้คือ คนส่วนใหญ่เมื่อทำงานมีรายได้ ก็มักจะนำเงินนั้นไปจับจ่ายใช้สอย นั่นคือเอาไป ใช้ ใช้ และ ใช้ ใช้ เหลือเท่าไหร่จึงค่อยออม แล้วคุณคิดว่าคนเหล่านั้นจะเหลือเงินเก็บหรือเงินออมหรือไม่ คิดว่าคงเดาได้ไม่ยากว่าเขาเหล่านั้นคงไม่มีเงินเหลือเก็บเป็นแน่แท้ ซึ่งเราเรียกพฤติกรรมนี้ว่า ‘ใช้ก่อนเก็บ’ และแน่นอนว่าย่อมไม่เหลือเงินให้เก็บ คุณเป็นคนกลุ่มนี้อยู่หรือเปล่า?

ในขณะที่คนส่วนน้อย (ประมาณ 8-9% ของประชากรทั้งหมด) สมการเงินออมของเขาเป็นดังนี้
รายได้ - เงินออม = ค่าใช้จ่าย --> เก็บก่อนใช้

คนส่วนน้อยนี้ เมื่อทำงานมีรายได้ เขาก็วางแผนที่จะกันเงินออมออกมาก่อนเลยด้วยการฝากประจำดอกเบี้ยสูง จากนั้นเหลือเท่าไหร่จึงค่อยใช้ ดังนั้นเขาจึงต้องมีการวางแผน การใช้จ่ายให้เหมาะสมกับเงินที่เหลืออยู่ เราเรียกพฤติกรรมนี้ว่า ‘เก็บก่อนใช้’ เมื่อเป็นเช่นนี้ เราแทบไม่ต้องเดาเลยว่าคนกลุ่มนี้ย่อมมีเงินเก็บอย่างแน่นอน แต่ความสำเร็จทางการเงินของคนกลุ่มนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน ขึ้นอยู่ว่าเขาเก็บเงินได้มากเท่าไหร่ และมีการบริหารจัดการเงินนั้นอย่างไร

มาถึงคนกลุ่มสุดท้าย (ประมาณ 1-2% ของประชากรทั้งหมด) ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จทางการเงินและมีอิสรภาพทางการเงิน ซึ่งสมการเงินออมของคนกลุ่มนี้ เป็นดังนี้
รายได้ รายได้ รายได้ = ค่าใช้จ่าย + เงินออม

จุดตั้งต้นของคนกลุ่มนี้ก็มาจาก ‘การเก็บก่อนใช้’ ทำให้มีเงินออม จากนั้นเขาก็นำเงินออมของเขามาบริหารจัดการเพื่อให้เกิดรายได้ หรือสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นหลายๆ ทาง จากนั้นเขาจะควบคุมค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับเดิม อยู่อย่างพอเพียง สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เขาก็จะมีเงินออมเพิ่มมากขึ้น และเมื่อนำเงินออมที่เพิ่มขึ้นไปบริหารจัดการให้ออกดอกออกผลอีก ดอกผลที่ว่าก็จะกลับมาเป็นรายได้จากสินทรัพย์อีก ก็ยิ่งกลายเป็นว่าเขาก็จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้นไปอีก กลายเป็นวัฏจักรแห่งความมั่งคั่ง มีรายได้ รายได้และรายได้ และเมื่อถึงวันหนึ่งที่รายได้ทางอื่นที่ไม่ใช่รายได้จากการทำงานประจำ (เช่น รายได้จากสินทรัพย์) มากกว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมด วันนั้นก็เป็นวันที่เขาจะมีอิสรภาพทางการเงิน