ไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม ใช้เงินเท่าไหร่ และต้องเตรียมอะไรบ้าง?
หากพูดถึงทริปในฝัน “ดินแดนอาทิตย์อุทัย” ต้องเป็นหนึ่งในประเทศยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวอยากลัดฟ้าไปพักผ่อน นอกจากบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นผสานกับความสวยงามแล้ว ประเทศญี่ปุ่นยังเป็นแหล่งรวมอาหารชั้นเลิศ อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมที่น่าจดจำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราที่ได้ไปเที่ยวนั้นยากที่จะลืม
เพื่อให้ทริปในฝันของคุณเกิดขึ้นจริง กรุงไทยขอพานักเดินทางทุกท่านเตรียมความพร้อมก่อนลัดฟ้าสู่แดนปลาดิบ ด้วยคู่มือก่อนเดินทางที่รวมเกร็ดต้องรู้ให้ได้เตรียมตัว เช่น ไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไหร่?, ไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม? บอกเลยว่าคู่มือฉบับนี้จะติวให้คุณพร้อมบินได้อย่างแน่นอน
เตรียมความพร้อมก่อนทะยานสู่ประเทศญี่ปุ่น
อยากจะเที่ยวแดนปลาดิบทั้งทีต้องเตรียมตัวกันหน่อย จะได้มีทริปในฝันสุดหรรษาแบบไร้กังวล ถ้าพร้อมออกเดินทางแล้ว หยิบกระดาษและปากกาเตรียมจดเช็กลิสต์ที่ไม่ควรพลาดก่อนทะยานฟ้าสู้ประเทศญี่ปุ่นไปด้วยกัน
ไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม? รู้เร็วเตรียมตัวทัน
ใครที่วางแผนอยู่เที่ยวไม่เกิน 15 วัน คำตอบคือ “ไม่ต้องขอวีซ่า” ในการเดินทางเข้าญี่ปุ่น เพราะทางการญี่ปุ่นเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวด้วยการมอบวีซ่าฟรีให้เป็นเวลา 15 วันนั่นเอง ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศญี่ปุ่นเองแถมเป็นการเปิดโลกทางวัฒนธรรมให้นักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ได้ดื่มด่ำกับเสน่ห์ที่น่าจดจำด้วยเช่นกัน
ในกรณีนักเดินทางที่ต้องการอยู่มากกว่า 15 วัน จำเป็นต้องขอวีซ่าตามประเภทของตนเอง และถ้าใครฝ่าฝืนในระเบียบนี้ จะมีโทษห้ามเข้าญี่ปุ่นขั้นต่ำ 1 ปีขึ้นไป เพราะฉะนั้นวางแผนการเดินทางของเราให้ดี จะได้เที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างเพลิดเพลิน
“พาสปอร์ต” ไอเทมสำคัญในต่างแดน
เมื่อทราบคำตอบแล้วว่าไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม? ลำดับถัดมาคือการเตรียมพาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทางในต่างแดนนั่นเอง โดยพาสปอร์ตจะเป็นหนังสือในการยืนยันตัวตนแก่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองว่าเรานั้นเป็นนักเดินทางสัญชาติไทยที่มาท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง
ซึ่งก่อนออกเดินทาง นักท่องเที่ยวทุกท่านต้องตรวจเช็กให้ดีว่าเรานั้นมีหนังสือเดินทางหรือยัง? ถ้ามีแล้วพาสปอร์ตเล่มนั้นมีอายุน้อยกว่า 6 เดือนหรือไม่? หากเช็กแล้วเราขาดข้อใดข้อหนึ่งไป ก็สามารถมาทำหนังสือเดินทางได้ที่กรมการกงสุล หรือสำนักงานหนังสือเดินทางทั่วประเทศ โดยมีค่าใช้จ่ายในการทำพาสปอร์ตเริ่มต้นที่ 1,000 บาท สำหรับ 5 ปี และ ราคา 1,500 สำหรับ 10 ปี ซึ่งเราสามารถเลือกระยะเวลาตามต้องการได้เลย
ตั๋วเครื่องบิน
มีตั๋วเครื่องบินมุ่งสู่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว สิ่งสำคัญเลยคือการเก็บติดตัวและรักษาไว้ให้ดี อย่าเผลอทิ้งเป็นอันขาด เพราะเราต้องใช้ตั๋วเครื่องบินในการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง โดยเราจะใช้ข้อมูลจากตั๋วเครื่องบิน ในการกรอกลงทะเบียนบนเว็บไซต์ Visit Japan Web ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลากระบวนการทางศุลกากร รวมถึงขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นด้วยนั่นเอง
เอกสารการจองที่พัก
หลังจากซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว วางแผนการเดินทางรวมถึงระยะเวลาในการอยู่อาศัยในประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อย สิ่งสำคัญลำดับถัดมาคือ “การจองที่พัก” ล่วงหน้าให้เรียบร้อย เพราะส่วนนี้จะนำมาใช้เป็นหลักฐานในการยืนยันตนต่อเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
นักท่องเที่ยวห้ามลืม Visit Japan Web เด็ดขาด
"Visit Japan Web" คือเว็บไซต์ที่พัฒนาขึ้นโดยรัฐบาลญี่ปุ่น เป็นการกรอกใบตรวจคนเข้าเมืองในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับนักเดินทางทุกท่านให้ได้เตรียมตัวก่อนเดินทาง และช่วยลดขั้นตอนทางศุลกากรในการตรวจคนเข้าเมืองนั่นเอง
โดยนักเดินทางสามารถเข้าไปทำการลงทะเบียนได้ที่ vjw-lp.digital.go.jp พร้อมข้อมูลเอกสารประกอบการเดินทางอย่าง พาสปอร์ต, ตั๋วเครื่องบิน และรายละเอียดการจองที่พักในประเทศญี่ปุ่น เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อย ก็เตรียมตัวเดินทางสู่ทริปในฝันได้เลย
“บัตร Travel Card” ไอเทมที่ต้องมีในการท่องเที่ยวทริปในฝัน
แลกเงินบาทสู่เงินเยนแล้วก็จริง แต่จะดีกว่าไหมถ้ามีบัตร Travel Card เป็นเพื่อนคู่ใจในการเดินทาง ลดความเสี่ยงต่อการถือเงินจำนวนมากระหว่างเดินทาง อีกทั้งยังแลกเงินเก็บไว้ในอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดได้อีกด้วย และสามารถจ่ายผ่านบัตรได้ที่ ATM หรือร้านค้าที่รับบัตร Visa ทั่วโลกภายใต้สกุลเงินที่รองรับได้ เรียกว่าสานฝันทริปหรรษาให้เพลิดเพลินได้อย่างไร้รอยต่อด้วยบัตรใบเดียว
และกรุงไทยเองก็มีบริการบัตร Travel Card มาเอาใจนักเดินทางทุกท่าน ตอบโจทย์ทุกการเดินทางอย่างครอบคลุมทั่วโลก พร้อมีเครดิตเงินคืนสูงสุด 5,000บาท ต่อปี แลกเเงินไว้ก็ได้รับดอกเบี้ยสูงสุดถึง 2.5% จากบัญชี Global Savings และใช้จ่ายสบายไม่เสียค่าธรรมเนียม ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5% รองรับบริการโอนเงิน และชำระเงินด้วย QR Code ในต่างประเทศด้วยเงินสกุลเงินที่แลกเก็บไว้ในบัตรได้อีกด้วย
อยากไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไร? บทความนี้มีคำตอบ
เตรียมตัวสเต็ปแรกเรียบร้อยแล้ว การทะยานสู่ทริปในฝันลำดับถัดมาคือการตอบคำถามที่ว่าไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไร? แน่นอนว่ารูปแบบทริปในฝันของแต่ละคนนั้นมีมุมมองที่ต่างกันออกไป บางคนก็อยากท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ บางคนก็อยากไปแหล่งเช็กอินสุดฮอต บางคนก็อยากตามรอยแอนิเมชันในดวงใจ นั่นแปลว่าราคาของทริปเที่ยวญี่ปุ่นนั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบการท่องเที่ยวของเรา และไม่มีราคาที่แน่นอน
ถึงแม้ราคาของทริปในฝันจะมีความผันผวนไปตามความต้องการของแต่ละคน แต่ก็ใช่ว่าจะไกด์ทางสู่การคำนวณค่าใช้จ่ายไม่ได้เลย กรุงไทยจะมาช่วยหาคำตอบที่ว่าไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไร? กับปัจจัยสำคัญในการเดินทางครั้งนี้ มีอะไรบ้างที่ต้องเตรียมตัว มาดูพร้อมกันเลย
ไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไรกับค่าตั๋วเครื่องบิน
เริ่มต้นด้วยค่าเดินทางข้ามประเทศกับราคาตั๋วเครื่องบินไป - กลับญี่ปุ่น ซึ่งราคาส่วนนี้มีความแตกต่างกันออกไปตามสายการบิน รวมถึงค่าบริการต่าง ๆ โดยชั้นประหยัดในปี 2567 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังประเทศญี่ปุ่น ราคาเริ่มต้น 7,000 บาท ซึ่งบางครั้งอาจมีโปรโมชันฟ้าแล่บจากสายการบินหรือเอเย่นต์ ทำให้เราได้ราคาเครื่องบินที่ถูกกว่านี้ได้อีกเช่นกัน
ไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไรกับค่าที่พัก
ที่พักในประเทศญี่ปุ่นมีหลากหลายรูปแบบให้ได้เลือกสรรตามความต้องการ จะเป็นโฮสเทล หรือโรงแรมชั้นนำก็มีพร้อมให้เราได้เลือกอาศัยชั่วคราว โดยที่พักในแต่ละที่มีราคาแตกต่างกันไปในแต่ละเมืองและฤดูกาล
ด้วยความที่ปัจจุบันนี้มีรูปแบบที่พักในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลากหลายมากขึ้น เป็นผลให้เมืองท่องเที่ยวอย่างโอซาก้า, โตเกียว, ฟุกุโอะกะ, นาโกย่า และอื่น ๆ มีราคาที่พักเริ่มต้นในราคาหลักร้อย ไปจนถึงหลักหมื่น โดยสามารถดูรายละเอียดราคาเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์เอเย่นต์การท่องเที่ยวเพิ่มเติมอย่าง Skyscanner หรือ Agoda เพื่อตามหาที่พักที่ตอบโจทย์ต่องบประมาณเราที่สุด
ไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไรกับค่าเดินทางในประเทศ
การคมนาคมที่ญี่ปุ่นนั้นเลื่องชื่ออย่างมาก สะดวกสบายแก่ผู้เดินทางสุด ๆ อีกหนึ่งเสน่ห์ของการเดินทางในญี่ปุ่น คือการเดินทางด้วยรถไฟ ซึ่งตั๋วรถไฟ JR PASS นั้นเริ่มต้น 700 บาท/คน นักเดินทางสามารถคำนวณงบประมาณเบื้องต้นได้จากแผนการท่องเที่ยวของเราเองว่าจะเดินทางไปที่ไหน อย่างไรบ้าง เพียงเท่านี้ก็สามารถกะงบประมาณด้านการเดินทางในญี่ปุ่นได้แล้ว
ไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไรกับค่าอาหาร
อาหารเลิศรสในญี่ปุ่นนั้นมีให้คุณเลือกสรรไม่น้อย โดยเฉพาะอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่ออย่าง ราเมน หรือ ซูชิ เฉลี่ยตกมื้อละ 200 – 700 บาทต่อคนได้ เพื่อการคำนวณงบประมาณก่อนเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองมองหารีวิวร้านอาหารในญี่ปุ่นเบื้องต้น เพื่อศึกษาราคา และอาจเป็นอีกหนึ่งทริคในการวางแผนการท่องเที่ยวของคุณได้
ไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไรกับค่าบัตรเข้าชม สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
ประเทศญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจให้เราได้ไปเยือนในแต่ละเมืองมากมาย เพื่อให้คุณได้วางแผนงบประมาณการท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น เราจะมาไกด์ให้คุณได้รู้ก่อนเตรียมตัวออกเดินทาง
เมือง | สถานที่ | ราคาบัตรเริ่มต้น (บาท) |
โอซาก้า
|
พิพิธภัณฑ์ปราสาทโอซาก้า
|
160
|
โอซาก้า | ยูนิเวอร์แซล โอซาก้า |
2,160
|
โตเกียว | จุดชมวิวโตเกียวสกายทรี | 450 |
ฟุกุโอกะ | ฟุกุโอกะทาวเวอร์ | 180 |
ฟุกุโอกะ | ธีมปาร์คฮูสเทนบอช | 260 |
โอกินาว่า | พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ | 560 |
ซัปโปโร | จุดชมวิวซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ | 220 |
ไปญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไรกับค่าของฝาก
ปิดท้ายด้วยของฝากจากญี่ปุ่น ด้วยความที่ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศท่องเที่ยว ที่มีนักเดินทางแวะเวียนเยี่ยมชมบ่อยครั้ง ทำให้มีของที่ระลึกให้เลือกเยอะมากมาย ไม่ว่าจด้านวัฒนธรรม, การ์ตูนชื่อดัง, เครื่องสำอาง, ของเล่นและของสะสม รวมไปถึงของกิน
ซึ่งเป็นแหล่งละลายทรัพย์ชั้นดีให้คุณก่อนกลับบ้าน เพราะฉะนั้นคุณสามารถตั้งงบประมาณส่วนนี้ก่อนไปได้เลยว่าของฝากก่อนกลับนั้นมีงบประมาณไม่เกิน 3,000 บาท เพื่อให้แผนการซื้อของฝากของคุณเป็นไปตามแผนมากยิ่งขึ้น ลองศึกษาราคาของฝากต่าง ๆ ของญี่ปุ่นในเว็บไซต์ก่อน เพื่อคำนวณงบส่วนนี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
การเตรียมตัวทะยานฟ้าสู่ประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงมีบทความนี้เป็นเพื่อนคู่ใจก่อนออกเดินทาง ก็จะช่วยเสริมความมั่นใจได้ว่าทริปในฝันครั้งนี้สนุกได้อย่างไร้รอยต่อ เพราะเราได้รวมเกร็ดที่ต้องรู้ก่อนเดินทางสู่ประเทศญี่ปุ่นไว้ให้คุณแล้ว
เพื่อให้การเดินทางสู่แดนปลาดิบนั้นสนุกยิ่งขึ้น อย่าลืมเตรียมไอเทมสำคัญอย่างบัตร Krungthai Travel Debit Card ใช้จ่ายสบายไม่เสียค่าธรรมเนียมในต่างแดน ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง เป็นเพื่อนคู่ใจของคุณได้ตลอดทริป ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับคนชอบเที่ยว
- รับเครดิตเงินคืนจุกๆ 0.1% สูงสุด 5,000 บาท/ปี จากการรูดใช้จ่ายในต่างประเทศ ด้วยสกุลเงินต่างประเทศ สะสมทุกๆ 30,000 บาท/เดือน ไม่จำกัดสิทธิ์ ไม่ต้องลงทะเบียน ตั้งแต่ 19 ก.ย. 67 ถึง 31 ธ.ค. 67 และ รับเครดิตเงินคืน 0.5% สูงสุด 5,000 บาท/ปี ตั้งแต่ 1 ม.ค. 68 ถึง 31 ธ.ค. 68
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศที่ดีที่สุด รองรับ 20 สกุลเงิน ได้แก่ AED, AUD, CAD, CHF, CNY, DKK, EUR, GBP, HKD, INR, JPY, KRW, NOK, NZD, SAR, SEK, SGD, TWD, USD และ QAR
- แลกเงินไว้พร้อมรับดอกเบี้ยสูงสุด 2.5% ผ่านบัญชี Global Savings กับ 6 สกุลเงิน USD, GBP, EUR, AUD, NZD, CNY
- ใช้จ่ายผ่านบัตรไม่เสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5%
- สามารถแลกเงินและจัดการบัตรง่าย ๆ ตลอด 24 ชม. ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
- สิทธิประโยชน์จากร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วโลก ส่วนลดพิเศษ, เครดิตเงินคืน หรือบริการพิเศษ จากร้านค้าชั้นนำที่ธนาคารและ MasterCard คัดสรรมานำเสนอตลอดทั้งปี
- สมัครวันนี้ ยกเว้นค่าธรรมเนียมออกบัตร และรายปี(ปีแรก) รวมมูลค่า 1,000 บาท เมื่อคงสถานะเป็นลูกค้า Krungthai Wealth ของธนาคาร หรือ ลูกค้าเดิมที่ถือบัตรเรียนเชิญ Krungthai Travel Visa Platinum