“ดวงดาว นิยมทรัพย์” ยกระดับน้ำพริกแม่ศรีสู่ตลาดโลก ส่งต่อ DNA จากรุ่นสู่รุ่น สร้างธุรกิจยั่งยืน

หากพูดถึงน้ำพริกไทยที่สามารถก้าวสู่ตลาดสากลได้อย่างภาคภูมิ หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ "น้ำพริกแม่ศรี" ธุรกิจครอบครัวเล็ก ๆ ที่ปั้นแบรนด์จากถุงละไม่กี่บาทในตลาดนครปฐม สู่อาณาจักรอาหารไทยพร้อมรับประทานที่ส่งออกไปยังทั่วโลก โดยมี "ดวงดาว นิยมทรัพย์" ทายาทรุ่น 2 เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

ยกระดับน้ำพริกพื้นบ้านสู่มาตรฐานโลก

จากจุดเริ่มต้นของคุณแม่สมศรี ที่ทำน้ำพริกขายเพื่อฝากร้านในกรุงเทพฯ เมื่อขายดีจึงเริ่มบรรจุกระปุกแต่ยังเก็บได้ไม่นาน นั่นคือจุดที่คุณดวงดาวเริ่มมองหาแนวทางใหม่ โดยยึดหลักไม่ใส่สารกันเสีย ไม่ใส่สีหรือผงชูรส แต่ยังคงรสชาติไทยแท้ไว้อย่างครบถ้วน พร้อมเรียนรู้เรื่องการบรรจุเพื่อยืดอายุผลิตภัณฑ์ และก้าวสู่การผลิตเพื่อการส่งออก

ด้วยการเข้าร่วมอบรมจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และการพัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐานสากล วันนี้ "น้ำพริกแม่ศรี" ส่งออกแล้วกว่า 90% ของยอดขาย ไปยังประเทศหลักอย่างสหรัฐฯ อังกฤษ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และยุโรป และยังคงรักษาคุณภาพและสูตรดั้งเดิมได้อย่างต่อเนื่อง

ไม่หยุดพัฒนา แตกไลน์สินค้ากว่า 100 รายการ

จากการฟังเสียงผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาความสะดวก อร่อย ดีต่อสุขภาพ และใส่ใจสิ่งแวดล้อม น้ำพริกแม่ศรีจึงปรับตัวด้วยการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ เช่น น้ำพริกแกงพร้อมปรุง น้ำยาสำเร็จรูป อาหารพร้อมรับประทาน และซอสปรุงรสต่าง ๆ พร้อมเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มากกว่า 100 รายการ ขายผ่านทั้งร้านค้าของตนเอง ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ และช่องทางออนไลน์ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้รอบด้าน

ส่งออกให้ปัง ต้องเข้าใจมาตรฐานและใส่ใจคู่ค้า

การส่งออกน้ำพริกไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านกฎระเบียบมากมายในแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสารตกค้างหรือการควบคุมคุณภาพวัตถุดิบ คุณดวงดาวจึงสร้างเครือข่ายเกษตรกรที่เข้าใจมาตรฐานการผลิตระดับสากลและสามารถส่งวัตถุดิบที่ตรวจสอบย้อนกลับได้

หัวใจของความสำเร็จคือความซื่อสัตย์และจริงใจ “ลูกค้าต้องการอะไร เราจัดให้เต็มที่ หากราคาสูงขึ้นก็แจ้งตรงไปตรงมา ถ้าลูกค้ารับได้ เราทำให้ แต่หากขอให้ผลิตสินค้าที่ซ้ำกับแบรนด์อื่น หรือไปตัดหน้าตัวแทนจำหน่ายเดิม เราไม่ทำ เพราะต้องให้เกียรติคนที่ร่วมสู้กับเรามา”

ปลูกฝัง DNA ธุรกิจ ส่งต่อสู่รุ่น 3 อย่างมั่นคง

วันนี้น้ำพริกแม่ศรีกำลังเตรียมส่งต่อธุรกิจสู่รุ่นที่ 3 โดยคุณดวงดาวส่งหลาน ๆ ไปเรียนทั้งด้าน Food Science และบริหารธุรกิจ เพื่อเตรียมพร้อมทั้งด้านผลิตภัณฑ์และการขยายตลาดต่างประเทศ เพราะเชื่อว่าการสร้างธุรกิจครอบครัวให้ยั่งยืน ต้องเกิดจากความร่วมมือ ความรักใคร่สามัคคี และเปิดใจรับแนวคิดใหม่จากคนรุ่นใหม่ “หน้าที่ของผู้ใหญ่คือให้พื้นที่ ให้โจทย์ ให้เขาได้ลอง แล้วคอยสนับสนุนจากข้างหลัง”

ไม่มีกลยุทธ์สำเร็จรูป มีแต่ความเข้าใจและความใส่ใจ

แม้จะเป็นธุรกิจที่เติบโตจนมีรายได้เฉลี่ยปีละ 800-900 ล้านบาท แต่คุณดวงดาวกลับบอกว่า “กลยุทธ์ของแม่ศรีคือการไม่มีกลยุทธ์” เพราะการยึดติดกับแผนมากไป อาจทำให้พนักงานไม่มีความสุข เธอจึงเลือกใช้การตัดสินใจตามสถานการณ์จริง ควบคู่กับการใส่ใจคุณภาพสินค้าและทีมงานในทุกขั้นตอน

เรื่องราวของน้ำพริกแม่ศรี คือบทพิสูจน์ว่าธุรกิจครอบครัวไทย หากมีรากฐานที่ดีและพร้อมปรับตัว เข้าใจกฎระเบียบการส่งออก และสร้างเครือข่ายวัตถุดิบคุณภาพ ก็สามารถเติบโตสู่ตลาดโลกได้อย่างสง่างาม ด้วยหัวใจที่ซื่อสัตย์ เข้าใจลูกค้า และกล้าส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้พัฒนาต่ออย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเริ่มจากถุงละ 3 บาท หรือยอดขายหลักพันล้าน หากยังคงไว้ซึ่ง "แก่นแท้" ของความอร่อยและความจริงใจ ก็ไม่มีอะไรหยุดธุรกิจนี้ได้

ไม่พลาดความรู้ธุรกิจดีๆ Add LINE @KrungthaiSME คลิก