เรียนรู้การเงิน

20 สถานที่เที่ยวฮอกไกโดยอดฮิต เที่ยวได้ด้วยตัวเอง

อัพเดทวันที่ 24 ต.ค. 2567

20 สถานที่เที่ยวฮอกไกโดยอดฮิต เที่ยวได้ด้วยตัวเอง

อีกหนึ่งที่เที่ยวญี่ปุ่นยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยว ต้องยกให้ ฮอกไกโด (Hokkaido) เกาะทางตอนเหนือของญี่ปุ่น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกไม้ในฤดูร้อน หรือหิมะขาวโพลนในฤดูหนาว ใครได้มาเป็นต้องปลื้มและอยากกลับมาเที่ยวอีกซ้ำ ๆ บทความนี้เราจะพาคุณไปสำรวจ 20 ที่เที่ยวฮอกไกโดยอดฮิตที่ไม่ควรพลาด


การเตรียมตัวก่อนเที่ยวฮอกไกโด

  1. Passport หรือหนังสือเดินทางที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน จนถึงวันเดินทางกลับ โดยนักท่องเที่ยวไทยสามารถเดินทางไปญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าและพำนักได้สูงสุด 15 วัน
  2. ลงทะเบียนในเว็บไซต์ Visit Japan Web ก่อนเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น โดยนักท่องเที่ยวจะต้องยื่นข้อมูลผ่านระบบการตรวจคนเข้าเมือง เมื่อถึงสนามบินปลายทางต้องแสดง QR Code ต่อเจ้าหน้าที่
  3. การเดินทางภายในฮอกไกโด ฮอกไกโดมีระบบขนส่งที่สะดวกสบาย การเลือกวิธีการเดินทางขึ้นอยู่กับแผนการท่องเที่ยวของคุณ
- รถไฟ JR Hokkaido Railway เป็นเครือข่ายรถไฟหลักที่เชื่อมต่อเมืองสำคัญหลายแห่ง เช่น ซัปโปโร (Sapporo) ฮาโกดาเตะ (Hakodate) และฟูราโน (Furano) แนะนำให้ซื้อ JR Hokkaido Rail Pass เพื่อความสะดวกและประหยัดค่าเดินทาง
- รถบัส มีบริการรถบัสสำหรับการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยเฉพาะในเขตภูเขาหรือหมู่บ้านน้ำพุร้อน เช่น Noboribetsu Onsen
- การเช่ารถ ถ้าคุณต้องการความอิสระในการเดินทาง การเช่ารถเป็นทางเลือกที่ดี โดยเฉพาะถ้าคุณวางแผนเที่ยวชนบทหรือสถานที่ที่เข้าถึงยาก

ฤดูกาลที่เหมาะสมในการเที่ยว

ฮอกไกโดมี 4 ฤดู ซึ่งแต่ละฤดูจะมีกิจกรรมและเสน่ห์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณเดินทางไปเที่ยวฮอกไกโดในช่วงไหน

  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) ชมดอกซากุระและดอกไม้ป่าที่เบ่งบาน
  • ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) ช่วงเวลาที่อากาศเย็นสบาย สามารถเที่ยวชมทุ่งดอกไม้สวยงาม เช่น ทุ่งดอกทานตะวัน และทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินป่าและปีนเขา
  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) ชมใบไม้เปลี่ยนสีในป่าและสวนต่างๆ อากาศจะเริ่มเย็นลง เหมาะกับการถ่ายภาพธรรมชาติ
  • ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) สวรรค์สำหรับคนรักหิมะ มีกิจกรรมเล่นสกีและสโนว์บอร์ด รวมถึงงานเทศกาลน้ำแข็ง เช่น Sapporo Snow Festival

รวม 20 สถานที่เที่ยวฮอกไกโดยอดฮิต เที่ยวได้ด้วยตัวเอง

ได้เวลาปักหมุดเที่ยวฮอกไกโดกันแล้ว บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจ 20 สถานที่เที่ยวฮอกไกโดยอดฮิต ไม่ว่าจะเป็น แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ สถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ สวนพักผ่อนหย่อนใจ รวมไปถึงแหล่งชอปปิงและตลาด ที่รับรองว่าคุณสามารถเที่ยวได้เองอย่างสนุกและสะดวก รวมไว้ให้คุณแล้ว

แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ


1.อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง

เที่ยวฮอกไกโด อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง

ที่ตั้งและการเดินทาง
ตั้งอยู่ในใจกลางฮอกไกโด สามารถเดินทางโดยรถบัสจากซัปโปโรใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

ไฮไลท์
ภูมิทัศน์ภูเขาที่สวยงาม น้ำพุร้อนธรรมชาติ และพืชพรรณหลากหลาย

กิจกรรมที่น่าสนใจ
เดินป่า ปีนเขา ชมใบไม้เปลี่ยนสี แช่ออนเซ็น

ช่วงเวลาที่เหมาะสม
กลางเดือนมิถุนายน-กลางเดือนตุลาคม (ฤดูร้อน-ฤดูใบไม้ร่วง)

ค่าเข้าชม
ไม่มีค่าเข้าอุทยาน แต่อาจมีค่าใช้จ่ายสำหรับบางกิจกรรม

เวลาเปิด-ปิด
เปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่บางเส้นทางอาจปิดในฤดูหนาว

ข้อควรระวัง
เตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว

Map
https://maps.app.goo.gl/7Wv31fa4xge2TB2M6

ช่องทางการติดต่อ
https://www.japan-guide.com/e/e6775.html


2. ทะเลสาบโทยะ

ที่เที่ยวฮอกไกโด ทะเลสาบโทยะ

ที่ตั้งและการเดินทาง
ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะฮอกไกโด ห่างจากเมืองซัปโปโร (Sapporo) ประมาณ 100 กิโลเมตร สามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟจากซัปโปโร นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถไฟ JR ไปยังสถานี Toya Station (สาย JR Muroran) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที หลังจากนั้นใช้บริการรถบัสหรือแท็กซี่เพื่อเดินทางไปยังทะเลสาบ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที

ไฮไลท์
ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) ที่เที่ยวฮอกไกโดยอดฮิต ที่มีทัศนียภาพงดงาม ทะเลสาบแห่งนี้เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ มีรูปร่างคล้ายไข่ดาว และเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความสวยงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์ อากาศที่สดชื่น และกิจกรรมหลากหลายที่น่าสนใจดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วโลก

กิจกรรมที่น่าสนใจ
ดอกไม้ไฟยามค่ำคืน ที่จะจัดช่วงเดือนเมษายน จนถึง ปลายเดือนตุลาคม ในเวลา 20.45 น. ของทุก ๆ วัน, อุโมงค์เรืองแสงที่มีไฟกว่า 400,000 ดวง ส่องแสงตรงบริเวณทะเลสาบโทยะ ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนมีนาคม จัดแสดงทุกวันช่วงเวลา 18:00 น. – 22:00 น.

ช่วงเวลาที่เหมาะสม
เที่ยวได้ตลอดทั้งปี

ค่าเข้าชม
ทะเลสาบโทยะเป็นพื้นที่สาธารณะที่สามารถเข้าชมได้ฟรี ยกเว้น เรือชมทะเลสาบช่วงกลางวัน ผู้ใหญ่ 1420 เยน เด็ก 710 เยน, ราคาเรือชมดอกไม้ไฟช่วงกลางคืน ผู้ใหญ่ 1600 เยน เด็ก 800 เยน

เวลาเปิด-ปิด
ในส่วนของทะเลสาบ เปิดให้เข้าชมตลอดเวลา, สถานที่ต่าง ๆ มีเวลาเปิด-ปิดแตกต่างกันไป ควรตรวจสอบข้อมูลก่อนออกเดินทาง

ข้อควรระวัง
อากาศบนเกาะฮอกไกโดเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ควรเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นและกันแดดไปด้วย

Map
https://maps.app.goo.gl/URDVJTn1BN8TPDVz6

ช่องทางการติดต่อ
https://www.laketoya.com/en/leisure


3. น้ำตกกิงกะและน้ำตกริวเซ

ฮอกไกโดที่เที่ยว น้ำตกกิงกะและริวเซ

ที่ตั้งและการเดินทาง
ตั้งอยู่ในหุบเขาโซอุนเคียว (Sounkyo Gorge) ภายในอุทยานแห่งชาติไดเซทสึซัง จากสถานี JR Sapporo สามารถนั่งรถไฟไปยังสถานี Kamikawa ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นต่อรถบัสไปยังโซอุนเคียว ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หรือเช่ารถขับจากซัปโปโรไปยังน้ำตก ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

ไฮไลท์
ไปกันต่อกับที่เที่ยวฮอกไกโด ที่ต่อมา น้ำตกกิงกะ (Ginga Waterfall) และน้ำตกริวเซ (Ryusei Waterfall) ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไดเซะทสึซัง (Daisetsuzan National Park) บนเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูมิภาคนี้ โดยน้ำตกกิงกะมีลักษณะน้ำที่ไหลเป็นสายคล้ายน้ำเงิน (Ginga หมายถึง ทางช้างเผือก) ส่วนริวเซมีสายน้ำที่ไหลลงมาอย่างแรงดุจดาวตก (Ryusei หมายถึง ดาวตก)

กิจกรรมที่น่าสนใจ
จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นน้ำตกทั้งสองจากระยะไกลได้พร้อมกัน ให้คุณได้เห็นความต่างของทั้งสองน้ำตกอย่างชัดเจน น้ำตกทั้งสองเป็นจุดยอดนิยมสำหรับการถ่ายภาพ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวที่วิวทิวทัศน์จะสวยงามเป็นพิเศษ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม
ฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง (พฤษภาคม - ตุลาคม) เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมน้ำตก เนื่องจากอากาศจะอบอุ่นและสามารถมองเห็นสายน้ำที่สวยงามได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงเมื่อใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีส้มและเหลือง ฤดูหนาว (พฤศจิกายน - มีนาคม) น้ำตกอาจจะกลายเป็นน้ำแข็งในบางส่วน ซึ่งให้ความงดงามในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม

ค่าเข้าชม
ไม่มีค่าเข้าชม เนื่องจากน้ำตกทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ

เวลาเปิด-ปิด
เปิดตลอดทั้งวัน แต่แนะนำให้เยี่ยมชมในช่วงเวลากลางวัน เพื่อความปลอดภัยและการมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม

ข้อควรระวัง
บางจุดของเส้นทางเดินป่าอาจจะลื่นและมีความชัน โดยเฉพาะในฤดูฝนหรือฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุม ควรสวมรองเท้าที่เหมาะสมและระมัดระวังในการเดิน

Map
https://maps.app.goo.gl/8gg3y8bjtMKc6eme9

ช่องทางการติดต่อ
https://www.town.hokkaido-kamikawa.lg.jp/section/sangyoukeizai/i8u8uo0000000asm.html#


4. ภูเขาไฟโชวะชินซัง

เที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง ภูเขาไฟโชวะชินซัง

ที่ตั้งและการเดินทาง
ภูเขาไฟโชวะชินซังตั้งอยู่ในพื้นที่ของเมืองโทยะโกะ (Toyako) จังหวัดฮอกไกโด ใกล้กับทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) สามารถเดินทางโดยรถไฟ JR จากสถานีซัปโปโรไปยังสถานีโทยะ (Toya Station) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถบัสจากสถานีโทยะไปยังภูเขาไฟโชวะชินซังซึ่งใช้เวลาประมาณ 15–20 นาที

ไฮไลท์
หนึ่งในที่เที่ยวฮอกไกโดที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นภูเขาไฟที่เกิดใหม่ล่าสุดของญี่ปุ่นและมีประวัติที่น่าสนใจ โดยภูเขาไฟนี้เกิดขึ้นจากการปะทุของลาวาในช่วงปี ค.ศ. 1943-1945 ภูเขาไฟโชวะชินซังมีลักษณะพิเศษคือยอดเขายังมีควันไอน้ำลอยขึ้นมาให้เห็นในบางครั้ง และสามารถเห็นไอความร้อนพวยพุ่งขึ้นมาจากปากภูเขา ทำให้สัมผัสได้ถึงความมีชีวิตของธรรมชาติ

กิจกรรมที่น่าสนใจ
นั่งกระเช้าลอยฟ้า (Usuzan Ropeway) ที่จะพานักท่องเที่ยวขึ้นไปยังยอดเขาอุสุ ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่อยู่ใกล้เคียง สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟโชวะชินซังและทิวทัศน์รอบข้างได้ชัดเจน

ช่วงเวลาที่เหมาะสม
สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู

ค่าเข้าชม
การเข้าชมบริเวณภูเขาไฟโชวะชินซังไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าต้องการนั่งกระเช้าลอยฟ้า Usuzan Ropeway ค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณ 1,600 เยนสำหรับตั๋วไปกลับ

เวลาเปิด-ปิด
บริเวณรอบๆ ภูเขาไฟสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ตลอดเวลา, กระเช้าลอยฟ้า Usuzan Ropeway เปิดให้บริการตั้งแต่ 9:00 น. – 16:00 น. (เวลาอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)

ข้อควรระวัง
แม้ว่าภูเขาไฟจะไม่ปะทุ แต่ยังคงมีความร้อนอยู่ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัย

Map
https://maps.app.goo.gl/urZaHThcUW9G19yX9

ช่องทางการติดต่อ
กระเช้าลอยฟ้า (Usuzan Ropeway) +81-(0)142-75-2401


5. เมืองซัปโปโร

เที่ยวฮอกไกโด เมืองซัปโปโร

ที่ตั้งและการเดินทาง
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น เมืองนี้ถือเป็นศูนย์กลางสำคัญของภูมิภาคฮอกไกโด เดินทางโดยจากโตเกียว นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นที่เชื่อมต่อโตเกียวและฮอกไกโดได้ เส้นทางนี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถไฟ JR สู่ซัปโปโร

ไฮไลท์
เมืองหลวงของฮอกไกโดและเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีชื่อเสียงทั้งในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการเป็นจุดหมายปลายทางทางธรรมชาติ

กิจกรรมที่น่าสนใจ

  • เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์
  • ตลาดนิโจ (Nijo Market) ตลาดสดที่มีอาหารทะเลสดใหม่และอาหารท้องถิ่นมากมาย
  • พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum) เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของเบียร์ญี่ปุ่นและชิมเบียร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก

ช่วงเวลาที่เหมาะสม
สามารถมาเที่ยว เมืองซัปโปโร ได้ตลอดทั้งปี ซึ่งฤดูที่นักท่องเที่ยวมักนิยมมากที่สุดได้แก่

  • ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์): เป็นช่วงเทศกาลหิมะและกิจกรรมฤดูหนาวอย่างการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด
  • ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม): ชมดอกซากุระที่บานสะพรั่งในสวนสาธารณะ
  • ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม): อากาศอบอุ่น เหมาะกับการเที่ยวธรรมชาติและเดินเล่นในสวนสาธารณะ
  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน): เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายใบไม้กำลังเปลี่ยนสี

ค่าเข้าชม
สถานที่หลายแห่งในซัปโปโรเป็นสวนสาธารณะและจุดชมวิวที่เข้าชมฟรี แต่จะมีบางสถานที่ที่มีการเก็บค่าเข้าชม

เวลาเปิด-ปิด
สถานที่ส่วนใหญ่ในซัปโปโรเปิดตั้งแต่เวลา 9:00 น. ถึง 17:00 น.

ข้อควรระวัง
อากาศในซัปโปโรช่วงฤดูหนาวจะหนาวจัดและมีหิมะตกหนัก ควรเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นและรองเท้าที่เหมาะสมสำหรับการเดินบนหิมะ

Map
https://maps.app.goo.gl/X8z3dryku4Ng83Q76

ช่องทางการติดต่อ
https://www.sapporo.travel/th


6. หอนาฬิกาซัปโปโร

ที่เที่ยวฮอกไกโด หอนาฬิกาซัปโปโร

ที่ตั้งและการเดินทาง
ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองซัปโปโร บนเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เดินทางได้สะดวกด้วยการใช้บริการขนส่งสาธารณะ เนื่องจากอยู่ในใจกลางเมือง หอนาฬิกาซัปโปโรตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟซัปโปโร (Sapporo Station) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางหลักของเมือง เพียงประมาณ 10 นาทีในการเดิน นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางมาด้วยรถไฟใต้ดิน โดยให้นั่งสาย Namboku Line หรือ Toho Line มาลงที่สถานี Odori และเดินต่อเพียงประมาณ 5 นาที

ไฮไลท์
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ของเมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ด้วยความเก่าแก่และความสำคัญทางวัฒนธรรม หอนาฬิกาแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1878 และเป็นที่ตั้งของโรงเรียนการเกษตรในสมัยนั้น

  • เป็นหอนาฬิกาที่ยังคงทำงานได้อย่างสมบูรณ์ด้วยกลไกดั้งเดิมจากเมื่อกว่าร้อยปีก่อน
  • นิทรรศการภายในอาคารที่จะพาผู้เข้าชมย้อนกลับไปในช่วงประวัติศาสตร์ของซัปโปโร พร้อมการจัดแสดงวัตถุและเอกสารที่มีความสำคัญเกี่ยวกับเมืองนี้

กิจกรรมที่น่าสนใจ
เข้าชมนิทรรศการประวัติศาสตร์ ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาเมืองซัปโปโรและการเกษตรในฮอกไกโด ถ่ายภาพ กับหอนาฬิกาซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่หอนาฬิกาจะถูกปกคลุมด้วยหิมะ ทำให้เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์

ช่วงเวลาที่เหมาะสม

  • ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์): ช่วงเวลาที่หอนาฬิกาจะถูกปกคลุมด้วยหิมะ ให้บรรยากาศที่งดงามและโรแมนติก
  • ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน - พฤษภาคม): เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินเล่นรอบๆ หอนาฬิกาและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติ

ค่าเข้าชม
เด็กเข้าชมฟรี ผู้ใหญ่มีค่าเข้าชม 200 เยน

เวลาเปิด-ปิด
เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 8:45 – 17:10 น.

ข้อควรระวัง
หอนาฬิกามีขนาดเล็กและพื้นที่จำกัด การเข้าชมในช่วงเวลาท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมากอาจต้องรอคิว ในช่วงฤดูหนาว ทางเดินรอบๆ หอนาฬิกาอาจจะลื่นเพราะมีหิมะและน้ำแข็ง ควรระวังการเดินทางและสวมใส่รองเท้าที่เหมาะสม

Map
https://maps.app.goo.gl/zJakB8hCx2iSSFQ19

ช่องทางการติดต่อ
http://sapporoshi-tokeidai.jp/apanh/


7. หอคอยทีวีซัปโปโร

ฮอกไกโดที่เที่ยว หอคอยทีวีซัปโปโร

ที่ตั้งและการเดินทาง
ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น สามารถเดินทางได้โดย รถไฟฟ้าใต้ดิน: หอคอยทีวีซัปโปโรตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน "Odori Station" (สาย Namboku, Toho, Tozai) โดยออกทางออกหมายเลข 27 แล้วเดินประมาณ 5 นาที หรือ รถไฟ JR: หากเดินทางมาจากสถานี JR Sapporo ก็สามารถเดินผ่านทางเชื่อมใต้ดินไปยังสวนโอโดริ ซึ่งใช้เวลาเดินประมาณ 15-20 นาที

ไฮไลท์
Sapporo TV Tower แลนด์มาร์คที่โดดเด่นและจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาด หากคุณมาเยือนฮอกไกโด ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ควรอยู่ในรายการท่องเที่ยวของคุณอย่างแน่นอน เป็นหอคอยที่มีความสูงถึง 147.2 เมตร ตั้งอยู่ใกล้กับสวนโอโดริ (Odori Park) ซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่ที่ยาวถึง 1.5 กิโลเมตร หอคอยแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1957 และมีจุดเด่นที่ชั้นชมวิวที่อยู่ที่ความสูงประมาณ 90 เมตรจากพื้นดิน ทำให้คุณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองซัปโปโรได้อย่างสวยงาม รวมถึงวิวที่งดงามของภูเขาฮอกไกโดในวันที่อากาศดี

กิจกรรมที่น่าสนใจ
จุดชมวิวของ Sapporo TV Tower เป็นจุดที่เหมาะที่สุดในการชมวิวรอบเมืองซัปโปโร โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่เมืองถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ หรือช่วงเทศกาล Sapporo Snow Festival ที่มีการจัดแสดงประติมากรรมน้ำแข็งตามสวนโอโดริ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม

  • ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์): Sapporo TV Tower จะกลายเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการชมวิวเมืองซัปโปโรที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ นอกจากนี้ยังสามารถชมประติมากรรมน้ำแข็งจากบนหอคอยได้ในช่วงเทศกาล Sapporo Snow Festival
  • ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม): ช่วงที่ดอกซากุระบาน บรรยากาศรอบๆ สวนโอโดริจะสวยงามและเหมาะสำหรับการเดินเล่นพร้อมกับการชมวิวจากหอคอย

ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 1,000 เยน / เด็ก (อายุ 6-12 ปี) 500 เยน

เวลาเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 9.00 – 22.00 น. ควรมาเข้าชมก่อนเวลา 21.50 น.

ข้อควรระวัง
บริเวณจุดชมวิวอาจมีนักท่องเที่ยวมาก ควรระมัดระวังและให้เวลาผู้อื่นในการถ่ายรูป ในช่วงเทศกาลใหญ่ เช่น เทศกาลหิมะ จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ควรวางแผนการเดินทางล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัด

Map
https://maps.app.goo.gl/pHnx4qbhDWTEg6g56

ช่องทางการติดต่อ
https://www.tv-tower.co.jp/en


8. เมืองโอตารุ

เที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง เมืองโอตารุ

ที่ตั้งและการเดินทาง
ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น โดยห่างจากเมืองซัปโปโรประมาณ 30 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปโอตารุได้โดยรถไฟ ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุด นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถไฟจากสถานี JR Sapporo มุ่งหน้าสู่สถานี JR Otaru ใช้เวลาเพียงประมาณ 30-40 นาที โดยเส้นทางนี้จะผ่านแนวชายฝั่งทะเลที่สวยงาม ทำให้การเดินทางด้วยรถไฟมีความเพลิดเพลินเป็นพิเศษ ค่าโดยสารรถไฟอยู่ที่ประมาณ 640 เยนต่อเที่ยว

ไฮไลท์
โอตารุเป็นเมืองท่าที่มีชื่อเสียงในฮอกไกโด โดดเด่นด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงามของสถาปัตยกรรมยุคเรอเนสซองซ์

กิจกรรมที่น่าสนใจ
ลิ้มรสอาหารทะเลสดใหม่ที่ตลาดโอตารุซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านคุณภาพของอาหาร เรียนรู้กระบวนการผลิตสาเกที่โรงงานต่างๆ และทดลองชิม

ช่วงเวลาที่เหมาะสม
เมืองโอตารุสามารถเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) และฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) จะเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่สวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และการประดับไฟที่สวยงามในฤดูหนาว

ค่าเข้าชม
โดยทั่วไป การเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโอตารุจะไม่มีค่าเข้าชมที่สูง โดยสถานที่สำคัญส่วนใหญ่สามารถเข้าชมได้ฟรี แต่สำหรับกิจกรรมหรือสถานที่เฉพาะบางแห่ง อาจมีค่าเข้าชมหรือค่าบริการ เช่น โรงงานผลิตสาเก

เวลาเปิด-ปิด
เวลาทำการของสถานที่ท่องเที่ยวในโอตารุจะแตกต่างกันไป

  • ตลาดโอตารุ: เปิดทำการตั้งแต่ 9:00 น. – 17:00 น.
  • โรงงานผลิตสาเก: ส่วนใหญ่เปิดทำการตั้งแต่ 10:00 น. – 17:00 น.

ข้อควรระวัง
ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง เนื่องจากอาจมีอุณหภูมิที่ต่ำในฤดูหนาว

Map
https://maps.app.goo.gl/XvL1bSZLcXQwCJZk9

ช่องทางการติดต่อ
https://www.japan.travel/en/spot/2161


9. คลองโอตารุ

เที่ยวฮอกไกโด คลองโอตารุ

ที่ตั้งและการเดินทาง
ตั้งอยู่ในเมืองโอตารุ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น สามารถนั่งรถไฟจากซัปโปโร (Sapporo) มายังโอตารุ โดยใช้บริการของรถไฟ JR (Japan Railways) สายHakodate Line ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที เมื่อถึงสถานีโอตารุ (Otaru Station) คุณสามารถเดินไปยังคลองโอตารุได้ในเวลาเพียง 10-15 นาที

ไฮไลท์
คลองโอตารุมีบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยอาคารเก่าที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี ล้อมรอบด้วยน้ำใสสะอาด ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นไปตามริมคลอง โดยเฉพาะในช่วงเย็นที่ไฟประดับในอาคารสะท้อนกับน้ำสร้างภาพที่น่าประทับใจ นอกจากนี้ยังมีเรือท่องเที่ยวที่สามารถพาคุณไปสำรวจคลองได้ใกล้ชิด

กิจกรรมที่น่าสนใจ

  • ล่องเรือในคลอง: สามารถเช่าเรือหรือเข้าร่วมทัวร์เพื่อสัมผัสบรรยากาศของคลองอย่างใกล้ชิด
  • เดินชมเสน่ห์ของเมือง: สัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่และตลาดสินค้าท้องถิ่นรอบๆ คลอง

ช่วงเวลาที่เหมาะสม
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคลองโอตารุ คือ ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-มิถุนายน) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) ที่อากาศเย็นสบายและธรรมชาติสวยงาม นอกจากนี้ ในช่วงฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) คลองโอตารุก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง โดยมีหิมะปกคลุมและไฟประดับ

ค่าเข้าชม
การเข้าชมคลองโอตารุไม่มีค่าใช้จ่าย โดยคุณสามารถเดินชมริมคลองได้ฟรี แต่การล่องเรือจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

เวลาเปิด-ปิด
คลองโอตารุเปิดให้เข้าชมตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม เวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชมคือระหว่างวันเพื่อให้สามารถชมวิวและกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

ข้อควรระวัง
ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง เนื่องจากอากาศในฮอกไกโดอาจเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว

Map
https://maps.app.goo.gl/3fEMdj46BSQkqYBH7

ช่องทางการติดต่อ
https://www.japan.travel/en/spot/2161/


10. สวนสาธารณะโอโดริ

ที่เที่ยวฮอกไกโด สวนสาธารณะโอโดริ

ที่ตั้งและการเดินทาง
ตั้งอยู่ระหว่างถนนซูชิ (Sushi Road) และถนนโอโดริ (Odori Street) โดยมีทางเข้าที่ชัดเจนจากหลายจุดในเมือง สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Namboku (Green Line) หรือสาย Tozai (Light Blue Line) โดยลงที่สถานี Odori Station ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้กับสวนมากที่สุด ออกจากสถานีแล้วเดินเพียงไม่กี่นาทีถึงสวน

ไฮไลท์
สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) เป็นสวนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร บนเกาะฮอกไกโด ซึ่งเป็นทั้งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและจุดชมวิวสวยงาม โดยสวนนี้ทอดยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร ตั้งแต่ทิศตะวันออกจรดทิศตะวันตก แบ่งเมืองซัปโปโรออกเป็นสองส่วน

กิจกรรมที่น่าสนใจ
สวนโอโดริมีความหลากหลายของกิจกรรมตลอดทั้งปี ฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาที่มีชื่อเสียงที่สุดของสวน ด้วยเทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่ที่เต็มไปด้วยงานแสดงประติมากรรมน้ำแข็ง และหิมะที่ตระการตา นอกจากนี้ในฤดูร้อนจะมีงานเทศกาลเบียร์ซัปโปโร (Sapporo Summer Beer Garden) ที่จัดขึ้นในสวน ผู้เข้าชมสามารถลิ้มรสเบียร์สดและอาหารท้องถิ่นใต้ร่มไม้และบรรยากาศสบาย ๆ นอกจากนี้ สวนโอโดริยังเป็นที่ตั้งของ "ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์" (Sapporo TV Tower) ที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวพาโนรามาของเมืองซัปโปโรและสวนได้จากบนหอคอย อีกทั้งยังมีจุดถ่ายรูปและการเดินเล่นในสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้หลากสีสันในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม
ฤดูหนาวและฤดูร้อนเป็นช่วงที่ได้รับความนิยมที่สุดในการมาเยี่ยมชมสวนโอโดริ ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) มีเทศกาลหิมะซัปโปโรซึ่งเป็นช่วงที่สวนเต็มไปด้วยน้ำแข็งและประติมากรรมหิมะ ฤดูร้อน (กรกฎาคม-สิงหาคม) ก็เป็นช่วงที่สวนสดชื่นและมีชีวิตชีวาด้วยดอกไม้และเทศกาลเบียร์ที่น่าตื่นเต้น อย่างไรก็ตาม ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาเดินเล่นและชมธรรมชาติด้วยเช่นกัน

ค่าเข้าชม
ไม่เก็บค่าเข้าชม

เวลาเปิด-ปิด
เปิดให้เข้าชมได้ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นสวนสาธารณะกลางแจ้ง

ข้อควรระวัง
ในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิจะต่ำมาก และมีหิมะตกหนัก ผู้เข้าชมควรเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวที่เหมาะสม

Map
https://maps.app.goo.gl/1roQxaYTBdAXdzjR9

ช่องทางการติดต่อ
https://www.japan.travel/th/spot/1927/


11. สวนชิคิไซโนะโอกะ

ฮอกไกโดที่เที่ยว สวนชิคิไซโนะโอกะ

ที่ตั้งและการเดินทาง
นั่งรถไฟจากสถานี JR Asahikawa มาลงที่สถานี JR Biei จากนั้นใช้บริการรถแท็กซี่หรือเช่ารถยนต์เพื่อขับต่อมายังสวน ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีจากสถานี JR Biei

ไฮไลท์
สวนชิคิไซโนะโอกะมีทุ่งดอกไม้หลากสีสันตลอดทั้งปี ดอกไม้ยอดนิยม เช่น ดอกลาเวนเดอร์ ดอกทานตะวัน ดอกคอสมอส และดอกป๊อปปี้ ทิวทัศน์ของดอกไม้จะเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล ทำให้สวนมีความสวยงามในรูปแบบที่แตกต่างกันทุกครั้งที่มาเยือน นอกจากนี้ยังสามารถชมวิวของภูเขาโทคาจิดาเกะ (Tokachidake) และเทือกเขาโทคาจิที่สวยงามในระยะไกล ทำให้บรรยากาศสดชื่นและผ่อนคลาย

กิจกรรมที่น่าสนใจ
เดินชมสวน ถ่ายภาพสวยๆ หรือพักผ่อนตามจุดต่างๆ ของสวน เยี่ยมชมฟาร์มอัลปาก้า

ช่วงเวลาที่เหมาะสม
สวนชิคิไซโนะโอกะเปิดให้เข้าชมได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน-สิงหาคม) ที่ดอกไม้บานสะพรั่งเต็มที่ โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกลาเวนเดอร์และดอกทานตะวันบานเต็มที่

ค่าเข้าชม
500 เยน (สำหรับผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป), 300 เยน (สำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี)

เวลาเปิด-ปิด
ทุกวัน 9.00 - 18.00 น.

ข้อควรระวัง
สวนอยู่ในพื้นที่เปิดโล่ง ควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสภาพอากาศที่แปรปรวน เช่น หมวก ร่ม หรือเสื้อกันหนาวในกรณีที่อากาศเย็น หากเช่ารถขับ ควรขับด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากเส้นทางมีหลายจุดที่ลาดชัน

Map
https://maps.app.goo.gl/MdWTX9DQgEoBbTAN7

ช่องทางการติดต่อ
http://www.shikisainooka.jp


12. สวนสัตว์อาซาฮิยามะ

เที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง สวนสัตว์อาซาฮิยามะ

สวนสัตว์อาซาฮิยามะเป็นหนึ่งในที่เที่ยวฮอกไกโดที่น่าสนใจอย่างมาก ด้วยการนำเสนอประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับสัตว์ต่าง ๆ ในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติและสวยงาม

ที่ตั้งและการเดินทาง
สวนสัตว์อาซาฮิยามะตั้งอยู่ที่เมืองอาซาฮิกาว่า จังหวัดฮอกไกโด การเดินทางสามารถใช้รถยนต์หรือรถบัสจากเมืองซัปโปโร โดยใช้เวลาประมาณ 2.5 ชั่วโมง หากเดินทางโดยรถไฟ ให้ใช้รถไฟสาย JR ไปยังสถานีอาซาฮิกาว่า จากนั้นต่อรถบัสไปยังสวนสัตว์

ไฮไลท์
มีการจัดแสดงสัตว์น้ำที่น่าตื่นเต้น เช่น เพนกวินที่สามารถว่ายน้ำได้ในสระน้ำที่สร้างขึ้นอย่างพิเศษ มีทางเดินชมวิวที่ทำให้คุณสามารถมองเห็นสัตว์ต่างๆ ได้จากมุมมองที่หลากหลาย

กิจกรรมที่น่าสนใจ
นิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ในสวนสัตว์

ช่วงเวลาที่เหมาะสม -

ค่าเข้าชม

  • ผู้ใหญ่: 1,000 เยน
  • เด็ก (อายุต่ำกว่า 15 ปี): 500 เยน
  • เด็กเล็ก (อายุต่ำกว่า 3 ปี): ฟรี

เวลาเปิด-ปิด

  • ช่วงฤดูร้อน (เมษายน - ตุลาคม): 9:30 - 17:15
  • ช่วงฤดูหนาว (พฤศจิกายน - มีนาคม): 9:30 - 16:30

ข้อควรระวัง
ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนการเดินทาง เนื่องจากในฤดูหนาวอาจมีหิมะตก

Map
https://maps.app.goo.gl/djErMC7ShHfzh6568

ช่องทางการติดต่อ
https://www.japan.travel/th/spot/1891/


13. ตลาดปลานิโจ

เที่ยวฮอกไกโด ตลาดปลานิโจ

ที่ตั้งและการเดินทาง
ตลาดปลานิโจตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร (Sapporo) จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น โดยสามารถเดินทางได้สะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะจากสถานีรถไฟซัปโปโร (Sapporo Station) ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที หากใช้รถบัสหรือเดินจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที

ไฮไลท์
ตลาดปลานิโจมีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารทะเลสดใหม่ โดยเฉพาะหอยนางรมและปูที่ขึ้นชื่อ นอกจากนี้ยังมีร้านขายของฝากและร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูเด็ดจากวัตถุดิบสดใหม่ที่มีให้เลือกหลากหลาย

กิจกรรมที่น่าสนใจ
ชิมอาหารทะเลสด หอยนางรม ปู ปลาสด ๆ ที่มีให้เลือกมากมาย สัมผัสบรรยากาศการค้าขาย เห็นการทำงานของพ่อค้าแม่ค้าท้องถิ่นที่คัดสรรวัตถุดิบสดใหม่ให้แก่ลูกค้า

ช่วงเวลาที่เหมาะสม
ตลาดปลานิโจเปิดตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเยี่ยมชม คือ ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม) และ ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน) เนื่องจากมีวัตถุดิบสดใหม่มากมายในช่วงนี้

ค่าเข้าชม
ไม่มีค่าเข้าชมในการเข้าตลาดปลานิโจ แต่ค่าใช้จ่ายในการชิมอาหารและซื้อของฝากจะแตกต่างกันไปตามร้านค้า

เวลาเปิด-ปิด
7.00 - 18.00 น. (บางร้านอาจปิดเร็วกว่านี้)

ข้อควรระวัง
ควรเช็กเวลาเปิด-ปิดของแต่ละร้าน เพราะเวลาปิดอาจแตกต่างกันไป

Map
https://maps.app.goo.gl/cimCKaGxt6dpumMa

ช่องทางการติดต่อ
https://www.sapporo.travel/th/spot/feature/sapporo-nijo-market-curb-market/


14. ถนนทานุกิโคจิ

ที่เที่ยวฮอกไกโด ถนนทานุกิโคจิ

ที่ตั้งและการเดินทาง
ตั้งอยู่ในเมืองซัปโปโร (Sapporo) เป็นถนนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศและกิจกรรมที่น่าสนใจ มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และสถานบันเทิงที่หลากหลาย สามารถเดินทางไปยังถนนทานุกิโคจิได้ง่ายโดยใช้รถไฟใต้ดิน (Subway) สาย Namboku หรือ Tozai และลงที่สถานี Susukino

ไฮไลท์
ถนนทานุกิโคจิเป็นที่ตั้งของร้านค้าและตลาดที่จำหน่ายของที่ระลึก อาหารท้องถิ่น และสินค้าฮอกไกโดมากมาย

กิจกรรมที่น่าสนใจ
ชิมอาหารท้องถิ่นจากร้านต่าง ๆ สนุกสนานไปกับการเดินเล่นและสำรวจถนนที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา

ช่วงเวลาที่เหมาะสม
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชมถนนทานุกิโคจิคือฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-มิถุนายน) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) เมื่ออากาศเย็นสบายและมีการจัดกิจกรรมเทศกาลต่าง ๆ

ค่าเข้าชม -

เวลาเปิด-ปิด
ถนนทานุกิโคจิเปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่ร้านค้าจะมีเวลาทำการแตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่จะเปิดตั้งแต่ประมาณ 10:00 - 22:00 น.

ข้อควรระวัง
ควรระมัดระวังทรัพย์สินส่วนตัวในขณะที่เดินอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่น

Map
https://maps.app.goo.gl/iFQn369ieTFyi3Wa7

ช่องทางการติดต่อ
https://www.sapporo.travel/th/spot/feature/sapporo-nijo-market-curb-market/


15. มิตซุยเอาท์เล็ต ซัปโปโร คิตาฮิโรชิมะ

ฮอกไกโดที่เที่ยว มิตซุยเอาท์เล็ต ซัปโปโร คิตาฮิโรชิมะ

ที่ตั้งและการเดินทาง
ตั้งอยู่ที่เมืองคิตาฮิโรชิมะ ในจังหวัดฮอกไกโด การเดินทางไปยังมิตซุยเอาท์เล็ตสามารถทำได้สะดวกโดยใช้รถไฟจากซัปโปโร สถานีรถไฟ JR Kitahiroshima อยู่ใกล้เคียง และมีบริการรถรับส่งจากสถานีรถไฟไปยังเอาท์เล็ต สามารถใช้บริการรถบัสจากสนามบินชิโตเซะหรือรถยนต์ส่วนตัวได้เช่นกัน

ไฮไลท์
ร้านค้าแบรนด์ดัง ทั้งแบรนด์ญี่ปุ่นและแบรนด์นานาชาติ รวมถึงสินค้าแฟชั่น, อุปกรณ์กีฬา, และของใช้ในบ้าน

กิจกรรมที่น่าสนใจ
มีร้านอาหารและคาเฟ่มากมายให้เลือกชิมอาหารท้องถิ่นและขนมหวาน

ช่วงเวลาที่เหมาะสม
ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) เพราะอากาศดีและมีโปรโมชั่นพิเศษในช่วงนี้

ค่าเข้าชม -

เวลาเปิด-ปิด
10:00-20:00 น. / Food court 10:30-21:00 น. Last order 20:30 น.

ข้อควรระวัง-

Map
https://maps.app.goo.gl/XsP1GRYEsg2seTrL9

ช่องทางการติดต่อ
https://mitsui-shopping-park.com/lalaport/msp-info/th/facilities/mitsui-outlet-park-sapporo-kita-hiroshima/


สถานที่ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์


16. พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร

เที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร

ที่ตั้งและการเดินทาง
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโรตั้งอยู่ที่ 9-1, โมอิวะ โคจิ, เขตชูโอ, ซัปโปโร, จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น การเดินทางสามารถทำได้โดยการนั่งรถไฟใต้ดินไปยังสถานี "ซัปโปโร" จากนั้นเปลี่ยนเป็นรถบัสสาย 4 หรือ 11 ไปยังพิพิธภัณฑ์ ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีจากสถานีหลักของซัปโปโร

ไฮไลท์
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโรเป็นสถานที่ที่เปิดให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และกระบวนการผลิตเบียร์ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น โดยเฉพาะเบียร์ซัปโปโรที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตเบียร์ รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมั

กิจกรรมที่น่าสนใจ
ผู้เข้าชมสามารถชิมเบียร์ซัปโปโรหลากหลายชนิดในบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงมีพื้นที่นิทรรศการที่จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเบียร์ซัปโปโร รวมถึงการสัมผัสกับการผลิตในอดีต

ช่วงเวลาที่เหมาะสม
เวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโรคือช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน (มีนาคม - สิงหาคม) เนื่องจากอากาศจะอบอุ่นและสามารถเดินทางไปได้สะดวก

ค่าเข้าชม
เข้าชมฟรี

เวลาเปิด-ปิด
พิพิธภัณฑ์เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00 - 18:00 น. (เวลาปิดรับผู้เข้าชมประมาณ 30 นาที ก่อนเวลาปิด)

ข้อควรระวัง-

Map
https://maps.app.goo.gl/GHRvS5w1UvknuFri6

ช่องทางการติดต่อ
https://www.sapporobeer.jp/english/brewery/s_museum/


17. หมู่บ้านชาวไอนุ

เที่ยวฮอกไกโด หมู่บ้านชาวไอนุ

ที่ตั้งและการเดินทาง
หมู่บ้านชาวไอนุ ตั้งอยู่ที่เมืองนิเซโกะ (Niseko) จังหวัดฮอกไกโด การเดินทางสามารถทำได้โดยรถยนต์หรือรถบัสจากสนามบินชินชิโตเสะ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

ไฮไลท์
เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาวไอนุ ผ่านการแสดงและกิจกรรมต่าง ๆ ชมการสร้างงานศิลปะและผลิตภัณฑ์หัตถกรรมของชาวไอนุ ลิ้มลองอาหารที่ทำจากวัตถุดิบท้องถิ่นที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวไอนุ

กิจกรรมที่น่าสนใจ
มีการแสดงดนตรีและการเต้นรำของชาวไอนุ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม
ช่วงฤดูร้อน (มิถุนายนถึงกันยายน) เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเยี่ยมชม

ค่าเข้าชม -

เวลาเปิด-ปิด -

ข้อควรระวัง -

Map
https://maps.app.goo.gl/RV3qeogf6f25HoxV7

ช่องทางการติดต่อ
https://www.city.sapporo.jp/shimin/pirka-kotan/


18. พิพิธภัณฑ์น้ำแข็งคามิคาวะ

ที่เที่ยวฮอกไกโด พิพิธภัณฑ์น้ำแข็งคามิคาวะ

ที่ตั้งและการเดินทาง
ตั้งอยู่ในเมืองคามิคาวะ จังหวัดฮอกไกโด สามารถเดินทางได้โดยการขับรถจากเมืองซัปโปโรประมาณ 2 ชั่วโมง หรือใช้บริการรถบัสจากสถานีซัปโปโรไปยังเมืองคามิคาวะ

ไฮไลท์
พิพิธภัณฑ์มีห้องแสดงน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากน้ำแข็งที่เก็บรักษาจากแม่น้ำทามุรุซา ซึ่งจะทำให้คุณได้สัมผัสกับความเย็นของน้ำแข็งอย่างใกล้ชิด

กิจกรรมที่น่าสนใจ
สัมผัสน้ำแข็งในห้องแสดงและถ่ายภาพกับผลงานศิลปะน้ำแข็ง

ช่วงเวลาที่เหมาะสม
ช่วงฤดูหนาว (ธันวาคม-มีนาคม) เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ เนื่องจากน้ำแข็งจะอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด

ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 1,200 เยน, นักเรียน 800 yen

เวลาเปิด-ปิด
9:00-17:00 น.

ข้อควรระวัง -

Map
https://maps.app.goo.gl/eiotgfqwMUuR5y7B

ช่องทางการติดต่อ
https://www.city.sapporo.jp/shimin/pirka-kotan


แหล่งท่องเที่ยวในฤดูหนาว

19. เทศกาลหิมะซัปโปโร

ฮอกไกโดที่เที่ยว เทศกาลหิมะซัปโปโร

ที่ตั้งและการเดินทาง
ตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น โดยจะจัดขึ้นที่สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความสวยงามและสะดวกในการเดินทาง โดยสามารถเดินทางจากสนามบินชิโตเซะ (New Chitose Airport) ไปยังสถานีซัปโปโร (Sapporo Station) โดยรถไฟ JR โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที และจากสถานีซัปโปโรสามารถเดินต่อไปยังสวนสาธารณะโอโดริได้ในระยะทางประมาณ 10 นาที

ไฮไลท์
เทศกาลหิมะที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการแสดงสลักหิมะและน้ำแข็งที่งดงาม รวมถึงรูปปั้นขนาดใหญ่ที่ทำจากหิมะจากทั่วทุกมุมโลก

กิจกรรมที่น่าสนใจ
การสร้างปราสาทหิมะ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม
เทศกาลหิมะซัปโปโรจะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยมักเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ถึง 12 กุมภาพันธ์ของทุกปี

ค่าเข้าชม
ชมฟรี

เวลาเปิด-ปิด
09:00 น. - 22:00 น. (เวลาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพอากาศ)

ข้อควรระวัง-

Map
https://maps.app.goo.gl/TjA5ZCLqyzW6gycXA

ช่องทางการติดต่อ
https://www.snowfes.com/c


20. ลานสกีนิเซโกะ

เที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง ลานสกีนิเซโกะ

ที่ตั้งและการเดินทาง
ลานสกีนิเซโกะ (Niseko Ski Resort) ตั้งอยู่ในเมืองนิเซโกะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่สกีที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก สามารถเดินทางไปยังนิเซโกะได้โดยรถไฟจากสนามบินชิโตเสะ (New Chitose Airport) ไปยังสถานีนิเซโกะ โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการรถบัสจากสนามบินไปยังรีสอร์ทต่าง ๆ ในพื้นที่นิเซโกะได้อีกด้วย

ไฮไลท์
ลานสกีนิเซโกะ เป็นที่รู้จักในเรื่องของหิมะที่มีคุณภาพสูง เนื้อหิมะละเอียดและนุ่ม ทำให้เหมาะสำหรับการเล่นสกี อีกทั้งยังมีจุดเด่นทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาฟูจิ ซึ่งทำให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

กิจกรรมที่น่าสนใจ
เส้นทางสำหรับเล่นสกีและสโนว์บอร์ดที่หลากหลาย ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นถึงระดับมืออาชีพ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม
ฤดูหนาว (เดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม) เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม เนื่องจากมีหิมะตกหนาแน่นและอุณหภูมิที่เย็นสบาย

ค่าเข้าชม -

เวลาเปิด-ปิด
08:30 น. - 17:00 น.

ข้อควรระวัง
ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง เนื่องจากอาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในฤดูหนาว

Map
https://maps.app.goo.gl/6eLELPDLCpz5gXMV6

ช่องทางการติดต่อ -

ทั้งหมดนี้คือ ที่เที่ยวฮอกไกโด ทั้ง 20 แห่ง ให้คุณได้เลือกวางแผน เที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง ครบทั้งที่เที่ยวแบบธรรมชาติ ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งชอปปิง ชอบแบบไหน เลือกได้ตามอัธยาศัยเลย และเพิ่มความอุ่นใจให้กับทริปเที่ยวฮอกไกโด ด้วยประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ ที่กรุงไทยอยากจะแนะนำให้มีไว้ก่อนเดินทาง

  • ประกันภัยการเดินทาง สมาร์ท ทราเวลเลอร์ พลัส เดินทางสบายใจ กับความคุ้มครองที่ครอบคลุมถึงทรัพย์สินและเอกสารสำคัญระหว่างการเดินทาง จากการปล้นทรัพย์ คุ้มครองรอบด้านอย่างสบายใจ จ่ายได้ตามไลฟ์สไตล์ เลือกได้ตามจำนวนวันเดินทาง เบี้ยประกันเริ่มต้น 190 บาทต่อทริป
  • ประกันภัยการเดินทาง Enjoy Travel คุ้มครองความล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง สูงสุด 15,000 บาท คุ้มครองการเดินทางล่าช้าจากการ เปลี่ยนแปลงเส้นทางการบิน สูงสุด 8,000 บาท คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศ สูงสุด 3,000,000 บาท ต่อทริป ยื่นวีซ่าไม่ผ่าน คืนเงิน 100%

ทีนี้เราก็สามารถเที่ยวฮอกไกโดได้ด้วยตัวเองอย่างสบายใจ และจะเป็นทริปที่น่าจดจำและประทับใจ พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้อีกด้วย โดยเฉพาะเมื่อเรามีประกันการเดินทางของกรุงไทยที่จะช่วยให้คุณเที่ยวฮอกไกโดได้อย่างอุ่นใจและสนุกยิ่งกว่าเดิมแน่นอน

20 สถานที่เที่ยวฮอกไกโดยอดฮิต เที่ยวได้ด้วยตัวเอง | ธนาคารกรุงไทย เที่ยวฮอกไกโดด้วยตัวเอง ไม่ยาก! มาดู 20 สถานที่เที่ยวฮอกไกโดยอดฮิต ทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม พร้อมเคล็ดลับการเดินทางแบบประหยัด