เรียนรู้การเงิน

“ซันสวีท” นำเทคโนโลยีผสานแนวคิดสีเขียว พลิกธุรกิจสินค้าแปรรูปเกษตร ดันยอดส่งออกพุ่งมุ่งสู่ Future Food

อัปเดตวันที่ 26 มี.ค. 2568


Business Highlights

  • บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) ผลิตและจำหน่ายสินค้าแปรรูปทางการเกษตร เพื่อขายในประเทศ และส่งออกกว่า 50 ประเทศทั่วโลก โดยปี 2566 มีมูลค่าการส่งออกสูงถึงกว่า 2,800 ล้านบาท
  • ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋อง ข้าวโพดหวานบรรจุถุงสุญญากาศ ข้าวโพดหวานแช่แข็ง และกลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน (Ready to Eat) ภายใต้แบรนด์ KC
  • เป็นผู้ประกอบการรายเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใช้เครื่องฆ่าเชื้ออัตโนมัติระบบต่อเนื่องแบบสเตอริไลซ์ หรือ Hydrolock Continuous Rotary Sterilizer ในการผลิต ผลิตภัณฑ์มีสีสวยและคุณภาพสูง ช่วยลดต้นทุนการใช้พลังงานและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม คุ้มทุนภายใน 3 ปี
  • นำเทคโนโลยี Agricultural Forecasting มาช่วยเกษตรกรผ่านโครงการ Smart Farming แก้ปัญหาการใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถควบคุมคุณภาพและคาดการณ์ผลผลิตในแต่ละปี
  • เปลือกและซังข้าวโพดนำไปผลิตก๊าซชีวภาพเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในโรงงานและขายการไฟฟ้าติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ นำพลังงานสะอาดกลับมาใช้ รวมมูลค่าที่ได้กลับคืนนับล้านบาทต่อปี

บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่มีการส่งออกข้าวโพดหวานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คงไม่มีใครที่จะบอกเล่าถึงเส้นทางความสำเร็จของซันสวีทได้ดีเท่ากับ ดร.องอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน)


ปรับแนวคิดธุรกิจ เปลี่ยนผลผลิต พลิกขาดทุนเป็นกำไร

ธุรกิจของบริษัท ซันสวีทฯ เริ่มต้นจากการรับซื้อผักและผลไม้สด เช่น ผักกาดเขียว มะเขือเทศ ลิ้นจี่ ลำไย ในพื้นที่ภาคเหนือ แล้วส่งต่อให้กับตลาดและโรงงานแปรรูป แต่เพราะสินค้าเป็นของสดจึงประสบปัญหา “ขายบ้างทิ้งบ้าง” ประกอบกับราคาพืชผลทางเกษตรไม่แน่นอน บางปีราคาดี บางปีผลผลิตมีจำนวนมากก็จำหน่ายไม่ได้ราคา

“ในทางธุรกิจจะประเมินว่าธุรกิจไหนอยู่รอดได้ 3-4 ปี จะไปได้ดี หากไม่รอดในปีที่ 4-5 จะถูกยึดหรือเปลี่ยนมือ ซึ่งเราเจอกับวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 เศรษฐกิจไม่ดีและความเสียหายเกิดจากการใช้เงินสดซื้อลิ้นจี่และลำไยจำนวนมาก เพื่อแปรรูปสต็อกสินค้าเก็บไว้ ผลผลิตออกกลางปีแต่ทำเพื่อขายปลายปี จึงขาดทุนมหาศาล เป็นจุดที่ทำให้ต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนธุรกิจ เพราะสินค้าที่ทำอยู่ขณะนั้นขึ้นอยู่กับฤดูกาลทั้งหมด จากลิ้นจี่และลำไยที่เป็นสินค้าหลัก มีช่วงเก็บเกี่ยว 3-5 เดือน หันมาที่ข้าวโพดหวานซึ่งมีผลผลิตให้เก็บเกี่ยวได้เกือบตลอดปี ผลิตไปขายไปไม่ต้องสต็อกสินค้า ราคา 3-5 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อเทียบกับสินค้าเดิมกิโลกรัมละ 20-30 บาท นอกจากนี้ ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่คนทั่วโลกรู้จักและสินค้ามีเพียงขนาดเดียว ไม่เหมือนผลไม้ที่แบ่งเกรดด้วยขนาด ทำให้เราประคองธุรกิจผ่านวิกฤติตรงนั้นมาได้”


เทคโนโลยีสร้าง Big Change ดันคุณภาพเหนือคู่แข่ง ได้ลูกค้าเพิ่ม

“เทคโนโลยีที่ซันสวีทนำมาใช้แล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งเชิงคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เราได้เปรียบคู่แข่งและลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี คือเครื่องฆ่าเชื้ออัตโนมัติระบบต่อเนื่องแบบสเตอริไลซ์ หรือ Hydrolock Continuous Rotary Sterilizer ที่ช่วยประหยัดพลังงานน้ำ ไฟ แรงงานมนุษย์ และเวลา เดิมทีเราใช้หม้อต้มฆ่าเชื้อที่ต้องปล่อยน้ำทิ้งจำนวนมากในกระบวนการฆ่าเชื้อ และใช้เวลาในแต่ละรอบถึง 45 นาที ขณะที่ระบบ Hydrolock ใช้เวลาเพียง 7 นาที โดยไม่ต้องปล่อยน้ำทิ้ง และไม่ต้องใช้แรงงานในการดูแล เพราะควบคุมและสั่งการด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ช่วยป้องกันการเกิดความสูญเสียระหว่างกระบวนการ ช่วยลดต้นทุน และเพิ่มกำลังการผลิตได้อย่างมาก ที่สำคัญผลิตภัณฑ์ที่ออกมามีสีสวยคุณภาพดีขึ้นแบบก้าวกระโดดเหนือกว่าคู่แข่ง ได้ตามเกณฑ์ที่ตลาดต่างประเทศต้องการ ทำให้เราขยายการส่งออกไปประเทศต่าง ๆ ได้มากขึ้น เป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ธุรกิจซันสวีท

“จากการลงทุน Hydrolock เครื่องแรกคำนวณว่าจะคืนทุนในระยะ 5-7 ปี แต่ภายใน 3 ปี ก็ถึงจุดคุ้มทุน ทำให้เราตัดสินใจลงทุนเพิ่มเครื่องที่สอง เป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ที่ใช้นวัตกรรม Hydrolock ภายใต้การสนับสนุนเงินทุนจากธนาคารกรุงไทย และเป็นโอกาสให้ธุรกิจเราเติบโตมั่นคง หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงไทยให้นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ เราอาจสูญเสียทุนที่เรามีไปจนหมดก็เป็นไปได้”

Lesson Learned

การทำธุรกิจสินค้าทางการเกษตร ราคาและผลผลิตไม่แน่นอนในแต่ละฤดูกาล เมื่อผลผลิตมีจำนวนมากและราคาต่ำ จึงปรับรูปแบบธุรกิจมาสู่การถนอมและแปรรูปอาหาร • จุดเปลี่ยนการพัฒนาธุรกิจให้เติบโต ต้องมีองค์ความรู้ในเรื่องนั้น จึงเลือกการเช่าโรงงานแปรรูปที่มีเทคโนโลยีในเรื่องดังกล่าว เมื่อธุรกิจมีการเติบโต มีความรู้และประสบการณ์จึงก่อตั้งโรงงานเอง • การลงทุนในนวัตกรรมและเทคโนโลยีต้องใช้เงินทุนมาก ต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าและความเหมาะสมกับขนาดของธุรกิจ รวมถึงความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการ • เลือกซื้อเครื่อง Robot มือสองที่มีราคาต่ำกว่าของใหม่ มาทดลองใช้ในขั้นตอนบรรจุภัณฑ์ เพื่อพิจารณาประสิทธิภาพและความคุ้มทุน ช่วยลดความเสี่ยงการลงทุนในเครื่องจักรกลที่ยังไม่มีความชำนาญและมีราคาสูง



แนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับธุรกิจท่าน