10 เช็กลิสต์วิธีเล่นหุ้น มือใหม่ไม่มีประสบการณ์ ให้พอร์ตเติบโตแบบยั่งยืน

เราคงได้ยินกับคิดว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนก่อนการลงทุน” ซึ่งในโลกของการลงทุนมีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ แต่ทำไมการลงทุนในหุ้นถึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ชาญฉลาด ที่ให้คุณสร้างโอกาสเพิ่มความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 10 เช็กลิสต์วิธีเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจขั้นตอนพื้นฐาน ตั้งแต่การวางแผนการลงทุน การศึกษาเกี่ยวกับตลาดหุ้น ไปจนถึงการจัดการความเสี่ยง เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นลงทุนได้อย่างมั่นใจ และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

การทำความเข้าใจพื้นฐาน

เช็กลิสต์ 10 วิธีเล่นหุ้น สำหรับนักเทรดหุ้นมือใหม่ หรือผู้ที่อยากเริ่มต้นลงทุน โดยใช้เงินไม่เยอะ ด้วยการทำความเข้าใจพื้นฐาน เพื่อให้คุณเทรดหุ้นได้อย่างมั่นคงและลดความเสี่ยง โดยเริ่มจาก

1. รู้เป้าหมายทางการเงินของคุณ

การกำหนดเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดก่อนที่คุณจะเริ่มการลงทุน เป้าหมายเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะเล่นหุ้นยังไง ยกตัวอย่างเช่น การลงทุนระยะสั้น เป็นการลงทุนเพื่อมุ่งเน้นการทำกำไรจากความผันผวนของราคาหุ้นในระยะเวลาอันสั้น แต่มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากราคาหุ้นมีความผันผวน หรือจะเป็น การลงทุนหุ้นระยะยาว เพื่อรอรับเงินปันผล รวมถึงให้เงินงอกเงยสำหรับอนาคต เพื่อเป็นเงินออม ลงทุนเพื่อเกษียณอายุ หรือลงทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจ มาดูกันว่า เป้าหมายแต่ละประเภทนั้นเป็นอย่างไร

1.1 การลงทุนเพื่อเป็นเงินออม

คือ การนำเงินที่เราออมไว้ไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนมากกว่าการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มพูนเงินทุนของเราให้มากขึ้น เพื่อใช้จ่ายในอนาคต เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ

ตัวอย่าง สินทรัพย์ที่สามารถลงทุนเพื่อเป็นเงินออมได้ : กองทุนรวมตราสารหนี้, สลากออมทรัพย์ ระยะไม่เกิน 3 ปี

1.2 ลงทุนเพื่อเกษียณอายุ

คือ การนำเงินส่วนหนึ่งมาลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อสร้างรายได้ในระยะยาว โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้มีเงินทุนเพียงพอสำหรับใช้จ่ายในช่วงเกษียณอายุ ซึ่งเป็นช่วงที่เราไม่ได้ทำงานประจำแล้ว

ตัวอย่าง สินทรัพย์ที่สามารถลงทุนเพื่อเกษียณอายุได้ : กองทุนรวมตราสารหนี้, สลากออมทรัพย์ ระยะเกิน 3 ปี, ทองคำ หรือถ้าต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง นอกจากหุ้นแล้วก็จะมี สินทรัพย์ดิจิทัล, กองทุนรวมหุ้น เป็นต้น

1.3 ลงทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจ

คือการนำเงินทุนมาใช้เพื่อพัฒนาธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในทรัพย์สิน หรือการลงทุนในทรัพยากรบุคคล การตลาด เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างรายได้ให้กับธุรกิจในระยะยาว

ตัวอย่างสินทรัพย์ที่สามารถลงทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจได้ : ลงทุนในหุ้น, ลงทุนกองทุนรวม, สินทรัพย์ดิจิทัล, กองทุนรวมหุ้น เป็นต้น

2. ศึกษาหุ้นและตลาดหุ้น

อีกหนึ่งวิธีเล่นหุ้น ที่นักเทรดหุ้นมือใหม่ ไม่ควรมองข้าม นั่นก็คือ ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับหุ้นและตลาดหุ้นเบื้องต้นเสียก่อน โดยหุ้นจะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก นั่นก็คือ

• หุ้นสามัญ : เป็นประเภทของหุ้นที่พบได้ทั่วไป ผู้ถือหุ้นสามัญมีสิทธิ์ออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้น และมีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล
• หุ้นบุริมสิทธิ : เป็นหุ้นที่มีสิทธิพิเศษกว่าหุ้นสามัญ เช่น มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลก่อนหุ้นสามัญ และมีสิทธิ์ได้รับชำระหนี้ก่อนหุ้นสามัญในกรณีที่บริษัทต้องล้มละลาย

ตลาดหุ้นคืออะไร?

ตลาดหุ้น คือสถานที่ที่เปิดให้นักลงทุนซื้อขายหุ้นของบริษัทต่าง ๆ ตลาดหุ้นมีทั้งแบบที่เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่มีการจัดการอย่างเป็นทางการ และตลาดซื้อขายหุ้นออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

หลังจากที่เราทำความรู้จักกับหุ้นแต่ละประเภท รวมถึง ตลาดหุ้นไปแล้ว ก็มาถึง วิธีการซื้อขายและเทคนิคเบื้องต้น กันบ้างเริ่มด้วยการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น หรือที่หลายคนเรียกว่า "เปิดพอร์ท" จากนั้นก็เริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นที่ต้องการลงทุน ผลประกอบการ งบการเงิน ข่าวสารต่าง ๆ จากนั้นก็วางแผนการลงทุน เลือกหุ้นที่เหมาะสม และติดตามผลการลงทุน

3. ทำความเข้าใจความเสี่ยง

นักเทรดหุ้นมือใหม่ พึงระลึกไว้เสมอว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ที่มีความเป็นไปได้ทั้งกำไรและขาดทุน ซึ่งความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้น มาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ความเสี่ยงของตลาดหุ้น, ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจ ที่มาจากภาวะเงินเฟ้อ และการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงิน

สำหรับวิธีการจัดการความเสี่ยงในการลงทุน แนะนำให้กระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์ จะช่วยลดความเสี่ยงจากการที่สินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งให้ผลตอบแทนที่ไม่ดี และไม่แนะนำให้ลงทุนโดยไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย เพราะยิ่งจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการลงทุน

การวางแผนการลงทุน

หลังจากที่เราทำความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ วิธีเล่นหุ้น กันไปแล้ว ทีนี้ใครที่สงสัยว่า เล่นหุ้นยังไง ต้องเริ่มจากตรงไหน เช็กลิสต์ต่อมาคือการวางแผนการลงทุน กำหนดงบประมาณที่เหมาะสมกับตัวคุณ เลือกหุ้นที่เหมาะสม และ ติดตามและประเมินผลการลงทุน

4. กำหนดงบประมาณในการลงทุน

การกำหนดงบประมาณในการลงทุน ควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนก่อนเสมอว่า เรามีค่าใช้จ่ายจำเป็นอะไรบ้าง และเหลือเงินที่จะใช้ในการลงทุนเท่าไหร่ เรื่องน่ารู้สำหรับนักเทรดหุ้นมือใหม่ นั่นก็คือไม่ควรนำเงินทั้งหมดมาลงทุนในตลาดหุ้น เนื่องจากตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง แนะนำให้เริ่มต้นด้วยงบประมาณที่สามารถรับความเสี่ยงได้เช่นลงทุน เดือนละ 1,000 – 5,000 หรือ ปีละ 10% ของเงินได้ทั้งหมด การกระจายการลงทุน เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การลงทุนในกองทุนรวม หรือจะเป็นการลงทุนในหุ้นหลายกลุ่มธุรกิจ เช่น ธนาคาร พลังงาน เทคโนโลยี เป็นต้น

5. เลือกหุ้นที่เหมาะสม

การเลือกหุ้นพื้นฐานดีก็จะนำไปสู่ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเลือกซื้อหุ้นตัวแรก นักเทรดหุ้นมือใหม่ควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการเลือกหุ้นก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน เช่น การพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น งบการเงิน ผลการดำเนินงาน อัตราการเติบโตของรายได้ และแนวโน้มของบริษัท หรือตามธุรกิจของเราที่เราสนใจ

6. ติดตามและประเมินผลการลงทุน

เพราะการลงทุน ไม่ใช่แค่การตัดสินใจซื้อหุ้นครั้งเดียวแล้วปล่อยทิ้งไว้ การติดตามและประเมินผลการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เราสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง สถานการณ์ต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การยึดติดกับกลยุทธ์เดิม ๆ อาจไม่ได้ผลเสมอไป การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตามสถานการณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การลงทุนของคุณประสบความสำเร็จ

การพัฒนาทักษะและการปรับตัว

ต้องบอกการลงทุนในตลาดหุ้นมีการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การศึกษาตลาดและวิเคราะห์ข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นทักษะที่นักลงทุนทุกคนต้องมี เล่นหุ้นยังไง ให้เพิ่มความมั่งคั่ง มาเช็กลิสต์ 4 ข้อสุดท้าย ว่าด้วยเรื่องของการพัฒนาทักษะและการปรับตัว

7. ศึกษาตลาดและวิเคราะห์ข่าวสาร

เพราะตลาดหุ้นมีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา ดังนั้นการติดตามข่าวสารและศึกษาวิเคราะห์ตลาดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น เช่น การติดตามข่าวสารเศรษฐกิจและการเงินจะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจแนวโน้มตลาดและทิศทางของหุ้นได้ดีขึ้น ซึ่งในปัจจุบัน มีสื่อการลงทุนมากมายที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ทั้งจากเว็บไซต์ข่าวการเงิน โซเชียลมีเดีย บทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ต่าง ๆ ที่ทำให้เราได้ทราบถึงการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด ค่อนข้างที่จะทำได้ง่ายเนื่องจากสื่อการลงทุนทั่วไปมีค่อนข้างมากและเข้าถึงได้ง่าย ตัวอย่างเช่น ข่าวเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย เศรษฐกิจโลก สถานการณ์ทางการเมือง หรือการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมสำคัญ ๆ อาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นโดยตรง การรู้เท่าทันข่าวสารเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีข้อมูลที่เพียงพอในการประเมินสถานการณ์และปรับกลยุทธ์การลงทุนได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการอ่านบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนหรือการศึกษาบทวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานจะช่วยให้คุณเข้าใจภาพรวมของตลาดและทิศทางของหุ้นแต่ละตัวได้ดีขึ้น ไม่ว่าคุณจะใช้การวิเคราะห์แบบใด การมีความรู้พื้นฐานในเรื่องนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้น

8. สร้างวินัยในการลงทุน

การลงทุนในหุ้นไม่ใช่เรื่องของโชค แต่เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการวางแผน ความรู้ และที่สำคัญคือ วินัย การมีวินัยในการลงทุนเป็นสิ่งที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมีสติและมีเหตุผล แนะนำให้ตั้งกฎส่วนตัวในการลงทุนและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และไม่อ่อนไหวกับสถานการณ์ที่เกิดความผันผวนของตลาด ยกตัวอย่างการตั้งกฎส่วนตัวในการลงทุน นั่นก็คือการกำหนดเป้าหมายการลงทุนให้ชัดเจน ว่าเป็นเป้าหมายระยะสั้น ระยะยาว หรืออัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง เป็นต้น

9. หาคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ

การลงทุนในหุ้นอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อนสำหรับนักเทรดหุ้นมือใหม่ การหาคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจการลงทุนได้ดียิ่งขึ้นและสามารถดำเนินการลงทุนได้อย่างมั่นใจ การได้รับคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนช่วยให้คุณมีแนวทางในการตัดสินใจที่ถูกต้องและลดความเสี่ยงในการทำผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น

ประโยชน์ของการมีที่ปรึกษาในการลงทุน

• การจัดการความเสี่ยง : ที่ปรึกษาสามารถช่วยคุณในการกระจายความเสี่ยงโดยการแนะนำการลงทุนในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ หรือกองทุนรวม ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นเพียงอย่างเดียว และยังช่วยในการตั้งจุดขายเพื่อหยุดการขาดทุนในสถานการณ์ที่ราคาหุ้นตกต่ำ
• ลดความกังวลในการตัดสินใจลงทุน : ตลาดหุ้นมักจะเต็มไปด้วยความผันผวนและความซับซ้อน การมีที่ปรึกษาที่สามารถช่วยให้คุณเข้าใจสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น จะช่วยลดความกังวลในการตัดสินใจลงทุน และยังทำให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อทำการซื้อขายหุ้น
• ความเชื่อมั่นในการตัดสินใจ : การได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทำให้คุณมั่นใจได้ว่าการตัดสินใจที่คุณทำในการลงทุนเป็นการตัดสินใจที่มีข้อมูลสนับสนุน ซึ่งจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่ไม่สมเหตุสมผลหรือตามอารมณ์

10. ลงทุนในความรู้และการพัฒนาตนเอง

การลงทุนที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่การใส่เงินลงไปในหุ้นหรือทรัพย์สินต่าง ๆ เพียงแค่นั้น แต่การลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนใน ความรู้และการพัฒนาตนเอง การเรียนรู้และพัฒนาทักษะการลงทุนอย่างต่อเนื่องจะทำให้คุณประสบความสำเร็จในระยะยาว เพราะตลาดหุ้นและการลงทุนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ผู้ที่สามารถปรับตัวและพัฒนาความรู้ใหม่ ๆ จะมีโอกาสมากขึ้นในการสร้างผลกำไรและลดความเสี่ยง การเรียนรู้และพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องผ่านการอ่านหนังสือ การเข้าร่วมคอร์สเรียน และการติดตามข่าวสารและบทวิเคราะห์จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจในการลงทุนได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ

แนะนำหนังสือ / คอร์สออนไลน์ สำหรับพัฒนาทักษะการลงทุน

• The Intelligent Investor" โดย Benjamin Graham
  เป็นหนังสือการลงทุนแห่งศตวรรษ ที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ แห่ง Berkshire Hathaway ยกย่องว่าเป็นหนังสือการลงทุนที่ดีที่สุด คู่มือคลาสสิกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเรียนรู้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน โดยให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนอย่างมีเหตุผล การลดความเสี่ยง และการลงทุนระยะยาว ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
• คอร์สออนไลน์ Financial Markets โดย Robert Shiller
  คอร์สเรียนจากศาสตราจารย์ Robert Shiller เจ้าของรางวัลโนเบลด้านเศรษฐศาสตร์ ให้ความรู้เกี่ยวกับพื้นฐานของตลาดการเงิน หลักการทำงานของตลาดหุ้น และปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อการลงทุน

ทั้งหมดนี้คือ วิธีเล่นหุ้น สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ ทั้ง 10 วิธีที่ได้กล่าวมา ลองเช็กลิสต์ดูนะ และเมื่อเข้าใจถึงรายละเอียดของหุ้นแล้ว ก็เริ่มลงทุนกันได้เลย แต่อย่าลืมว่า การลงทุนมีความเสี่ยง อย่าเล่นตามอารมณ์หรือไม่ได้ศึกษาข้อมูลให้ดีเสียก่อนเพราะ การลงทุนก็เสมือนการเรียนรู้หากเราเข้าใจในตัวเราและธุรกิจของบริษัทที่เราลงทุน ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก

สนใจลงทุนกับ KTX เริ่มได้ง่าย ๆ ที่ NEXT INVEST ผ่านแอป Krungthai NEXT เทรดหุ้นทั่วโลกไร้ขีดจำกัด ให้คุณเป็นเจ้าของหุ้นแบรนด์ดังระดับโลกได้ รองรับการลงทุนในตลาดอเมริกา, ยุโรป, เอเชีย และออสเตรเลีย รวม 26 ประเทศ ครอบคลุม 35 ตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก หรือจะเทรดหุ้นไทย ก็สามารถทำได้ รวมพอร์ตการลงทุนหุ้นทุกประเภทในที่เดียว ดูง่าย วางแผนปรับพอร์ตได้อย่างมืออาชีพ เติมเงิน real time พร้อมเทรดได้ทันทีในเวลาทำการ ไม่มีค่าธรรมเนียมการเทรดขั้นตํ่า เปิดบัญชีหุ้นครั้งเดียว ได้สูงสุดถึง 4 บัญชี ง่าย สะดวก ไม่ต้องส่งเอกสารให้ยุ่งยาก ไม่ต้องไปสาขาก็เปิดบัญชีหุ้นผ่านแอปฯ ได้ทุกที่ ตลอด 24 ชั่วโมง เปิดบัญชีลงทุนฟรี

สนใจลงทุนกับ KTX เริ่มได้ง่าย ๆ
ที่ NEXT INVEST
ผ่านแอป Krungthai NEXT

เปิดบัญชีและเริ่มลงทุนได้เลย