เรียนรู้การเงิน

G-Able จากเซลส์ฮาร์ดแวร์…สู่ผู้นำสาย Digital Solutions ชั้นนำของไทย!

อัปเดตวันที่ 30 พ.ค. 2568


“ไม่ใช่แค่เข้าใจเทคโนโลยี แต่ต้องเข้าใจคน เข้าใจธุรกิจ และเข้าใจความเปลี่ยนแปลง” กิตยานี อัศวาณิชย์ หญิงแกร่งแห่ง G-Able กับภารกิจปั้นองค์กรเทคโนโลยีสัญชาติไทยสู่ผู้นำด้านดิจิทัล

ในโลกที่เทคโนโลยีหมุนเร็วขึ้นทุกวัน การเป็นผู้นำธุรกิจไอทีจึงต้องมีมากกว่าความรู้ด้านเทคนิค เพราะสิ่งสำคัญไม่ใช่เพียงแค่การ “สร้างนวัตกรรม” แต่คือการ “สร้างคุณค่าที่แท้จริงให้กับลูกค้า” นี่คือหัวใจสำคัญของ กิตยานี อัศวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่แห่ง G-Able Public Company Limited บริษัทเทคโนโลยีของไทยที่มีรากฐานยาวนานกว่า 35 ปี


จุดเริ่มต้นจากธุรกิจขายฮาร์ดแวร์ สู่การเป็น Digital Enabler

G-Able ก่อตั้งขึ้นในปี 2532 ด้วยบทบาทตัวแทนจำหน่ายเวิร์กสเตชันและโซลูชันไอทีก่อนค่อยๆ ขยายสู่การเป็นผู้นำด้านบริการเทคโนโลยีแบบครบวงจร (End-to-End Digital Solutions) ครอบคลุมทั้งระบบ Cloud, Cybersecurity, Data Analytics, AI, Software Development และ IT Managed Services

แต่สิ่งที่ทำให้ G-Able แตกต่างจากคู่แข่งคือ แนวคิด “ไม่ใช่แค่ขายระบบ แต่เข้าไปเรียนรู้และสร้างโซลูชันร่วมกับลูกค้า” ผ่านการเรียนรู้แบบลงมือทำจริง (Learning by Doing) เพื่อออกแบบระบบที่ตอบโจทย์ได้ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน ไปจนถึงธุรกิจค้าปลีกและการศึกษา


“ทีมต้องพูดกับลูกค้าเป็น” – กุญแจสำคัญของ Digital Transformation

กิตยานีมองว่า ความสำเร็จของการทำ Digital Transformation ไม่ได้อยู่ที่การนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาเท่านั้น แต่อยู่ที่ “การแปลภาษาซับซ้อนของเทคโนโลยี ให้เป็นสิ่งที่ลูกค้าเข้าใจและใช้งานได้จริง”


“เราไม่ต้องการแค่โปรแกรมเมอร์เก่งๆ แต่ต้องการคนที่เข้าใจโจทย์ธุรกิจของลูกค้า และมี Empathy”


ในยุคที่เทคโนโลยีล้ำ แต่คนยังปรับตัวไม่ทัน G-Able จึงสร้างทีมที่เชื่อมโยงทั้ง 3 โลก – เทคโนโลยี ธุรกิจ และผู้ใช้งาน โดยเน้นการพัฒนา “คน” ควบคู่กับ “ระบบ” เสมอมา


วางแผนแบบนักการเงิน บริหารธุรกิจแบบมืออาชีพ

ก่อนก้าวเข้าสู่วงการเทคโนโลยี กิตยานีเคยผ่านงานด้านการเงินในต่างประเทศมาแล้วหลายแห่ง ประสบการณ์นี้ทำให้เธอนำหลักคิดแบบ Portfolio Management มาใช้บริหารองค์กรอย่างมียุทธศาสตร์


“ธุรกิจเทคโนโลยีต้องมีการวางพอร์ตการลงทุนอย่างชัดเจน แยกส่วนที่เน้นรายได้ประจำ (Recurring Income) กับส่วนที่เน้นนวัตกรรมหรือการลงทุนระยะยาว”


G-Able ไม่ผูกติดกับอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง แต่กระจายความเสี่ยงไปยังหลายกลุ่มลูกค้า พร้อมขยายการลงทุนในธุรกิจ Startup ที่เสริม Ecosystem เดียวกัน เช่น การร่วมลงทุนในบริษัท AI, Health Tech หรือ EduTech ผ่านบริษัทลูกอย่าง Blendata และ Cloud Precision


หญิงแกร่งกับแนวคิดการบริหารแบบ “แม่ดูแลลูก”

แม้จะเป็นซีอีโอของบริษัทใหญ่ แต่กิตยานีกลับบริหารงานด้วยมุมมองแบบ “แม่ที่เลี้ยงลูก” คือ “รู้จักความเสี่ยง รู้ว่าลูกเราแข็งแรงพอหรือยัง และไม่ดันทุรังให้เขาโตเร็วเกินไป”


“ผู้หญิงมีข้อได้เปรียบด้านความละเอียด รอบคอบ และคิดเผื่อ มันช่วยให้การบริหารธุรกิจมั่นคง ไม่ใช้อารมณ์ตัดสินใจ”


ในขณะเดียวกัน เธอยังเปิดกว้างให้กับ “คนรุ่นใหม่” ทั้งในองค์กร และพันธมิตรทางธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มสตาร์ทอัพที่มีไอเดียสดใหม่ ซึ่งช่วยให้ G-Able ปรับตัวได้เร็วและมีพลังในการแข่งขัน


คำแนะนำถึงผู้นำยุคใหม่

ในฐานะผู้นำองค์กรเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างมั่นคง กิตยานีฝากข้อคิดสำคัญไว้สำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่ว่า

  1. เข้าใจลูกค้าให้มากกว่าที่เขาเข้าใจตัวเอง – เทคโนโลยีที่ดีไม่ใช่แค่ทันสมัย แต่ต้องแก้ปัญหาได้จริง
  2. ลงทุนกับคนก่อนลงทุนกับระบบ – ระบบที่ดีที่สุดจะไร้ประโยชน์ หากคนไม่เข้าใจหรือไม่พร้อมใช้งาน
  3. มองภาพรวมระยะยาว – อย่าให้ความสำเร็จชั่วคราวมากลบเป้าหมายที่แท้จริงของธุรกิจ
  4. บริหารความเสี่ยงด้วยสติ ไม่ใช่ความกลัว – ยิ่งเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว ยิ่งต้องรู้ว่าควรเสี่ยงตรงไหน
  5. ใช้จุดแข็งของตัวเองให้เป็นประโยชน์ – ไม่จำเป็นต้องเหมือนคนอื่น ขอแค่รู้ว่าจุดแข็งของเราคืออะไร

บทสรุป G-Able กับการเป็น “พันธมิตรที่ไว้ใจได้” ขององค์กรไทย

ภายใต้การนำของ กิตยานี อัศวาณิชย์ G-Able ไม่ได้เติบโตแค่ในเชิงยอดขายหรือกำไร แต่ยังเป็นบริษัทเทคโนโลยีไทยที่ยืนหยัดได้ท่ามกลางการแข่งขันจากต่างชาติ ด้วยจุดแข็งในความเข้าใจลูกค้า ความเชี่ยวชาญเชิงลึก และการบริหารองค์กรอย่างยั่งยืน


“เทคโนโลยีเปลี่ยนได้ทุกวัน แต่ความไว้วางใจต้องใช้เวลา เราจึงต้องเป็นพาร์ตเนอร์ที่ลูกค้าไว้ใจได้…เสมอ”


ไม่พลาดความรู้ธุรกิจดีๆ Add LINE @KrungthaiSME คลิก https://lin.ee/jr4Hf8W


แนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับธุรกิจท่าน