เรียนรู้การเงิน

เที่ยวญี่ปุ่นควรรู้ วิธีทำ Tax Refund ที่ญี่ปุ่น ซื้อของยังไงให้ได้เงินคืน

อัพเดทวันที่ 10 ก.ค. 2567

วิธีทำ Tax Refund ญี่ปุ่น ซื้อของยังไงให้ปลอดภาษี

ประเทศญี่ปุ่นนับเป็นประเทศในเอเชียที่คนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว หลายคนถึงขั้นปักหมุดว่าต้องไปเที่ยวญี่ปุ่นทุกปีให้ได้ เพราะนอกจากประเทศญี่ปุ่นจะเต็มไปด้วยสถานที่ทางธรรมชาติที่สวยงาม มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ที่ประเทศญี่ปุ่นยังถือว่าเป็นสวรรค์ของนักช็อป เพราะมีสินค้าให้เลือกหลากหลายที่ล้วนมีการออกแบบที่แสดงออกถึงความเป็นญี่ปุ่นแบบสุด ๆ

ซึ่งสิ่งสำคัญที่นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องรู้ คือ วิธีทำ Tax Refund ญี่ปุ่น หรือการขอคืนภาษี ตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้ประหยัดเงิน แถมเหลือเงินไป กิน เที่ยว ช้อป อื่นๆในญี่ปุ่นได้มากขึ้นอีกด้วย


Tax Refund คืออะไร

Tax Refund คือ ภาษีที่นักท่องเที่ยวจะได้รับคืนเมื่อซื้อสินค้าจากรัฐบาลของประเทศนั้น ๆ แต่หากเป็นประชาชนของประเทศนั้นจะต้องจ่ายราคาสินค้าเต็มจำนวน ซึ่งสินค้าที่วางขายอยู่ในห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าต่าง ๆ โดยส่วนมากจะมีการบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax หรือ VAT) ทั้งนี้การเสียภาษีมูลค่าเพิ่มของแต่ละประเทศจะแตกต่างกันออกไป ตัวอย่าง ประเทศไทยจะเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%

สำหรับประเทศญี่ปุ่นเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้บริโภคที่อัตรา 8% แต่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อแบบ Tax Free แบบปลอดภาษี หรือขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 8% ได้ ซึ่งระบบนี้ประเทศญี่ปุ่นเริ่มประกาศใช้ Japan Tax Refund มาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2557 เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ


ใครบ้างที่ขอ Tax Refund ญี่ปุ่นได้

ระบบ Japan Tax Refund หรือการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มีไว้สำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ดังนั้นผู้ที่สามารถขอยกเว้นภาษีได้ต้องเป็นผู้ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น โดยผู้ที่มีคุณสมบัติได้รับการยกเว้นภาษี Tax Refund ญี่ปุ่นมีดังนี้

  1. นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน (นับตั้งแต่วันที่เดินทางเข้าประเทศ)
  2. บุคคลสัญชาติญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นชั่วคราว ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน
  3. บุคคลที่ถือหนังสือเดินทางที่มีสิทธิในการอาศัยในสถานะนักการทูต หรือข้าราชการ (มีสิทธิอาศัยเกิน 6 เดือนหลังจากวันที่เข้ามายังประเทศญี่ปุ่น)

ใครบ้างที่ไม่สามารถทำเรื่อง Tax Refund ญี่ปุ่นได้

  1. ผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ระยะเวลาเกิน 6 เดือน
  2. ผู้ที่ทำงานในประเทศญี่ปุ่น
  3. นักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้าในร้าน Tax Refund ญี่ปุ่น แต่ยอดชำระสินค้าไม่ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

สินค้าที่ขอ Tax Refund ญี่ปุ่นได้และจำนวนขั้นต่ำที่ต้องซื้อ

สินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือ Tax Refund ของญี่ปุ่น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ สินค้าทั่วไป (General Items) และสินค้าสิ้นเปลืองหรือสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumables) ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้กำหนดยอดชำระสินค้าที่แตกต่างกัน ดังนี้

  1. Tax Refund ญี่ปุ่นสินค้าทั่วไป (General Items) เช่น กล้อง กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า นาฬิกา เครื่องประดับ ฯลฯ นักท่องเที่ยวจะต้องมียอดชำระค่าสินค้า Tax Refund ญี่ปุ่นรวมกันโดยต้องซื้อในร้านค้าเดียวกันตั้งแต่ 5,000 เยน ขึ้นไป ต่อวัน ต่อคน (ราคาสินค้าไม่นับรวมภาษี)
  2. Tax Refund ญี่ปุ่นสินค้าสิ้นเปลือง หรือสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumables) เช่น ขนม อาหาร ยา นักท่องเที่ยวจะต้องมียอดชำระค่าสินค้า Tax Refund ญี่ปุ่นรวมกัน โดยต้องซื้อในร้านค้าเดียวกัน ตั้งแต่ 5,000 แต่ไม่เกิน 500,000 เยน ต่อวันต่อคน

นักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้าในร้าน Tax Refund แต่ยอดชำระสินค้าไม่ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดก็ไม่สามารถขอ Japan Tax Refund ได้ ดังนั้นต้องวางแผนการช็อปปิ้ง โดยทำความเข้าใจเรื่องของกำหนดยอดชำระที่ขอ Tax Refund ได้

เอกสารในการขอ Tax Refund ญี่ปุ่น

เอกสารที่ใช้ขอ Tax Refund ที่ญี่ปุ่น

เอกสารที่ใช้ประกอบการขอยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือ Tax Refund ได้แก่ หนังสือเดินทาง (ต้องใช้ฉบับจริงเท่านั้น) และใบกำกับภาษี ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ปีพ.ศ. 2554 ขั้นตอนการขอยกเว้นภาษีเปลี่ยนไปดำเนินการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด จึงไม่จำเป็นต้องดำเนินขั้นตอนโดยเอกสารแบบกระดาษอีกต่อไป


ขั้นตอนวิธีทํา Tax Refund ญี่ปุ่น

การขอยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือ Tax Refund นั้น มี 2 กรณี คือ 1. ชำระเงินค่าสินค้าตามจริง โดยไม่ต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม และ 2. ชำระเงินค่าสินค้าตามจริงรวมภาษี แล้วขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีรายละเอียดดังนี้

Tax Refund ญี่ปุ่น กรณีที่ 1 ชำระเงินค่าสินค้าตามจริง โดยไม่ต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้นักท่องเที่ยวเลือกสินค้าที่ต้องการส่งให้กับพนักงานประจำร้าน พร้อมแนบ Passport ฉบับจริงและระบุกับพนักงานว่าต้องการทำ Tax Refund พนักงานจะทำการตรวจสอบรายละเอียด เช่น ชื่อ สัญชาติ วันเดือนปีเกิด วันที่เดินทางเข้าประเทศ ถ้าเอกสารใน Passport ถูกต้อง นักท่องเที่ยวสามารถชำระค่าสินค้าโดยไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งร้านค้าที่ใช้ระบบนี้มักจะเป็นร้านค้าขนาดเล็ก เช่น ร้านขายยา

Tax Refund ญี่ปุ่น กรณีที่ 2 ชำระเงินค่าสินค้าตามจริงรวมภาษี แล้วขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม

  1. นักท่องเที่ยวเลือกสินค้าที่ต้องการแล้วชำระเงินพร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม 8% จากนั้นนำสินค้าที่ชำระเงินแล้ว ใบเสร็จค่าสินค้า และ Passport ฉบับจริง นำไปยื่นที่ Tax Free Counter และแจ้งพนักงานว่าต้องการทำ Tax Refund พนักงานจะทำการตรวจสอบรายละเอียด เช่น ชื่อ สัญชาติ วันเดือนปีเกิด วันที่เดินทางเข้าประเทศ
  2. พนักงานจะบันทึกข้อมูลสินค้าลงใน “ใบบันทึกรายการสินค้าปลอดภาษีอากรขาออก” และจะนำใบบันทึกดังกล่าวติดไว้ใน Passport ผู้ซื้อสินค้าจะต้องเก็บไว้เป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสอบก่อนเดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่น
  3. ผู้ซื้อสินค้าจะต้องอ่านรายละเอียดที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และลงลายมือชื่อรับรองเอกสาร โดยมีข้อกำหนดให้ปฏิบัติตาม ดังนี้
    • ผู้ซื้อสินค้าจะนำสินค้าทั่วไปออกนอกประเทศ
    • ผู้ซื้อสินค้าจะไม่ใช้สินค้าอุปโภคบริโภคที่ซื้อมาในระหว่างที่พำนักอยู่ในประเทศญี่ปุ่น และจะนำออกไปนอกประเทศภายใน 30 วันหลังจากซื้อสินค้า
    • หากผู้ซื้อสินค้าไม่ได้นำสินค้าดังกล่าวติดตัวไปด้วยในวันที่เดินทางออกนอกประเทศก็ยินดีที่จะชำระค่าปรับทั้งหมด
  4. พนักงานดำเนินการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 8% ให้กับผู้ซื้อสินค้า โดยเมื่อคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว มูลค่าของสินค้าจะต้องไม่ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด มิฉะนั้น จะถือว่าการขอยกเว้นภาษีเป็นโมฆะ
  5. เมื่อผู้ซื้อสินค้าจะเดินทางออกนอกประเทศญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะทำการตรวจสอบ Passport และสินค้าที่ซื้อมา แล้วเก็บใบบันทึกรายการสินค้าปลอดภาษีอากรขาออก ซึ่งสินค้าที่ทำ Japan Tax Refund หรือการขอภาษีคืนนั้น ผู้ซื้อจะต้องเป็นผู้นำออกนอกประเทศทั้งหมด

ร้านค้าที่ขอ Tax Refund ญี่ปุ่นได้


ร้านค้าที่ขอ Tax Refund ญี่ปุ่นได้

ปัจจุบันทั้งร้านค้าเล็ก ๆ และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นก็รองรับระบบ Japan Tax Refund ดังนั้นก่อนซื้อสินค้าให้สังเกตป้ายสัญลักษณ์ Japan Tax-Free Shop หรือ Tax Refund หรือ Tax-Free ที่ส่วนใหญ่มักใช้ตัวอักษรสีแดงและสีขาว โดยร้านค้าส่วนใหญ่จะติดให้นักท่องเที่ยวเห็นอย่างชัดเจน

ตัวอย่างรายชื่อห้างสรรพสินค้าและร้านค้าที่สามารถขอ Tax Refund ได้ อาทิ Odakyu Shinjuku, Keio, Tobu Ikebukuro, Matsuya Ginza, Lumine Shinjuku, Don Quijote, Big camera, Matsumoto Kiyoshi และ Uniqlo เป็นต้น

และเพื่อจะช้อปได้อย่างมั่นใจที่ร้านค้าต่าง ๆ เหล่านี้ ที่ประเทศญี่ปุ่นสามารถใช้บัตร Krungthai Travel Card แลกเงินเรทดี รูดฟรีทั่วโลก ซื้อของได้

  • ส่วนลด ค่าธรรมเนียมการออกบัตร รวมสูงสุด 600 บาท ทั้งบัตรหลัก และบัตรเสริม
  • ฟรี! ไม่มีค่าธรรมเนียม ความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน 2.5%
  • สะดวก แลกเงินและจัดการบัตรง่าย ๆ ตลอด 24 ชม. ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
  • คุ้มครอง ประกันอุบัติเหตุจากการเดินทางทั้งในและต่างประเทศด้วยวงเงินประกันคุ้มครอง สูงสุด 6,000,000 บาท

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการขอ Tax Refund ญี่ปุ่น


Tax Refund กับ Duty Free ต่างกันอย่างไร

  • Tax Refund ญี่ปุ่นหรือ Tax Free ญี่ปุ่นคือ การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 8% สมมติว่าคนญี่ปุ่นซื้อสินค้า 1 ชิ้น ราคา 500 เยน เมื่อบวก VAT อีก 8% จะต้องชำระเงิน 540 เยน แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวจะสามารถซื้อได้ถูกกว่า ถ้าเข้าร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ Tax Refund หรือ Tax Free แล้วแจ้งพนักงานร้านว่าต้องการ Tax Refund ก็จะจ่ายแค่ 500 เยนเท่านั้น
  • Duty Free คือ สินค้าปลอดภาษีอากรที่ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า - ส่งออก ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสรรพสามิต โดยนักท่องเที่ยวไม่ต้องยุ่งยากไปทำเรื่องขอภาษีมูลค่าเพิ่มคืนเหมือนกับ Tax Refund ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถซื้อสินค้าต่าง ๆ ได้สะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งร้าน Duty Free ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในสนามบิน

บุคคลอื่นขอ Tax Refund ญี่ปุ่นแทนได้ไหม

คำตอบคือ “ไม่ได้” นักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้าจะต้องดำเนินการแจ้งทำ Tax Refund ด้วยตนเองเท่านั้น ไม่สามารถให้บุคคลอื่นทำแทนได้ เพราะจะต้องใช้ Passport ฉบับจริงของผู้ซื้อสินค้าประกอบการขอยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)


สินค้าที่ขอ Tax Refund ญี่ปุ่นนำมาใช้ระหว่างเที่ยวในญี่ปุ่นได้ไหม

ได้ ในกรณีที่เป็นสินค้าทั่วไป (General Items) เช่น กล้อง กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า นาฬิกา เครื่องประดับ ฯลฯ แต่ห้ามเด็ดขาดในกรณีที่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumables) เช่น อาหาร ขนมของฝากต่าง ๆ เครื่องดื่ม ยา หรือเครื่องสำอาง ฯลฯ เพราะเป็นสินค้าที่จะมีการสุ่มตรวจว่ามีของจริง ๆ

ทั้งนี้พนักงานขายจะบรรจุของใส่ในถุงสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นถุงที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถรู้ได้ทันทีเมื่อมีการเปิดถุง ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรสนามบินทำการสุ่มตรวจแล้วไม่พบสินค้า จะถือว่าการขอยกเว้นภาษีเป็นโมฆะ และต้องเสียภาษีส่วนต่างเพิ่มเติม


ลืม Passport ทำเรื่องขอคืนภาษีวันอื่นได้ไหม

ไม่ได้ เพราะการทำเรื่องขอภาษีคืนนั้นจำเป็นที่จะต้องทำภายในวันเดียวกันกับที่ซื้อสินค้านั้น ๆ เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องนำ Passport ติดตัวไปด้วยเสมอ และต้องไปทำเรื่องขอภาษีคืนจากร้านที่ซื้อสินค้านั้น ๆ มาเท่านั้น


หลังจากที่ทำเรื่องขอคืนภาษีเสร็จแล้ว ให้คนอื่นช่วยเอากลับไปแทนได้ไหม

สินค้า Japan Tax Refund ที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว นักท่องเที่ยวจะต้องถือกลับด้วยตนเองเท่านั้น ไม่สามารถยกให้บุคคลอื่นดำเนินการแทนได้ เพราะเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขอ Tax Refund จะติดอยู่กับ Passport และมีการตรวจเช็คโดยละเอียด

สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวไปเที่ยวญี่ปุ่น นอกจากการแพลนเรื่องของการเดินทาง ร้านอาหาร และที่พักล่วงหน้าแล้ว อีกหนึ่งข้อสำคัญคืออย่าลืมแพลนเรื่องการช็อปปิ้งหรือการซื้อของที่ประเทศญี่ปุ่นและขอ Tax Refund คืน ทั้งนี้สามารถซื้อสินค้าที่ประเทศญี่ปุ่นได้ง่าย ๆ แค่พกบัตร Krungthai Travel Card เพียงเท่านี้ก็ทำให้คุณช้อปปิงที่ญี่ปุ่นได้อย่างมั่นใจ และสนุกมากขึ้น หรือเข้ามาศึกษาและอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.krungthai.com

วิธีทำ tax refund ที่ญี่ปุ่น ซื้อของยังไงให้ปลอดภาษี | ธนาคารกรุงไทย Tax Refund คืออะไร สินค้าประเภทไหนขอคืนภาษีได้บ้าง พร้อมวิธีทำ tax refund ที่ญี่ปุ่นง่าย ๆ เพื่อให้คุณช้อปได้เพลิน ๆ แบบไร้กังวล