วีซ่าอเมริกามีกี่ประเภท? ขอวีซ่าอเมริกาต้องมีเงินในบัญชีเท่าไหร่ อ่านเลย!
การเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นความฝันของใครหลายๆ คน ที่ครั้งหนึ่งต้องเยือนให้ได้สักครั้ง ด้วยเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นแสงสีที่ Times Square ในนิวยอร์ก ความอลังการของ Grand Canyon หรือความมหัศจรรย์ของ Disneyland ในแคลิฟอร์เนีย แต่ก่อนที่จะได้สัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ สิ่งสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องผ่านคือการขอวีซ่า ซึ่งหลายคนอาจรู้สึกกังวลและสงสัยว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง บทความนี้พร้อมจะตอบทุกสงสัย
วีซ่าอเมริกา มีกี่ประเภท?
วีซ่าอเมริกาแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ วีซ่าชั่วคราว หรือ Nonimmigrant Visas และ วีซ่าถาวร หรือ Immigrant Visas
วีซ่าชั่วคราว
วีซ่าชั่วคราว คือ วีซ่าประเภทหนึ่งที่ออกให้แก่บุคคลที่ไม่ได้มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่มีความต้องการพำนักในสหรัฐอเมริกาเป็นการชั่วคราว ด้วยจุดประสงค์เรื่องการท่องเที่ยว การเดินทางไปทำธุรกิจ ไปศึกษาต่อ เข้ารับการรักษาทางการแพทย์ หรือ ทำงานชั่วคราว
วีซ่าถาวร
วีซ่าถาวร คือ วีซ่าที่อนุญาตให้ผู้ถือเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อวัตถุประสงค์ถาวร เช่น การย้ายถิ่นฐาน การแต่งงานกับพลเมืองสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเภทต่างๆ (อัปเดต 2024)
- วีซ่าสำหรับธุรกิจหรือเดินทางท่องเที่ยว (ประเภท B) ค่าธรรมเนียม 185 ดอลลาร์สหรัฐ
- วีซ่าสำหรับผ่านแดน (ประเภท C1) ค่าธรรมเนียม 185 ดอลลาร์สหรัฐ
- วีซ่าสำหรับนักเรียน (สายวิชาการ) นักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยน นักเรียน (สายวิชาชีพ) (ประเภท F, J และ M) ค่าธรรมเนียม 185 ดอลลาร์สหรัฐ
- วีซ่าสำหรับแรงงานชั่วคราวตามฤดูกาล และการจ้างงาน พนักงานฝึกหัด (ประเภท H) ค่าธรรมเนียม 205 ดอลลาร์สหรัฐ
- วีซ่าสำหรับคู่หมั้น หรือคู่สมรสของพลเมืองสหรัฐฯ (ประเภท K) ค่าธรรมเนียม 265 ดอลลาร์สหรัฐ
- วีซ่าสำหรับพนักงานที่ย้ายไปทำงานที่สหรัฐฯ ชั่วคราวภายใต้การจ้างงานของบริษัทที่อยู่ในเครือเดียวกัน (ประเภท L) ค่าธรรมเนียม 265 ดอลลาร์สหรัฐ
ทำอย่างไรถึงได้วีซ่าอเมริกา 10 ปี
วีซ่าอเมริกา 10 ปี หมายถึงวีซ่านั้นมีอายุ 10 ปี และในช่วงระยะเวลา 10 ปีนี้ เราสามารถเข้า-ออกอเมริกาเมื่อไหร่ หรือกี่ครั้งก็ได้ อย่างไรก็ตาม วีซ่าถือเป็นเอกสารเบื้องต้นที่อนุญาตให้เดินทางไปยังประเทศปลายทางที่ต้องการ แต่การจะอยู่แต่ละครั้งได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ตม. หรือเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เช่น สำหรับผู้ถือวีซ่าท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่อาจพิจารณาให้อยู่แต่ละครั้งได้ตั้งแต่ 7 วัน ถึง 6 เดือน
ขอวีซ่าอเมริกา ต้องมีเงินในบัญชีเท่าไหร่ ?
การแสดงหลักฐานทางการเงินเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาอนุมัติวีซ่าอเมริกา หลักฐานแสดงสถานะทางการเงิน หรือ Statement บัญชีธนาคารย้อนหลังอย่างน้อย 6-12 เดือน ควรมีเงินในบัญชีอย่างน้อยให้เพียงพอและครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการเดินทางและท่องเที่ยว เช่น ทริป 7 วัน ควรมีเงินขั้นต่ำในบัญชี 50,000-100,000 บาท เป็นต้น
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กงสุลจะพิจารณาจากปัจจัยหลายประการร่วมกัน เช่น สถานะทางการเงิน อาชีพการงาน ความสัมพันธ์กับประเทศต้นทาง และวัตถุประสงค์ในการเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา หากผู้ขอวีซ่ามีเอกสารที่แสดงถึงสถานะทางการเงินที่มั่นคง เช่น บัญชีออมทรัพย์ที่มีเงินฝากประจำ หรือหนังสือรับรองการทำงานจากบริษัท ก็ช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติวีซ่าได้
ขอวีซ่าอเมริกา ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ?
ผู้ที่ต้องการขอวีซ่าอเมริกาจะต้องยื่นคำร้องขอวีซ่ากับสถานทูตหรือสถานกงสุลสหรัฐอเมริกา โดยจะต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ ตามที่กำหนด และเข้ารับการสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่วีซ่า ดังนี้
- แบบฟอร์มขอวีซ่าอเมริกาออนไลน์ Nonimmigrant Visa Electronic Application (DS-160)
- หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุคงเหลือมากกว่า 6 เดือน
- รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 2 x 2 นิ้ว 1 ใบ ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
- ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา
- จดหมายนัดสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา (Interview appointment letter)
- เอกสารประกอบเพิ่มเติมที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา เช่น หลักฐานแสดงรายได้ หนังสือรับรองการทำงาน
ขั้นตอนการขอวีซ่าอเมริกาแบบชั่วคราว
ขั้นตอนที่ 1
เข้าไปที่เว็บไซต์ www.ustraveldocs.com/th ศึกษารายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการยื่นคำร้องขอวีซ่าและข้อกำหนดต่างๆ เกี่ยวกับวีซ่าแต่ละประเภท เลือก ประเภทของวีซ่าชั่วคราว ที่หน้าเว็บเพื่อศึกษาข้อมูลของวีซ่าแต่ละประเภท
ขั้นตอนที่ 2
กรอกแบบคำร้องขอวีซ่าชั่วคราว (DS-160) กรอกแบบคำร้องขอวีซ่าที่ https://ceac.state.gov/genniv/ และพิมพ์ใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160
ขั้นตอนที่ 3 : สร้างโปรไฟล์ส่วนตัว
สร้างโปรไฟล์ส่วนตัวบนเว็บไซต์ www.ustraveldocs.com/th กรอกข้อมูลประวัติส่วนตัวให้ครบถ้วน จากนั้นเลือกประเภทและที่อยู่ในการจัดส่งเล่มหนังสือเดินทางคืน
ขั้นตอนที่ 4 : ชำระค่าธรรมเนียมการยื่นคำร้องขอวีซ่า/การสมัครวีซ่า
ชำระค่าธรรมเนียมการยื่นคำร้องขอวีซ่าซึ่งขอคืนเงินไม่ได้ (ในสกุลเงินท้องถิ่น) โดยการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EFT) หรือ ชำระเป็นเงินสดได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา โดยผู้สมัครต้องพิมพ์ใบชำระค่าธรรมเนียม CGI เพื่อนำไปชำระค่าธรรมเนียมที่ธนาคาร
ขั้นตอนที่ 5 : ทำนัดสัมภาษณ์
เมื่อชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อย ผู้สมัครจะสามารถนัดวันสัมภาษณ์ได้หลัง 12.00 น. ของวันทำการถัดไป (ในกรณีที่ชำระด้วยเงินสด) หรือหลัง 14.00 น. ของอีก 2 วันทำการถัดไป (หากชำระโดยการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์)
ขั้นตอนที่ 6 : เดินทางมาสัมภาษณ์วีซ่าที่สถานทูตฯ
ผู้สมัครจะต้องนำใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160 ใบยืนยันการนัดหมาย หนังสือเดินทาง (ทั้งเล่มเก่าและปัจจุบัน) รูปถ่ายสี ขนาด2×2 พื้นหลังสีขาวที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน และเอกสารที่เกี่ยวข้องมาด้วย
การเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นความฝันของใครหลายคน กระบวนการหนึ่งที่สำคัญก่อนที่จะได้ไปถึงก็คือการขอวีซ่าแม้ว่ากระบวนการขอวีซ่าอาจดูมีขั้นตอนที่เยอะ แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป และเมื่อผ่านขั้นตอนนี้ไปได้แล้ว สิ่งสำคัญต่อไปที่ต้องคำนึงถึงคือการวางแผนการเงินให้รอบคอบ เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและสมบูรณ์แบบ
Krungthai Travel Debit Card ผู้ช่วยที่รู้ใจของคนชอบเดินทางไปต่างประเทศที่ต้องการความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการจัดการเรื่องการเงินระหว่างทริป Krungthai Travel Card ช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการพกเงินสดติดตัวจำนวนทีละมากๆ เพราะสามารถแลกเงินและจัดการบัตร Krungthai Travel Debit Card ง่าย ๆ ตลอด 24 ชม. ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXTลดความเสี่ยงจากการสูญหายหรือถูกโจรกรรม มาพร้อมกับอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีสุดและไม่มีค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน 2.5% เพิ่มเติม
สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนเดินทางไปสหรัฐอเมริกา การเตรียมตัวที่ดีคือกุญแจสำคัญสู่การเดินทางที่ราบรื่น เริ่มตั้งแต่การจัดเตรียมเอกสารขอวีซ่าให้ครบถ้วน วางแผนการเดินทางอย่างรอบคอบ และไม่ลืมที่จะจัดการเรื่องการเงินให้พร้อม ด้วย Krungthai Travel Debit Card ที่จะช่วยให้คุณสามารถโฟกัสกับการสร้างประสบการณ์และความทรงจำดีๆ ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการเงินระหว่างเดินทางผู้ที่สนใจสมัคร Krungthai Travel Debit Card สามารถติดต่อได้ที่สาขาธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://krungthai.com
