เที่ยวยุโรป 20 ประเทศ ทริปสุดประทับใจที่ห้ามพลาด

สักครั้งในชีวิตขอมีทริปไปยุโรป! การเดินทางไปเยือนประเทศต่าง ๆ ในทวีปยุโรปถือเป็นเส้นทางแห่งความฝันของหลาย ๆ คน ด้วยความงดงามของธรรมชาติ สถาปัตยกรรมที่ผสานเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมจนเป็นเสน่ห์ที่ขอไปสัมผัสให้ได้ด้วยตัวเองสักครั้ง โดยการเดินทางไปเที่ยวยุโรปนั้นสามารถใช้วีซ่าเชงเก้น ใบอนุญาตเข้าประเทศระยะสั้นหรือชั่วคราว สำหรับผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวหลาย ๆ ประเทศในทริปเดียวกันได้ ซึ่งการขอวีซ่าเชงเก้นต้องมี ประกันการเดินทาง ในการยื่นขอวีซ่าด้วย

ยุโรปเที่ยวได้ทุกฤดูกาล

ฤดูกาลในยุโรปมี 4 ฤดูกาลหลัก แต่ละฤดูมีจุดเด่นเหมาะให้เดินทางไปท่องเที่ยว ดังนี้

• ฤดูใบไม้ผลิ (ปลายเดือนมีนาคม – กลางเดือนกรกฎาคม) เป็นช่วงเวลาที่อากาศเย็นสบาย ดอกไม้เริ่มผลิบานเต็มที่ เหมาะกับการเดินชมสวนดอกไม้ เที่ยวเมืองเก่า และเดินชมธรรมชาติ
• ฤดูร้อน (กลางเดือนกรกฎาคม – กลางเดือนกันยายน) เป็นช่วงเวลาที่อากาศอบอุ่นถึงร้อน วันยาวขึ้น ทำให้มีเวลาท่องเที่ยวมากขึ้น เหมาะกับการไปเที่ยวทะเล เล่นกีฬาทางน้ำ หรือเดินป่า
• ฤดูใบไม้ร่วง (ปลายเดือนกันยายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน) เป็นช่วงเวลาที่อากาศเย็นสบาย แต่ไม่หนาวจัด ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีส้ม แดง เหลือง  เหมาะกับการเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และชมความงดงาม
• ฤดูหนาว (ต้นเดือนธันวาคม – ต้นเดือนมีนาคม) เป็นช่วงเวลาที่หิมะตกในหลายพื้นที่ อากาศหนาวเย็น เหมาะกับการเล่นสกี สโนว์บอร์ด หรือท่องเที่ยวในเทศกาลคริสมาสต์ที่มีการประดับประดาไฟอย่างงดงาม

รวม 20 สถานที่ท่องเที่ยวยุโรปน่าไป

1. ปารีส, ฝรั่งเศส

ด้วยบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติกของสถาปัตยกรรมอันงดงาม ทำให้ปารีสกลายเป็นเมืองแห่งความรัก ทั้งยังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมและศิลปะ เที่ยวยุโรปครั้งนี้ที่ปารีสมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ตั้งแต่เดินเล่นรอบ ๆ หอไอเฟล ชมผลงานศิลปะระดับโลกที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ เข้าชมโบสถ์น็อทร์-ดาม และพลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองหลวงของแฟชั่นและขนมหวาน ด้วยการแวะพักจิบคาเฟ่สวย ๆ ก่อนจะปิดท้ายวันด้วยล่องเรือแม่น้ำแซนชมวิวปารีสยามค่ำคืน

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: หอไอเฟล, พิพิธภัณฑ์ลูฟร์, โบสถ์น็อทร์-ดาม
• กิจกรรม: ล่องเรือแม่น้ำแซน, วัฒนธรรมคาเฟ่
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

2.โรม, อิตาลี

หากคุณเป็นสายประวัติศาสตร์และชอบเสพวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง เมืองโรม ประเทศอิตาลีคือจุดหมายที่ดีของสถานที่ท่องเที่ยวยุโรป เพราะโรมนับเป็นเมืองเก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย อาทิ โคลอสเซียม สนามกีฬายักษ์ใหญ่จากยุคโรมันให้ได้สำรวจ ทั้งยังเป็นที่ตั้งของเมืองวาติกัน ศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก มีวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่อลังการ มาถึงโรมแล้วอย่าลืมไปโยนเหรียญที่น้ำพุเทรวี และชิมอาหารอิตาเลียนรสชาติออริจินัลให้ได้

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: โคลอสเซียม, เมืองวาติกัน, น้ำพุเทรวี
• กิจกรรม: สำรวจซากปรักหักพังโบราณ, อาหารอิตาเลียน
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

3. อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์

อีกหนึ่งเมืองที่มีเสน่ห์เหมาะกับการมาท่องเที่ยวยุโรป คือ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอแลนด์ มีจุดเด่นคลองที่งดงามกว่า 165 สายที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เราจึงสามารถล่องเรือชมบ้านเรือนสไตล์ดัตช์ที่ตั้งเรียงรายริมน้ำ หรือปั่นจักยานเลียบคลองก็ได้ฟีลสุด ๆ นอกจากนี้อัมสเตอร์ดัมยังเป็นศูนย์กลางทางศิลปะ มีพิพิธภัณฑ์สำคัญอย่างพิพิธภัฑณ์แวนโก๊ะ ที่รวบรวมผลงานของศิลปินชื่อดังระดับโลกไว้ นอกจากนี้ยังมีบ้านแอนน์ แฟรงค์ ให้เราได้เยี่ยมชมและศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: บ้านแอนน์ แฟรงค์, พิพิธภัณฑ์วาน โก๊ะ, ล่องเรือคลอง
• กิจกรรม: เที่ยวด้วยจักรยาน, ชมทิวลิปในฤดูใบไม้ผลิ
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

4. บาร์เซโลนา, สเปน

ชวนมาท่องเที่ยวยุโรปที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน เมืองที่รวมศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความงดงามของธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของอันตอนี เกาดี สถาปนิกที่มีชื่อเสียงระดับโลกกับโบสถ์ซากราดา ฟามิเลียอันสวยงาม หรือปาร์ก กูเอล สวนสาธารณะสีสันสดใสที่ตกแต่งด้วยงานโมเสก กิจกรรมที่น่าสนใจคือการเดินเล่นย่านกอธิคที่เต็มไปด้วยซอยเล็ก ๆ และอาคารสถาปัตยกรรมแบบโกธิค หรือจะพักผ่อนริมชายหาดก็เพลิดเพลิน เพราะบาร์เซโลนาตั้งอยู่ติดกับชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนั่นเอง

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: ซากราดา ฟามิเลีย, ปาร์ก กูเอล, ย่านกอธิค
• กิจกรรม: ทัวร์ทาปาส, การพักผ่อนริมชายหาด
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

5. เวียนนา, ออสเตรีย

เวียนนา เมืองสุดอบอุ่นแห่งออสเตรีย หากไปเยือนเวียนนาควรไปเยือนพระราชวังเชิร์นบรุนที่งดงาม และโบสถ์เซนต์สตีเฟ่น โบสถ์แบบโกธิคที่ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง นอกจากนี้เวียนนายังเป็นเมืองที่มีความเกี่ยวข้องกับดนตรีคลาสสิคจึงเหมาะกับการไปชมการแสดงโอเปร่าและคอนเสิร์ตคลาสสิกที่ฮอลล์ต่างๆ ทั่วเมือง หรือใครเป็นสายคาเฟ่ฮอปเปอร์ที่เวียนนาเองก็เป็นที่ตั้งของคาเฟ่เก่าแก่ ที่บางครั้งการเดินทางท่องเที่ยวยุโรปครั้งนี้อาจเจอกับเหล่าศิลปินนั่งจิบกาแฟอยู่ที่นั่นก็เป็นได้

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: พระราชวังเชิร์นบรุน, โบสถ์เซนต์สตีเฟ่น
• กิจกรรม: คอนเสิร์ตดนตรีคลาสสิค, คาเฟ่
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

6. ปราก, สาธารณรัฐเช็ก

สำหรับสายผจญภัยที่หลงใหลประวัติศาสตร์ หากได้เดินทางมาเที่ยวยุโรปที่ปราก สาธารณรัฐเช็ก เมื่อไปถึงปรากควรเริ่มทัวร์ประวัติศาสตร์ที่ปราสาทปราก ปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยในอดีตเคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งโบฮีเมีย จากนั้นลองไปเดินเล่นที่สะพานชาร์ลส์ที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่ ตกแต่งด้วยรูปปั้นนักบุญของชาวเชคมากกว่า 20 รูปและ โคมไฟอีกหลายจุด และส่วนนักดื่มต้องถูกใจ เพราะที่ปรากมีเบียร์ท้องถิ่นให้เลือกดื่มจำนวนมาก

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: ปราสาทปราก, สะพานชาร์ลส์
• กิจกรรม: ทัวร์ประวัติศาสตร์, ชิมเบียร์ท้องถิ่น
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

7. ซูริค, สวิตเซอร์แลนด์

ชวนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสุดโรแมนติกของเมืองริมทะเลสาบ และความงดงามของสถาปัตยกรรม ซูริค เมืองใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ที่เป็นทั้งศูนย์กลางของเศริษฐกิจ การเงิน และความเจริญในหลาย ๆ ด้าน โดยเริ่มจากการเดินเล่นย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยร้านค้าตั้งอยู่ในอาคารเก่าแก่ หรือล่องเรือชมวิวทะเลสาบซูริค ทะเลสาบที่โอบล้อมด้วยบ้านเมืองและภูเขา หรืออยากจะเพิ่มความแอดเวนเจอร์ด้วยกิจกรรมพายแคนูหรือพายซัปก็รับรองว่าสนุกแน่นอน

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: เมืองเก่า, ทะเลสาบซูริค
• กิจกรรม: ล่องเรือชมวิว, ทริปภูเขา
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

8. โคเปนเฮเกน, เดนมาร์ก

สถานที่ท่องเที่ยวในทวีปยุโรปที่เป็นอีกหนึ่งทริปในฝันคือการเดินทางไปท่องเที่ยวที่โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เมืองที่ได้รับรางวัลว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก เพราะเป็นเมืองสีเขียว มีอากาศบริสุทธิ์ให้สูดได้เต็มปอด ไปถึงโคเปนเฮเกนแล้วต้องไปเช็คอินกันที่รูปปั้นเงือกน้อย จุดถ่ายรูปยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่มาเยือน จากนั้นไปต่อกันที่พระราชวังอามาเลียนบอร์ก โดยจุดเด่นของที่นี่คือพิธีเปลี่ยนเวรยามของทหารที่เฝ้าในเขตพระราชวัง สำหรับกิจกรรมน่าทำคือการล่องเรือในคลองและสำรวจย่านนูฮาวน์ที่เรียงรายด้วยเรือใบ โดยมีฉากหลังเป็นอาคารหลากสีสัน

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: รูปปั้นเงือกน้อย, พระราชวังอามาเลียนบอร์ก
• กิจกรรม: ล่องเรือในคลอง, สำรวจย่านนิฮาฟน์
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

9. ซานโตรินี, กรีซ

อีกหนึ่งเมืองที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยุโรปสุดโรแมนติก คือ เกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ เริ่มที่เมืองเอียที่จะเห็นภาพบ้านเรือนสีขาวตั้งอยู่บนเนินเขาริมทะเลผสมผสานกับโดมสีฟ้าสดใส เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่โด่งดัง หากดื่มด่ำกับบรรยากาศที่นี่อย่างเต็มอิ่มแล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่คนรักการอาบแดดและเล่นน้ำควรเดินทางไปที่หาดแดง มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยหน้าผาหินสีแดง นักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนหรือนอนเล่มริมชายหาดได้

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: หมู่บ้านโอเรีย, หาดแดง
• กิจกรรม: ชมพระอาทิตย์ตก, ล่องเรือชมเกาะ
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

10. ลิสบอน, โปรตุเกส

สถานที่ท่องเที่ยวยุโรปที่ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแอตแลนติกที่ยังคงมีอาคารบ้านเรือนอันเป็นสถาปัตยกรรมเก่า ๆ ตั้งอยู่ เหมาะกับการเดินเล่นชมเมืองสีสันสดใส หรือนั่งรถรางสีเหลืองสำรวจเมือง แล้วค่อยไปเยือนโบสถ์เจอโรนิโม โบสถ์ที่ได้รับการขี้นทะเบียนเป็นมรกดโลก โดยสร้างขึ้นในสไตล์มานูเอลไลน์ ใช้เวลาก่อสร้างถึง 70 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์ ก่อนปิดทริปที่ลิสบอนด้วยการลองชิมอาหารทะเลสด ๆ หลากหลายเมนูที่จะประทับใจไปอีกนาน

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: ทาวเวอร์เบเล็ม, โบสถ์เจอโรนิโมส
• กิจกรรม: ขี่รถราง, ลองชิมอาหารทะเล
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

11. ซัลซ์บูร์ก, ออสเตรีย

เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งเสียงดนตรี เพราะเป็นบ้านเกิดของนักแต่งเพลงชื่อดัง Wolfgang Amadeus Mozart ในปี 1756 จึงมีกิจกรรมเกี่ยวกับดนตรีคลาสสิคมากมาย ดังนั้นสถานที่ต้องไปเยือนคือบ้านโมซาร์ทที่ได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสิ่งของและเครื่องใช้ส่วนตัวของศิลปิน อีกหนึ่งสถานที่คือปราสาทซัลซ์บูร์กที่ตั้งอยู่บนยอดเขา หากขึ้นไปบนปราสาทสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของเมือง จากนั้นสามารถมาเดินเล่นย่านเมืองเก่าที่เป็นมรดกโลก เพราะเป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมอย่างโบสถ์เก่าแก่ตั้งอยู่หลายแห่ง

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: ปราสาทซัลซ์บูร์ก, บ้านโมซาร์ท
• กิจกรรม: เดินชมเมืองเก่า, ทัวร์ดนตรีคลาสสิค
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

12. บรัสเซลส์, เบลเยียม

เมืองบรัสเซล์ ประเทศเบลเยียมเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยุโรปที่น่าเที่ยวและมีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย โดยที่แรกที่อยากให้มาเช็คอินคือจัตุรัสกร็อง ปลัส หรือจัตุรัสแกรนด์เพลส จัตุรัสที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป รายล้อมด้วยอาคารเก่าแก่ในเเบบบาร็อค โกธิค เเละนีโอโกธิค มีอายุกว่า 400 ปี อีกหนึ่งสถานที่คืออะโตเมียม แลนด์มาร์กที่แสดงถึงความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นลูกบอลอลูมิเนียมจำนวน 9 ลูก โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวของเมืองได้อีกด้วย

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: จัตุรัสกรองด์ปลาส, อะตอมิเคียม
• กิจกรรม: ชิมช็อคโกแลต, สำรวจย่านกลางเมือง
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

13. สตอกโฮล์ม, สวีเดน

สถานที่ท่องเที่ยวยุโรปที่ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง คือ สตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมืองที่ตั้งอยู่บนเกาะกว่า 14 เกาะจึงถือเป็นเมืองที่อากาศสดชื่นตลอดปี เพราะล้อมรอบด้วยผืนน้ำและธรรมชาติอันสมบูรณ์ เป็นที่ตั้งของพระราชวังสตอกโฮล์มที่ประทับของกษัตริย์แห่งสวีเดน มีย่านเมืองเก่า Gamla Stan เป็นย่านเมืองเก่าที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป โดยนอกจากเดินเล่นชมเมืองsincสำรวจมิวเซียมแล้ว ยังสามารถล่องเรือไปตามหมู่เกาะต่าง ๆ ได้อย่างเพลิดเพลินอีกด้วย

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: พระราชวังสตอกโฮล์ม, เมืองเก่า
• กิจกรรม: ทัวร์เรือ, สำรวจพิพิธภัณฑ์
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

14. ลักเซมเบิร์กซิตี้, ลักเซมเบิร์ก

หลงมนตร์เสน่ห์ของลักเซมเบิร์กซิตี้ ประเทศลักเซมเบิร์ก เริ่มกันที่เดินสำรวจปราสาทลักเซมเบิร์กที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ภายในปราสาทมีพิพิธภัณฑ์เมืองเก่าของลักเซมเบิร์กเรียกว่า Vieille Ville หรือ Gibraltar of the North ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟเพียง 15 นาที สามารถเดินเล่นไปตามถนนสายแคบ ๆ ที่คดเคี้ยว โดยเมืองเก่าแห่งนี้อยู่กลางหน้าผาที่มีแม่น้ำไหลผ่านตรงกลาง ซึ่งจะมีทางเดินที่ไต่ไปตามหน้าผาและมองเห็นบ้านเรือนยุคกลาง รวมถึงพระราชวัง Grand Ducal Palace ที่สร้างในศตวรรษที่ 16 ที่งดงามราวเทพนิยาย

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: ปราสาทลักเซมเบิร์ก, ย่านเมืองเก่า
• กิจกรรม: เดินชมเมือง, สำรวจพิพิธภัณฑ์
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

15. วอร์ซอ, โปแลนด์

โปแลนด์เป็นอีกหนึ่งประเทศน่าเที่ยวในยุโรป สำหรับที่เมืองวอร์ซอมีย่านเมืองเก่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก แม้ที่นี่จะเสียหายย่อยยับในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ก็บูรณะฟื้นฟูกลับมาได้อาคารบ้านเรือนในจัตุรัสแห่งนี้สร้างขึ้นในสไตล์บารอค สีสันสดใสดูสะดุดตา ภายในบริเวณจัตุรัสมีคาเฟ่ ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง เราสามารถเดินเล่นในย่านเมืองเก่า และเดินชมปราสาทหลวงของวอร์ซอเป็นที่ประทับของราชวงศ์ ซึ่งเป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการของราชวงศ์โปแลนด์มานานหลายศตวรรษ ตั้งอยู่ที่ Castle Square ตรงทางเข้าเมืองเก่าของวอร์ซอ รอบ ๆ มีสวนสาธารณะให้นั่งเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: พระราชวังวอร์ซอ, ย่านเมืองเก่า
• กิจกรรม: เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์, เดินเล่นในสวนสาธารณะ
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

16. เฮลซิงกิ, ฟินแลนด์

ตกหลุมรักเฮลซิงกิ เมืองแห่งฤดูกาลผันเปลี่ยนที่แสนงดงาม มีโบสถ์เทมเปลิโอคิโอ หรือโบสถ์หินที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกสองพี่น้อง Timo และ Tuomo Suomalainen เปิดตั้งแต่ปี 1969 นอกจากนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์อาเทเนียม ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1885–1887 เป็นที่ตั้งของคอลเล็กชั่นศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในฟินแลนด์ มีผลงานศิลปะมากกว่า 20,000 ชิ้นให้ได้ชม สำหรับใครที่ทำงานศิลปะและอยากได้รับแรงบันดาลใจ ที่นี่ึืคือสถานที่ท่องเที่ยวในทวีปยุโรปที่ไม่ควรพลาด

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: โบสถ์หิน, เกาะซูออมินนา
• กิจกรรม: ล่องเรือในทะเลบอลติก, สำรวจพิพิธภัณฑ์
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

17. มิลาน, อิตาลี

มิลาน หรือมิลาโน เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองผู้นำแฟชั่นระดับแนวหน้าของโลก มีชื่อเสียงในการเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าแฟชั่นโมเดิร์นที่มีความทันสมัย จุดแรกสุดที่ต้องแวะชมก่อนคือมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือที่เรียกว่า “ ดูโอโม (Duomo) ” ชื่อนี้ไว้ใช้เรียกมหาวิหารประจำเมือง อีกหนึ่งที่คือโรงละครโอเปร่าเก่าแก่ ง ปัจจุบันโรงละครแห่งนี้เป็นสถานที่จัดแสดงโอเปร่า บัลเลต์ และการแสดงดนตรีชั้นนำ มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ตกแต่งด้วยสีทองอร่าม ที่นั่งสีแดงกำมะหยี่ และโคมระย้าขนาดใหญ่ บรรยากาศภายในโรงละครหรูหรา ราวกับหลุดเข้าไปในโลกแห่งศิลปะการแสดง

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: วิหารมิลาน, โรงละครลาสกาลา
• กิจกรรม: ช็อปปิ้ง, สำรวจแหล่งศิลปะ
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

18. ลูบลิยานา, สโลวีเนีย

ลูบลิยานาเมืองหลวงของประเทศสโลวีเนียเป็นประเทศขนาดเล็กที่มีความงามอยู่ทุกพื้นที่ เมื่อมาเยือนเมืองนี้ไม่ควรพลาดที่จะไปยังปราสาทลูบลิยานา แลนด์มาร์กที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาคาสเซิลฮิลล์ที่สามารถมองเห็นตัวเมืองรอบด้าน หรือสะพานสามอันที่เป็นสะพานสามสายที่เชื่อมต่อกัน สำหรับกิจกรรมที่นี่ก็มีให้เลือกทำมากมาย ไม่ว่าจะเดินทอดอารมณ์ในเมืองเก่าหรือล่องเรือในแม่น้ำลูบลิยานิก้า ชมบรรยากาศอันอบอุ่นของบ้านเรือนสองข้างทาง

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: ปราสาทลูบลิยานา, สะพานสามอัน
• กิจกรรม: เดินชมเมืองเก่า, ล่องเรือในแม่น้ำลูบลิยานิก้า
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

19. ซาน มารีโน, ซาน มารีโน

ซานมารีโน สาธารณรัฐซานมารีโน เป็นเมืองเล็ก ๆ เงียบสงบ ตั้งอยู่บนเทือกเขาล้อมรอบด้วยภูมิทัศน์ที่แสนงดงาม พื้นที่แห่งนี้สวยงามโดดเด่นด้วยกำแพงเมืองจากยุคกลาง มีสัญลักษณ์ของประเทศตั้งตระหง่าน ได้แก่ หอคอยสามแห่งที่ดูคล้ายปราสาท ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการของเมืองในอดีต สามารถชมวิวทั้งเมืองได้จากบนนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของซานมารีโนอย่างลึกซึ้ง สามารถเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ 18 แห่งที่เปิดให้เข้าชมตลอดปี

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: ปราสาทสามแห่ง, พิพิธภัณฑ์อาร์ต
• กิจกรรม: สำรวจเมืองเก่า, ชมวิวจากปราสาท
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

20. บูดาเปสต์, ฮังการี

บูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยุโรปที่มีความสวยงาม โดยมีสถานที่ต้องไปเช็คอินคือสะพานเชน สะพานโซ่ขนาดใหญ่ที่เชื่อมฝั่งบูดาและฝั่งเปสต์ รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ของการรวมเมืองทั้งสองเอาไว้ด้วยกัน บริเวณคอสะพานมีรูปแกะสลักรูปสิงโตหินหมอบอยู่ทั้งสองด้าน สำหรับกิจกรรมที่ต้องห้ามพลาดคือการแช่น้ำร้อนที่โรงอาบน้ำ Széchenyi Thermal Bath ที่มีสปาน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

• สถานที่ที่ต้องไปเยือน: ปราสาทบูดาเปสต์, สะพานเชน
• กิจกรรม: แช่น้ำร้อน, ชมเมืองจากเนินบูดา
• วีซ่าเชงเก้น: ใช้ได้

ทั้ง 20 สถานที่ท่องเที่ยวน่าไปในยุโรปล้วนมีเสน่ห์ที่ต้องไปสัมผัสให้ได้สักครั้งในชีวิต โดยทุกสถานที่ที่นำเสนอไปสามารถใช้วิซ่าเชงเก้นได้ แต่หากขอวีซ่าเชงเก้นไม่ผ่าน ประกันการเดินทาง Enjoy Travel จะคืนเงินค่าเบี้ยฯ ให้ 100% นอกจากนี้ยังคุ้มครองการเดินทางล่าช้าของกระเป๋าเดินทางสูงสุด 15,000 บาท คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศสูงสุด 3,000,000 บาทต่อทริป นอกจากนี้กรุงไทยยังมี ประกันภัยการเดินทาง สมาร์ท ทราเวลเลอร์ พลัส ที่สามารถเลือกซื้อได้ทั้งแบบรายทริป และรายปี เดินทางได้อย่างสบายใจ และยังใช้ประกอบการยื่นวีซ่าได้ทุกสถานฑูต รวมถึงวีซ่าเชงเก้นด้วย

ทีนี้เชื่อว่าทริปในฝันที่กำลังจะเกิดขึ้น ณ ดินแดนยุโรป ไม่ว่าจะเลือกไปเที่ยวที่ใดใน 20 สถานที่นี้ จะกลายเป็นทริปที่น่าจดจำและประทับใจไปอีกแสนนานอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อมีประกันการเดินทางของกรุงไทยช่วยดูแลให้ทริปในฝันของคุณอุ่นใจและสนุกยิ่งขึ้นกว่าเดิม