DCA กลยุทธ์ที่แนะนำสำหรับมนุษย์เงินเดือน พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
DCA กลยุทธ์ที่แนะนำสำหรับมนุษย์เงินเดือน
พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ในการลงทุนหลายคนอาจจะมองว่าการจับจังหวะตลาดเพื่อซื้อหุ้นหรือกองทุนที่ราคาถูกๆและไปขายต่อในราคาที่สูงขึ้นเป็นการลงทุนที่สุดยอดเนื่องจากทำกำไรได้เร็ว แต่ปัญหาสำคัญคือ เรามั่นใจได้อย่างไรว่าราคาหุ้นหรือกองทุนที่เราทุ่มเงินก้อนใหญ่เข้าไปลงทุนนั้นเป็นจุดที่ราคาถูกแล้วจริงๆ ทำให้หลายๆครั้งนักลงทุนอาจจะต้องพบกับอาการที่เรียกว่า “ติดดอย” หรือราคาสินทรัพย์ที่เราลงทุนไปราคาลดลงเรื่อยๆ อยากจะลงทุนเพิ่มแต่เงินก็หมดแล้ว หรือบางท่านที่ศึกษาการลงทุนมาแล้วพบว่าการลงทุนระยะยาวจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและลดความผันผวนระยะสั้นได้แต่ก็ไม่มีเวลาที่จะดูเรื่องเศรษฐกิจหรือทิศทางตลาดตลอดเวลาก็อาจจะทำให้พลาดโอกาสการลงทุนไป ดังนั้น วิธีการลงทุนที่เรียกว่า DCA (Dollar-Cost Averaging) ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะสามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้
การลงทุนแบบ DCA คือ การลงทุนที่เน้นการทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยจำนวนเงินเท่าๆ กัน ในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น กองทุน ฯลฯ โดยไม่สนใจราคา ไม่จับจังหวะสภาพตลาด จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนแบบสะสมสินทรัพย์ รักษาวินัยการลงทุนหรือไม่อยากจับจังหวะตลาด เนื่องจากวิธีการ DCA จะช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนที่ไม่ถูกจังหวะ เพราะเป็นการถัวเฉลี่ยต้นทุนจากการทยอยลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อตลาดปรับฐานลงเราก็จะได้รับจำนวนหุ้นหรือหน่วยกองทุนที่เพิ่มมากขึ้นหรือเมื่อตลาดปรับขึ้นเราก็มีโอกาสกำไรจากการลงทุน
ข้อดีของลงทุนแบบ DCA ผ่านกองทุนรวม
- ใช้เงินลงทุนน้อยก็สามารถลงทุนได้ เช่น กองทุน KTWC-MODERATE RMF ที่เน้นกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆทั่วโลกหรือกองทุน KT-WEQ RMF ที่เน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีความผันผวนต่ำ ก็ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นแค่ 500 บาท
- สร้างวินัยการออมและการลงทุน โดยเราแบ่งเงินที่มาจากรายได้ในแต่ละเดือนเพื่อลงทุนก่อนที่เราจะนำเงินไปซื้อหรือใช้จ่ายอย่างอื่นที่อาจจะไม่ได้มีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
- ทำให้เรามีเวลามากขึ้น เพราะไม่ต้องคอยจับจังหวะภาวะตลาด ให้เราได้มีเวลาไปทำงาน ไปเที่ยวหรือทำในสิ่งที่อยากทำได้เต็มที่ เพราะไม่ต้องไปสนใจราคาหุ้นหรือกองทุนที่ขึ้นลงในแต่ละวัน
การลงทุนแบบ DCA นอกจากสร้างวินัยการลงทุนแล้ว ยังเสริมสร้างโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีด้วย
ขอยกตัวอย่าง ผลการทดสอบการคำนวณ โดยสมมติให้พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ตัดสินใจแบ่งเงินจากเงินเดือนที่ตนได้รับในวันที่ 25 ของทุกเดือนมาลงทุนในกองทุน KT-WEQ RMF* ตั้งแต่ ม.ค. 2563 - ธ.ค. 2567 รวม 5 ปี โดยใช้วิธีลงทุน 2 แบบ คือ
- ลงทุนในช่วงสิ้นเดือน ธันวาคมของทุกปีเพียงครั้งเดียว โดยลงทุนปีละ 120,000 บาท
-
ลงทุนแบบ DCA โดยลงทุนช่วงสิ้นเดือนของทุกเดือน เดือนละ 10,000 บาท
*ข้อมูล NAV จาก www.ktam.co.th ตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 - 31 ธันวาคม 2567
เลื่อนเพื่อดูข้อมูลตาราง
สรุปการลงทุนในกองทุน KT-WEQ RMF ทั้ง 2 แบบ | ||
จำนวนเงิน | ลงทุนก้อนเดียวทุกปลายปี | ลงทุนแบบ DCA ทุกเดือน |
เงินต้นที่ลงทุนทั้งหมด (บาท) | 600,000 | 600,000 |
ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วย (บาท/หน่วย) | 13.6117 | 12.9515 |
หน่วยลงทุนสะสมทั้งหมด (หน่วย) | 44,079.59 | 46,326.70 |
มูลค่าเงินลงทุน (บาท) | 696,127 | 731,614 |
กำไร/ขาดทุน (บาท) | +96,127 | +131,615 |
พบว่ามูลค่าพอร์ตที่ลงทุนก้อนเดียวทุกปลายปีนั้น มูลค่าจะเท่ากับ 696,127 บาท ขณะที่วิธีแบบ DCA นั้นมูลค่าพอร์ตจะเท่ากับ 731,614 บาท ซึ่งมีมูลค่าต่างกันถึง 35,487 บาท**
โดยทั้ง 2 กรณีใช้เงินต้นลงทุนเท่ากันที่ 600,000 บาท และใช้ระยะเวลาลงทุนเท่ากันที่ 5 ปีเต็ม แต่วิธีแบบ DCA ได้รับผลตอบแทนที่มากกว่าเนื่องจากมีต้นทุนเฉลี่ยที่ถูกกว่าทำให้ได้รับหน่วยลงทุนมากกว่า ซึ่งวิธีแบบ DCA มีต้นทุนต่อหน่วยที่ 12.9515 บาทและมีหน่วยลงทุนทั้งหมด 46,326.70 หน่วย ในขณะที่การลงทุนปลายปีก้อนเดียวมีต้นทุนเฉลี่ย 13.6117 บาทและมีหน่วยลงทุนทั้งหมด 44,079.59 หน่วย
** ข้อมูล NAV ของกองทุน ณ. วันที่ 3 ม.ค. 2568
หมายเหตุ การคำนวณนี้มิใช่การการันตีผลตอบแทน เนื่องจาก NAV ของแต่ละกองทุนอาจมีความผันผวนแตกต่างกัน และวันที่ลงทุนที่แตกต่างกันกับตัวอย่างที่กำหนด อาจส่งผลให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ได้รับแตกต่างกันไป ซึ่งผู้ลงทุนอาจมีโอกาสได้กำไรมากกว่าหรือน้อยกว่าได้
ดังนั้น จะเห็นว่าวิธีการลงทุนแบบ DCA นั้นเป็นวิธีการลงทุนที่ทุกคนสามารถทำได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างวินัยการออมการลงทุนแล้ว ยังสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวด้วย
บทความโดย : นายอวิรุทธ์ ศรีวัฒนชัยกุล CFP®
คำเตือน : ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนนี้มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนและไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน | ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ | ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงและศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน RMF ก่อนการตัดสินใจลงทุน กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษีจะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน | ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา