เรียนรู้การเงิน

เริ่มลงทุนหลักพัน รู้ตัวอีกทีมี 10 ล้าน

อัพเดทวันที่ 13 เม.ย. 2567

หลายคนอาจจะคิดว่า ความฝันในการมีเงินล้านหรือหลัก 10 ล้าน สำหรับคนที่เงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาท เป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าจะทำได้ อาจเป็นเพราะรู้สึกว่าการลงทุนเป็นเรื่องไกลตัวหรือไม่รู้จะเริ่มลงทุนอย่างไรหรือแต่ละบุคคลแต่ละครอบครัวอาจมีภาระและความรับผิดชอบที่แตกต่างกันในช่วงต้นของชีวิตการทำงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้


แต่ในอีกมุมรู้ไหมว่าการมีเงินล้านนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิดและสามารถมีเงินทุนสำหรับเกษียณอายุถึง 10 ล้านบาท หากเราเริ่มต้นลงทุนที่อายุ 26 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาทและแบ่งเงินลงทุน 20% ของรายได้แต่ละเดือน(นับรวมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและอื่นๆด้วย) เงินลงทุนเริ่มต้นในเดือนแรกจะอยู่ที่ 3,000 บาท(เพิ่มขึ้นทุกปีตามการเพิ่มขึ้นของเงินเดือน สมมติว่าเงินเดือนเพิ่มขึ้นปีละ 5%) และเมื่อได้รับโบนัสก็จะแบ่งมาลงทุนจำนวน 1 เท่าของเงินเดือนที่ได้รับ โดยจัดสัดส่วนการลงทุนเน้นลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ได้รับผลตอบแทนเฉลี่ย 8% ต่อปี ทำแบบนี้ต่อเนื่องและตอนอายุ 36 ปี มูลค่าเงินลงทุนของเราจะอยู่ที่ 1 ล้านบาท จากนั้นในช่วง 3 ปีก่อนเกษียณอายุจัดพอร์ตโดยลดสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยงลงมาและคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ย 4% ต่อปี เมื่อเราอายุ 60 ปี มูลค่าเงินลงทุนของเราจะอยู่ที่ 14.1 ล้านบาท


ในการลงทุนนั้นมีปัจจัยสำคัญ 3 ประการที่จะกำหนดว่ามูลค่าเงินที่เราเก็บมาทั้งชีวิตจะเพิ่มมูลค่าเป็นเท่าไร เป้าหมายการลงทุนจะสำเร็จหรือไม่และคุณภาพการใช้ชีวิตของเราจะเป็นอย่างไร ได้แก่


1.ระยะเวลาลงทุน

นักวิทยาศาสตร์ระดับโลกอย่าง Albert Einstein กล่าวว่าผลตอบแทนทบต้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก ดังนั้นถึงเราจะไม่ได้มีเงินลงทุนตั้งต้นเยอะหรือไม่ได้เกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่สำหรับผู้ที่มีวินัยและมีเวลาลงทุนที่ยาวนานก็สามารถมั่งคั่งจากการลงทุนได้


2.ผลตอบแทนจากการลงทุน

การจัดสัดส่วนเงินลงทุนของเราให้ได้ผลตอบแทนที่เหมาะสมตามระยะเวลาลงทุนและความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้ของแต่ละคนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก สมมติว่าเราเริ่มต้นทำงานและแบ่งเงิน 20% ของเงินเดือนแต่ละเดือนรวมโบนัส 1 เดือน ไปฝากธนาคารที่ได้ดอกเบี้ยเฉลี่ย 0.5% ต่อปี ผ่านไป 35 ปี มูลค่าเงินลงทุนจะอยู่เพียง 4.9 ล้านบาท ขณะที่อีกคนจัดสัดส่วนการลงทุนและได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8% ต่อปี เวลาผ่านไป 35 ปีเท่ากัน มูลค่าเงินลงทุนจะอยู่ที่ 14.1 ล้านบาท จะพบว่าทั้ง 2 ท่านนี้มีมูลค่าเงินลงทุนต่างกันถึง 9.2 ล้านบาททั้งที่ต้นทุนเงินลงทุนและระยะเวลาลงทุนเท่ากัน ซึ่งเป็นค่าเสียโอกาสอันมหาศาลจากการนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่เหมาะสมกับเป้าหมายและระยะเวลาลงทุน


3.จำนวนเงินลงทุน

ลงทุน จำนวนเงินลงทุนตั้งต้นและเงินลงทุนระหว่างทางเป็นสิ่งที่กำหนดมูลค่าทรัพย์สินที่เรามีในอนาคต ดังนั้นนอกจากการจัดสัดส่วนการลงทุนที่ดีเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เหมาะสมแล้ว การวางแผนการใช้จ่ายในแต่ละเดือนหรือการกำหนดสัดส่วนเงินลงทุนในแต่ละเดือนโดยเมื่อได้รับเงินเดือนแล้วก็แบ่งเงินตามสัดส่วนนั้นไปลงทุนทันทีเป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน เพราะว่าเมื่อเรานำเงินไปใช้จ่ายก่อนเหลือเท่าไรแล้วค่อยไปลงทุนนั้นส่วนมากเราก็จะพบว่าเงินของเราก็ไม่ค่อยจะเหลือและก็ไม่ได้เริ่มออมเริ่มลงทุนสักที


สิ่งที่อยู่ในบทความนี้เป็นหลักการพื้นฐานเป็นสิ่งที่ทุกๆคนสามารถเริ่มทำได้แต่อาจจะมองข้ามเรื่องเหล่านี้ไปเพราะ ยังไม่ทราบว่าทุกการตัดสินใจในวันนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างเช่น การใช้จ่ายในแต่ละวันหรือแม้แต่ความเข้าใจในเรื่องของการออมและลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ นั้นจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในอนาคตเสมอ ดังนั้นอย่ารอที่จะเริ่มและศึกษาการลงทุนเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคตครับ


หากว่าเราไม่รู้ว่าจะจัดพอร์ตการลงทุนอย่างไรให้เหมาะสมกับเป้าหมายและความเสี่ยงของตนเอง การลงทุนในกองทุนผสมทั่วโลกอย่างเช่น Krungthai World Class Series ก็มีความน่าสนใจ เพราะบริหารงานโดย Fidelity International ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนระดับโลกที่จะปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับทุกสภาวะตลาดและคัดเลือกการลงทุนที่ดีที่สุดในแต่ละประเภทสินทรัพย์จากทั่วโลกมาให้แล้ว โดยมี 3 กองทุนให้เลือกตามความเหมาะสมกับเป้าหมายและความเสี่ยงของเรา เช่น


กองทุน KTWC-DEFENSIVE-A และ KTWC-DEFENSIVE-SSF
ที่เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำเน้นโอกาสชนะเงินเฟ้อ (ลงทุนเฉลี่ยในตราสารหนี้ 85% ,หุ้น 15%)

ลงทุน
KTWC-DEFENSIVE-A
คลิก


ลงทุน
KTWC-DEFENSIVE-SSF
คลิก



กองทุน KTWC-MODERATE-A และ KTWC-MODERATE-SSF
ที่เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงปานกลางรักษาสมดุลของความเสี่ยงและผลตอบแทน(ลงทุนเฉลี่ยในตราสารหนี้ 50% ,หุ้น 50%)

ลงทุน
KTWC-MODERATE-A
คลิก
 

ลงทุน
KTWC-MODERATE-SSF
คลิก



กองทุน KTWC-GROWTH-A และ KTWC-GROWTH-SSF
ที่เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงเน้นการเติบโตของเงินลงทุน (ลงทุนเฉลี่ยในตราสารหนี้ 20% ,หุ้น 80%)

ลงทุน
KTWC-GROWTH-A
คลิก


ลงทุน
KTWC-GROWTH-SSF
คลิก


บทความโดย นายอวิรุทธ์ ศรีวัฒนชัยกุล CFP®
คำเตือน: กองทุนมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนและไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน SSF ก่อนตัดสินใจลงทุน กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง