เรียนรู้การเงิน

ปักหมุด 20 ที่เที่ยวอิตาลี เมืองแห่งศิลปะและประวัติศาสตร์ยุโรปที่ใคร ๆ ก็หลงรัก

อัพเดทวันที่ 7 ต.ค. 2567

20 ที่เที่ยวอิตาลี เมืองแห่งศิลปะและประวัติศาสตร์ยุโรปที่ใคร ๆ ก็หลงรัก

เตรียมตัวไปเที่ยวอิตาลีด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก แต่ไปทั้งทีต้องเก็บให้ครบทุกแลนด์มาร์คสำคัญ เพราะอิตาลีเป็นอีกหนึ่งประเทศในยุโรปที่ควรค่าแก่การไปท่องเที่ยว เพราะมีความน่าสนใจทั้งในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ศิลปะ และสถาปัตยกรรม กรุงไทยชวนปักหมุด 20 ที่เที่ยวอิตาลี เมืองแห่งศิลปะและประวัติศาสตร์ยุโรปที่ทุกคนหลงรักให้ไปตามรอยกัน


20 ที่เที่ยวอิตาลี เมืองแห่งศิลปะ ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่ห้ามพลาดเด็ดขาด



St. Peter's basilica

ที่เที่ยวอิตาลี St. Peter's basilica


เซนต์ ปีเตอร์ส บาซิลิกา หรือมหาวิหารนักบุญเปโตร เป็นหนึ่งในสี่ของมหาวิหารเอกของกรุงโรม มหาวิหารในเขตของนครรัฐวาติกัน สร้างขึ้นในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 4 ในรูปแบบบาซิลิกา และต่อมาได้มีการสร้างมหาวิหารขึ้นมาใหม่ในแบบเรเนซองส์ที่ขึ้นชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของคริสตจักรโรมันคาทอลิก จุดเช็คอินยอดนิยมคือลานเซนปีเตอร์ที่จะเห็นวิหารและโดมอันโดดเด่น หากเดินเข้าไปภายในวิหารแล้วอย่าพลาดที่จะถ่ายภาพเพดานวิหารที่เป็นศิลปะอันประณีต รวมถึงรูปปั้น Pieta ของ Michelangelo จากนั้นให้ขึ้นไปบนโดมของวิหารจะสามารถถ่ายภาพวิวของนครวาติกันและกรุงโรมได้จากมุมสูงอีกด้วย


พิกัด: https://maps.app.goo.gl/pk7s9bxeebeRxA5M7
ค่าผ่านประตู : ค่าบริการตั๋วเข้าชมพร้อม Audio guide 19.50 ยูโร สำหรับเด็กอายุระหว่าง 7-17 ปี ปี 14.50 ยูโร และฟรีสำหรับเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 7 ปี และผู้พิการ
วันเวลา ปิด – เปิด : ตุลาคม - มีนาคมเปิดให้บริการบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 7.00 น. ไปจนถึงเวลา 18.00 น. เมษายน - กันยายน เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 7.00 น. ไปจนถึงเวลา 19.00 น.
การเดินทาง : เดินทางโดยใช้รถไฟใต้ดิน metro station line A โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานี Ottaviano
เว็บไซต์ : www.basilicasanpietro.va



Florence Cathedral

ที่เที่ยวอิตาลี Florence Cathedral


มหาวิหารอันงดงามที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอิตาลี นับเป็นหนึ่งในผลงานสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จุดเด่นของมหาวิหารแห่งนี้คือโดมสีส้มขนาดใหญ่และโครงสร้างภายนอกอาคารที่เป็นหินอ่อนสีขาว แต่งด้วยหินสีเขียวและสีชมพูที่ได้รับการตกแต่งด้วยหินแกะสลัก มีหอระฆังสูง 85 เมตรอยู่บริเวณด้านข้าง เมื่อเดินเข้าไปในวิหารอย่าพลาดที่จะแหงนหน้าชมภาพวาดใต้ยอดโดมที่มีภาพ The Last Judgment อันโด่งดังของ Vasari ก่อนจะบันทึกภาพกับหน้าต่างบานสวยที่เป็นงานกระจกหลากหลายสีเป็นที่ระลึก


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/cWGBP4RDaKffEa659
ค่าผ่านประตู : ค่าตั๋วเข้าชมราคา 15 ยูโร โดยตั๋วนั้นรวมทางเข้าวิหาร, โดม , Baptistery, Crypt, Campanile di Giotto และ Museo dell’Opera del Duomo มี Audio guide ให้บริการแต่สำหรับผู้ที่มีหูฟังเท่านั้น หากไม่มีหูฟังจำกัดการเช่าอยู่ที่ผู้ใช้มากกว่า 4 คนต่อ Audio guide 1 อันในราคา 2 – 2.5 ยูโรต่อคน
วันเวลา ปิด – เปิด : เปิดให้บริการทุกวัน โดยวันจันทร์ อังคาร พุธ และวันศุกร์จะเปิดให้บริการในเวลา 10.00 น. - 17.00 น. วันพฤหัสบดี เปิดให้บริการในเวลา 10.00 น. - 15.30 น. วันเสาร์เปิดให้บริการเวลา 10.00 น. - 16.45 น. ส่วนวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเปิดให้บริการในเวลา 13.30 น. - 16.45 น. โดยเวลาเปิดปิดนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่ที่แต่ละช่วงเดือนด้วย
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟหลักของเมืองฟลอเรนซ์ Firenze Santa Maria Novella ที่ตั้งอยู่ที่ Piazza della Stazione สามารถเดินไป Piazza del Duomo ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิหารโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที หรือจะใช้บริการแท็กซี่ก็ได้
เว็บไซต์ : www.duomo.firenze.it



Vatican Museum

ที่เที่ยวอิตาลี Vatican Museum


สำรวจงานศิลปะจากประติมากรรมคลาสสิกที่มีชื่อเสียงของศิลปะยุคฟื้นฟูศิลปกรรมกว่า 70,000 ชิ้น จากหอศิลป์และห้องโถงรวมกันมากกว่า 54 ห้อง ทำให้ที่พิพิธภัณฑ์วาติกันเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สำคัญและมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ผลงานชิ้นสำคัญของที่นี่ คือ รูปปั้นโบราณ Laocoon and His Sons และ Apollo Belvedere สำหรับนักท่องเที่ยวนิยมถ่ายภาพกันที่บันได Spiral Staircase ออกแบบโดย Giuseppe Momo ตั้งแต่ปี คศ.1932 ถือเป็นจุดเช็คอินสำคัญของที่นี่


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/cPfACzeNTeL5aGq28
ค่าผ่านประตู : ค่าตั๋วเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่คือ 17 ยูโร สำหรับเด็กอายุระหว่าง 6 ถึง 18 ปี และนักเรียนนักศึกษาที่แสดงบัตรและมีอายุต่ำกว่า 25 ปี 8 ยูโร และฟรีสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี
วันเวลา ปิด – เปิด : เปิดให้บริการในวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 9.00 น. - 16.00 น. ปิดวันอาทิตย์
การเดินทาง : Metro line A ในการเดินทาง โดยสถานีที่ใกล้คือ Ottaviano และสถานี Cipro หรือจะเลือกเดินทางโดยใช้บัสสาย 49 ซึ่งจะมาจอดที่จตุรัสหน้าพิพิธภัณฑ์ หรือจะเป็นรถรางสาย 19 มาจอดที่ Piazza del Risorgimento
เว็บไซต์ : www.museivaticani.va



Amalfi Coast

ที่เที่ยวอิตาลี Amalfi Coast


สวรรค์ของคนรักทะเลอิตาลี Amalfi Coast มีพื้นที่อยู่ที่อ่าว Salerno บนทะเล Tyrrhenian เป็นเส้นทางเลียบชายฝั่งที่มีความคดเคี้ยวไปตามแนวหน้าผาแคบ ๆ มีวิลล่าน่ารักตั้งตามแนวเชิงเขา นับเป็นฉากหลังที่งดงามในภาพถ่าย นักท่องเที่ยวนิยมมานอนอาบแดดบริเวณชายหาด เล่นกีฬาทางน้ำในฤดูร้อน และเดินช้อปสินค้าที่ระลึก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เซรามิคสไตล์อิตาเลียน


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/HDfrox2Y64hv9ZhY7
การเดินทาง : การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือการใช้เครื่องบินภายในประเทศบินตรงมาที่สนามบิน Salerno Costa d’Amalfi



Lake Como

Lake Como


ในวันพักผ่อนหลายคนเลือกมาที่ Lake Como ที่รวมเมืองต่าง ๆ ที่อยู่ริมทะเลสาบโคโม่ไว้ มีเอกลักษณ์คือเป็นอาคารสีสันสดใสตั้งอยู่บนเนินเขาหรือเชิงเขาริมหาด กิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ กิจกรรมล่องเรือ ชมความงดงามของธรรมชาติ และเดินเล่นตามตรอกซอกซอย หรือใครที่เป็นสายชิลก็สามารถเช่าจักรยานปั่นชมเมืองสุดน่ารักแห่งนี้ได้ ที่สำคัญคือที่นี่มีเวิร์กช็อปอาหารอิตาเลียนให้ได้ลองฝึกมือกันอีกด้วย จะปั่นจักรยานก็ชิลสุดๆ


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/KPr1mSpJ2PDDXEX57
การเดินทาง : สามารถเดินทางโดยเครื่องบินไปลงที่สนามบินมิลานหรือจะนั่งรถไฟไปลงที่สถานี Milano Centrale จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถไฟจากสถานี Milano Centrale ไปที่สถานี Como San Giovanni ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโคโม่ โดยใช้ระยะเวลาเพียงประมาณ 40 นาที



Milan Cathedral

ที่เที่ยวอิตาลี Milan Cathedral


ณ จัตุรัสใจกลางเมืองมิลานคือที่ตั้งของมหาวิหารมิลาน หรือ Duomo di Milano หนึ่งสถาปัตยกรรมที่มีเลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) ศิลปินชื่อก้องโลกเป็นหนึ่งในสถาปนิก ดังนั้นหากมาเที่ยวอิตาลีทั้งทีต้องมาเยือนที่นี่ให้ได้ เพราะ Milan Cathedral เป็นมหาวิหารขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ใช้เวลาก่อสร้างถึง 579 ปี ความโดดเด่นของ Milan Cathedral อยู่ที่ยอดหลังคา ซึ่งรายล้อมด้วยยอดแหลมถึง 135 ยอด สวยงามแปลกตา บนหลังคาเปิดให้เราขึ้นไปชมทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองมิลาน ได้ 360 องศา


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Men8WPe4mtUvGohQ6
ค่าผ่านประตู : ตั๋วเข้าชมมีราคาอยู่ที่ประมาณ 2 ยูโร ถึง 3 ยูโร โดยตั๋วเข้าชมนั้นจะรวมทั้งในส่วนของ Milan Cathedral, Duomo Museum and San Gottardo in Corte Church
วันเวลา ปิด – เปิด : เปิดให้บริการทุกวัน โดยจะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 8.00 น. ไปจนถึงช่วงเวลา 19.00 น. แต่จำหน่ายตั๋วเข้าชมถึงแค่เวลา 6.00 น. และเปิดให้สามารถเข้าชมได้ถึงช่วงเวลาสุดท้ายคือ 6.10 น. เท่านั้น
การเดินทาง : ใช้รถไฟใต้ดิน Metro มาลงที่สถานี Duomo โดย Metro line 1 และ 3 หรือสามารถสังเกตง่ายๆ โดยใช้ Metro ป้ายเหลืองไปตามทิศทางของ S.Donato และดูป้ายสถานี Duomo



Trevi Fountain

ที่เที่ยวอิตาลี Trevi Fountain


อยากกลับมาเที่ยวอิตาลีอีกครั้งต้องมาที่ Trevi Fountain น้ำพุที่ตั้งอยู่ที่เขตเตรวีในกรุงโรม เป็นน้ำพุที่มีความสูง 25.9 เมตร กว้าง 19.8 เมตร เป็นน้ำพุแบบบาโรกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโรม จุดเด่นของบริเวณน้ำพุแห่งนี้คือรูปปั้นและประติมากรรมที่สวยงาม ทั้งรูปปั้นเทพเนปจูนหรือไททันเทพครึ่งคนครึ่งปลา นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ นอกจากจะมาถ่ายรูปเป็นระลึกแล้วจะมาโยนเหรียญอธิษฐาน โดยเชื่อว่าหากโยนเหรียญผ่านไหล่ด้านซ้ายและเหรียญหล่นไปใต้น้ำพุเชื่อกันว่าจะได้เดินทางกลับมาที่นี่อีกครั้ง


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/cVHJaYXFiiTUMV996
การเดินทาง : เดินทางได้อย่างสะดวกโดยการใช้รถไฟใต้ดิน Metro line A มาลงที่สถานี Barberini จากนั้นให้มองหาป้ายบอกทางไป Fontana di Trevi แล้วเดินตามป้ายบอกทาง



Leaning Tower of Pisa

ที่เที่ยวอิตาลี Leaning Tower of Pisa


เตรียมท่าไปถ่ายรูปกับหอเอนเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่นี่คือหอระฆังของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ที่มีลักษณะเป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว การเอนของหอแห่งนี้เกิดขึ้นมาจากพื้นใต้ดินเป็นพื้นดินที่นิ่มก่อให้เกิดการยุบตัว ที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุงฐานให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้เอนหรือล้มลงมา และเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังอย่างกาลิเลโอได้ทำการทดลองเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงของโลกสำเร็จบนหอคอยแห่งนี้ เป็นที่เที่ยวอิตาลีที่ชวนนักท่องเที่ยวมาทำท่าอิง พิง หรือดันก็ได้รูปคลาสสิกกลับไปแน่นอน


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/rFZgkUUTyB3mn1aw5
วันเวลา ปิด – เปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 - 18.00 น. ยกเว้นวันจันทร์
การเดินทาง : สถานีรถไฟหลักของเมืองคือ Pisa Centrale จากสถานีสามารถใช้รถบัสสาย 3 และ 4 หรือ Shuttle สาย A เพื่อเดินทางไปที่หอระฆัง หรือจะนั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี San Rossore จากสถานีใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาทีเพื่อไปหอระฆัง



Galleria Vittorio Emanuele II

ที่เที่ยวอิตาลี Galleria Vittorio Emanuele II


หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอิตาลี คือ Galleria Vittorio Emanuele II ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งชื่อตามพระเจ้าวิตโตรีโอ เอมานูเอเลที่ 2 แห่งอิตาลี ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Giuseppe Mengoni มีลักษณะเป็นทางเดินอาคารขนาบ 4 ชั้น คลุมด้วยหลังคาทรงโค้งเป็นโดมกระจกขนาดใหญ่ บนพื้นตรงกลางอาคารเป็นจุดสำคัญที่ทุกคนแวะเวียนมาถ่ายภาพ เพราะมีงานโมเสก 4 ชิ้น ทำเป็นตราของเมืองหลวงเก่าของราชอาณาจักรอิตาลี คือ ตูริน ฟลอเรนซ์ มิลาน และ โรมเมืองหลวงปัจจุบันไว้ เดินเล่นจนหิวแล้วหาคาเฟ่สวย ๆ นั่งพักแล้วค่อยช็อปปิ้งที่ร้านค้าไฮแฟชั่นภายในห้างต่อ


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/egFZ6Hv86oNmPwAP7
วันเวลา ปิด – เปิด : เปิดให้บริการทุกวัน การเดินทาง: ใช้รถไฟใต้ดินโดยสถานีที่ใกล้คือสถานี Duomo ซึ่งต้องใช้ Metro line 3 และ Line 1 ซึ่งระยะทางจากสถานีอยู่ห่างจากห้างสรรพสินค้าประมาณ 120 เมตร



Ponte Vecchio

ที่เที่ยวอิตาลี Ponte Vecchio


ที่เที่ยวอิตาลีที่ยังคงสมบูรณ์ เพราะสะพาน Ponte Vecchio เป็นสิ่งก่อสร้างเดียวที่ไม่ถูกทำลายล้างด้วยระเบิดของกองทัพนาซี ปัจจุบันเป็นย่านการค้าที่สำคัญแห่งหนึ่งในฟลอเรนซ์ เป็นจุดชมวิวแม่น้ำอาร์โน โดยนักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปบริเวณตรงกลางสะพาน เพราะมีรูปปั้นครึ่งตัวของช่างทองที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดของฟลอเรนซ์ อย่างเชลลินี (Cellini) อยู่ ในอดีตคู่รักจะเอาแม่กุญเเจมาคล้องไว้เเล้วทิ้งลูกกุญเเจลงแม่น้ำ เพราะเชื่อว่าจะทำให้ความรักของทั้งสองเป็นนิรันดร์ เเต่ตอนนี้กลายเป็นข้อห้ามและมีการปรับแล้วหากมาคล้องกุญแจที่นี่


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/1BrEoTna31zvHRoe8
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟด้วยการเดินเท้าโดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที หรือสามารถเลือกใช้การเดินทางด้วยแท็กซี่



Colosseum

ที่เที่ยวอิตาลี Colosseum


อยากได้ภาพที่เที่ยวอิตาลีที่อลังการต้องมาถ่ายภาพที่ Colosseum หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ตั้งอยู่ใจกลางโรม ที่นี่คือสนามกีฬาโบราณสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสเปเซี่ยนแห่งจักรวรรดิโรมัน โดยความโดดเด่นคืออัฒจันทร์รูปวงกลมที่ก่อด้วยอิฐและหินทราย มีความใหญ่โตเป็นอย่างมากเพราะมีเส้นรอบวงประมาณ 527 เมตร ความสูงประมาณ 57 เมตร สามารถบรรจุคนได้มากถึง 50,000 คน มาถึงแล้วต้องถ่ายภาพทั้งด้านในอัฒจันทน์และด้านนอกเพื่อให้เห็น Colosseum สุดยิ่งใหญ่


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/panGmZkVBeRouJER6
ค่าผ่านประตู : ราคาค่าตั๋วเข้าชมประมาณ 12 ยูโร
วันเวลา ปิด – เปิด : เปิดให้บริการทุกวัน โเวลา 8.30 น. - 19.00 น.
การเดินทาง : เดินทางโดยรถไฟใต้ดินจากสถานี Termini line B มาที่สถานี Piramide ซึ่งอยู่ห่างจาก Colosseum ประมาณ 260 เมตร หรือจะเลือกเดินทางด้วยบัส โดยสถานีบัสที่ใกล้ที่สุดคือ Ostiense/Matteucci ซึ่งอยู่ห่างจาก Colosseum ประมาณ 220 เมตร
เว็บไซต์ : www.colosseo.it



Basilica di Santa Maria Maggiore

ที่เที่ยวอิตาลี Basilica di Santa Maria Maggiore


Basilica di Santa Maria Maggiore เป็นหนึ่งในสี่ของมหาวิหารเอกของคริสตจักรโรมันคาทอลิคที่มีความเก่าแก่มากที่สุดในกรุงโรม และยังเป็นมหาวิหารแห่งเดียวในโรมที่ยังคงลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมที่สร้างเอาไว้ มาถึงที่นี่ต้องเดินสำรวจความงดงามภายในโบสถ์ เยี่ยมชมสุสานของบุคคลสำคัญอย่างสมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 5 และหากอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เพิ่มเติมอย่าลืมที่เดินเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่จัดอยู่ในมหาวิหารอันงดงามแห่งนี้


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/2PpaNC9sQi2xkzZn8
วันเวลา ปิด – เปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 7.00 น. - 19.00 น.
การเดินทาง : เดินทางด้วยการใช้ Metro line B มาลงที่สถานี Cavour แล้วเดินไปไม่ไกลจากสถานี โดยทางเข้ามหาวิหารอยู่ที่ Piazza di Santa Maria Maggiore
เว็บไซต์ : www.basilicasantamariamaggiore.va/it.html



Grand Canal, Venice

ที่เที่ยวอิตาลี Grand Canal, Venice


สถานที่ท่องเที่ยวอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งความรักและสายน้ำ คลองแกรนด์คาแนล เสถานที่ท่องเที่ยว Venice ที่มีชื่อเสียง ตัวแม่น้ำมีความยาว 3,800 เมตร โดยมีลักษณะคดเคี้ยวเป็นรูปตัว S ไหลผ่านแลนด์มาร์กสำคัญหลายที่ ได้แก่ พระราชวังปาลัซซี บาร์บาโร่ อาคารพิพิธภัณฑ์ Museo di Storia Naturale di Venezia ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระราชวังเก่า Fondaco dei Turchi โบสถ์ Chiesa di San Geremia รวมไปจนถึง อาคารเก่าแก่ของเวนิสที่มีอายุกว่า 100 ปี ซึ่งได้เรียงรายอย่างสวยงามตามทางแม่น้ำ กิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวคือการล่องเรือกอดโดล่าชมเมืองที่สุดแสนจะโรแมนติกแห่งนี้


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/4v7j8LDo8ZSWR6qt9
การเดินทาง : ใช้รถไฟมาที่สถานีรถไฟซานตาลูเซีย ซึ่งอยู่ติดกับทะเลสาบของต้นทางของคลองหลัก Grand Canal



Pantheon

ที่เที่ยวอิตาลี Pantheon


สัมผัสความอลังการและความยิ่งใหญ่ของ Pantheon เทวสถานศักดิ์สิทธิ์ในกรุงโรมที่มีสถาปัตยกรรมงดงามตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้าเป็นมุขเหมือนวิหารกรีก มีเสาหินแกรนิตแบบคอรินเธียนขนาดใหญ่ 8 ต้นตั้งเรียงกัน ส่วนด้านในวิหารนั้นมีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอกคล้ายถังน้ำมันขนาดใหญ่ เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของการออกแบบของวิหารแห่งนี้คือออคโลคัส ซึ่งเป็นช่องวงกลมขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 ฟุตที่อยู่บริเวณตรงกลางโดมโค้งมนภายในตัวอาคาร เป็นจุดถ่ายรูปที่แสงอาทิตย์อาบส่องลงมาราวกับมีเวทมนตร์สะกด


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/t23jZZRfWWgKiKbt5
การเดินทาง : ใช้รถไฟใต้ดินในการเดินทางให้เลือก Line A มาที่สถานี Barberini ที่อยู่ห่างจาก Pantheon ไปประมาณ 1.21 กิโลเมตร ส่วนถ้าหากเลือกใช้บัสในการเดินทาง สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานี Argentina ที่อยู่ห่างจาก Pantheon ไปประมาณ 380 เมตร



St. Mark’s Basilica

ที่เที่ยวอิตาลี St. Mark’s Basilica


มหาวิหารสำคัญแห่งเมืองเวนิส St. Mark’s Basilica มหาวิหารแห่งนี้ผสานศิลปะของหลายยุคไว้ด้วยกัน ตั้งแต่ไบเซนไทน์ โรมาเนสก์ โกธิค จนถึงเรอเนสซองซ์ ห้ามพลาดที่จะเดินสำรวจชมความงดงามแต่ละจุด ตั้งแต่การประดับโมเสกสีทองประดับด้วยหินสีมีค่าครอบคลุมกว่า 4,000 ตารางเมตร จึงได้รับสมญานามว่า Church of Gold ภายในมหาวิหารยังมีแท่นบูชาบรรจุร่างของนักบุญมาร์ค ส่วนด้านหลังของแท่นบูชาคือ ปาลา โดโร เป็นภาพชีวิตของพระเยซูที่ทำด้วยทองคำลงยา 255 แผ่น ตลอดจนภาพเขียนเก่าแก่อื่นๆ หลายภาพที่ประดับด้วยทองคำและอัญมณีล้ำค่ามากมาย


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/VjGkMtZMS8khGf3H8
ค่าผ่านประตู : ค่าบริการสำหรับการเข้าชมในส่วนของมหาวิหารนั้นฟรี แต่สำหรับพิพิธภัณฑ์เซนต์มาร์คมีค่าตั๋วเข้าชมประมาณ 5 ยูโร
วันเวลา ปิด – เปิด : วันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 9.30 น.- 17.00 น. วันอาทิตย์และวันหยุดนั้น เวลา 14.00 น. - 16.30 น.
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟซานตาลูเซีย สามารถเลือกใช้การเดินเท้าไปที่จัตุรัสซันมาร์โกซึ่งเป็นแลนด์มาร์คหลักของเมืองเวนิสหรือจะเลือกเดินไปที่ Grand Canal ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อใช้บริการการขนส่งทางน้ำเพื่อไปยังจัตุรัสซันมาร์โก
เว็บไซต์ : www.basilicasanmarco.it



Tuscany

ที่เที่ยวอิตาลี Tuscany


ทัสคานี คือ พื้นที่ชานเมืองอิตาลีทางตอนเหนือแสนอบอุ่น เป็นต้นกำเนิดของสถาปัตยกรรมยุคเรอเนสซองซ์ที่มีกิมมิคเฉพาะตัวของทัศนียภาพเนินเขาเล็ก ๆ ที่วางตัวกระจัดกระจายทั่วทุ่งหญ้าโล่ง และต้นไซปรัสตั้งต้นสูงเด่นเป็นสง่าบนเนินเขา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของแคว้นแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีเมืองสำคัญ ๆ กระจายตัวอยู่ เช่น เมืองคอร์โทนา เมืองเก่าแก่ ที่สั่งสมอารยธรรมโบราณของชาวอิทรูเรียเอาไว้ โดยสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่พิพิธภัณฑ์ Museo dell’Accademia Etrusca หรือเมืองเซียนนา ที่ควรเริ่มจากทางเดินตามตรอกซอยเล็ก ๆ ผ่าน Loggia Della Mercanzia ไปจนพบกับ Piazza Del Campo ลานสาธารณะที่เก่าแก่ที่ตั้งของสภาโรมันในอดีต


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/SVuwHDC18Lz3KYhn9
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูงจากโรม มิลาน เวนิส หรือปิซ่า



Monreale Cathedral

ที่เที่ยวอิตาลี Monreale Cathedral


โบสถ์มอนเรอาเลแห่งเมืองมอนเรอาเล ตั้งอยู่บนเนินเขาทางตอนใต้ของเมืองพาเลอร์โมบนเกาะซิซิลี่ ของอิตาลี เป็นโบสถ์โมเสคที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากโบสถ์ Hagia Sophia ของตุรกี ภายในโบสถ์โดดเด่นด้วยการตกแต่งด้วยแผ่นโมเสคทองคำสวยงามอร่ามตา ตลอดทั่วทั้งเพดาน และผนังโบสถ์ จุดเด่นที่สุดภายในโบสถ์คือโมเสครูปพระเยซู ซึ่งประดับเป็นรูปโค้งขนาดใหญ่บนเพดานเหนือแท่นพิธี


พิกัด : ​​https://maps.app.goo.gl/EKSuALs2UqUm2NXw6
วันเวลา ปิด – เปิด : วันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 09:00 - 12:45, 14:00 - 17:00 น. วันอาทิตย์ เวลา 14:00 - 17:00 น.
การเดินทาง : นั่งรสบัสสาย 389
เว็บไซต์ : www.duomomonreale.com



Spanish Steps

ที่เที่ยวอิตาลี Spanish Steps


บันไดสเปน บันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรป ประดับตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยรูปปั้นแกะสลัก และแวดล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมันสุดคลาสสิค เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใจกลางกรุงโรมที่มีชื่อเสียงก้องโลก ซึ่งที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่สำหรับชมความงดงามของตัวบันไดเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมอีกมากมายที่รอให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัส ทั้งจิบกาแฟที่คาเฟ่เก่าแก่ ช็อปปิ้งร้านแบรนด์ดัง แต่ที่พลาดไม่ได้คือถ่ายภาพตามรอยซีรีส์อย่าง Emily in Paris ที่มีบันไดสเปนเป็นฉากในเรื่องตอน Emily ไปเที่ยวที่โรมอีกด้วย


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/uoN8avwBc8Hzm11k6
การเดินทาง : เดินทางโดยรถไฟใต้ดินลงสถานี Spagna



Alberobello

ที่เที่ยวอิตาลี Alberobello


อัลเบโรเบลโล หมู่บ้านอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี ซึ่งตั้งอยู่ใน แคว้นปูลยาทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ บ้านตรูลี บ้านทรงกรวยเป็นเอกลักษณ์ และอนุรักษ์เป็นอย่างดีจนถึงปัจจุบัน จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1996 โดยบ้านบางหลังยังเปิดเป็นเกสเฮ้าส์รองรับนักท่องเที่ยว บ้างก็เปิดเป็นร้านค้าของที่ระลึก บ้างก็เป็นร้านอาหาร บรรยากาศน่ารักราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Lpx5KEV2dBXPkszc9



Burano

ที่เที่ยวอิตาลี Burano


บูราโน คือ เกาะเล็ก ๆ ทางทิศเหนือของเกาะเวนิสไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตรที่ใช้เวลาเที่ยงแค่ครึ่งวันก็รอบเกาะแล้ว จุดเด่นของบูราโนคือบ้านเมืองหลากสีสันที่เดินไปทางไหนก็ถ่ายรูปสวย สามารถแวะชิมอาหารทะเลสด ๆ เพราะที่นี่ในอดีตประกอบอาชีพประมง แวะช็อปปิ้งที่ร้านขายผ้าลูกไม้ตั้งอยู่จำนวนมาก เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องหัตถกรรมการทำผ้าลูกไม้มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 จากนั้นเดินเล่นต่อที่หอเอนหรือหอนาฬิกาของโบสถ์ Church of St. Martin ที่มีสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกผสมเรเนสซองส์


พิกัด : https://maps.app.goo.gl/evyV9Lf1pqxoQwsJ6
การเดินทาง : เดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่จากบริเวณ Grand Canal เวนิสมาที่ท่าเรือเฟอร์รี่ของ Burano แล้วเดินเท้าเพื่อชมเมืองได้

จดลิสต์สถานที่ท่องเที่ยวอิตาลีที่ต้องไปและกิจกรรมที่ต้องทำเมื่อไปเที่ยวอิตาลีแล้ว เตรียมตัวฟิตติ้งเสื้อผ้าหน้าผมไปถ่ายรูปกับทุก ๆ แลนด์มาร์ค แล้วอย่าลืมพกบัตร Krungthai Travel Debit Card บัตรที่นักเดินทางต้องพกติดตัว ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับคนชอบเที่ยว

  • รับเครดิตเงินคืนจุกๆ 0.1% สูงสุด 5,000 บาท/ปี จากการรูดใช้จ่ายในต่างประเทศ ด้วยสกุลเงินต่างประเทศ สะสมทุกๆ 30,000 บาท/เดือน ไม่จำกัดสิทธิ์ ไม่ต้องลงทะเบียน ตั้งแต่ 19 ก.ย. 67 ถึง 31 ธ.ค. 67 และ รับเครดิตเงินคืน 0.5% สูงสุด 5,000 บาท/ปี ตั้งแต่ 1 ม.ค. 68 ถึง 31 ธ.ค. 68
  • แลกเงินไว้พร้อมรับดอกเบี้ยสูงสุด 2.5% ผ่านบัญชี Global Savings กับ 6 สกุลเงิน USD, GBP, EUR, AUD, NZD, CNY
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศที่ดีที่สุด รองรับ 20 สกุลเงิน ได้แก่ AED, AUD, CAD, CHF, CNY, DKK, EUR, GBP, HKD, INR, JPY, KRW, NOK, NZD, SAR, SEK, SGD, TWD, USD และ QAR
  • ใช้จ่ายผ่านบัตรไม่เสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5%
  • สามารถแลกเงินและจัดการบัตรง่าย ๆ ตลอด 24 ชม. ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
  • สิทธิประโยชน์จากร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วโลก ส่วนลดพิเศษ, เครดิตเงินคืน หรือบริการพิเศษ จากร้านค้าชั้นนำที่ธนาคารและ Mastercard Travel Reward คัดสรรมานำเสนอตลอดทั้งปี
  • สมัครวันนี้ ยกเว้นค่าธรรมเนียมออกบัตร และรายปี(ปีแรก) รวมมูลค่า 1,000 บาท เมื่อคงสถานะเป็นลูกค้า Krungthai Wealth ของธนาคาร หรือ ลูกค้าเดิมที่ถือบัตรเรียนเชิญ Krungthai Travel Visa Platinum

20 ที่เที่ยวอิตาลี เมืองแห่งศิลปะและประวัติศาสตร์ยุโรป | ธนาคารกรุงไทย เที่ยวอิตาลีทั้งทีต้องเก็บให้ครบทุกแลนด์มาร์คสำคัญ ทั้งด้านประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และศิลปะยุโรป มาเช็กอินพร้อมกับกรุงไทยได้เลย

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง