10 วิธีขายของออนไลน์ มือใหม่ปั้นธุรกิจให้ได้หลักล้าน
ปัจจุบันนี้ถ้าให้เลือกเริ่มต้นทำธุรกิจอะไรสักอย่าง เชื่อว่าหลายคนน่าจะมีหนึ่งในคำตอบที่เหมือนกันกับผู้เขียนก็คือ การขายของออนไลน์ ถามว่าทำไมถึงเลือกขายของออนไลน์ ก็เพราะว่าการขายของออนไลน์นั้นเริ่มต้นได้ง่าย ใช้ทุนในการเริ่มต้นต่ำมาก หรือแทบจะไม่มีต้นทุนในเรื่องค่าเช่าสถานที่เลย เราสามารถเริ่มได้ง่าย ๆ จากหน้า Facebook Feed หรือจะสร้าง Page ขึ้นมาสักหนึ่งเพจแล้วก็โพสต์ขายสินค้าเลยก็ได้ และยิ่งเดี๋ยวนี้มีช่องทาง Social media มากมายอย่างเช่น TikTok ซึ่งคุณสามารถขายสินค้าไปด้วย แถมรับรีวิวสินค้าและได้ส่วนแบ่งเป็นค่าคอมมิชชั่นก็ง่ายแสนง่าย แถมมีคนสอนวิธีทำมากในบน Youtube และเมื่อการขายของออนไลน์ได้รับความนิยมขนาดนี้ มีหรือที่เราจะไม่นำวิธีการดี ๆ และสาระน่ารู้เกี่ยวการการขายของออนไลน์มาแชร์ให้เพื่อนได้นำไปใช้กัน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
วิธีขายของออนไลน์ให้ปัง ต้องเริ่มเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
1. เลือกสินค้าที่ตนเองสนใจ(และเข้าใจ)
จุดเริ่มต้นของการขายของออนไลน์ไม่ใช่การขายสินค้าตามคนอื่นที่เขาอาจจะขายดี เพราะเราไม่รู้ว่าเบื้องหลังของร้านค้าที่ขายสินค้ามียอดขายสูง ๆ นั้น เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง หรือเราอาจจะรู้จักสินค้าชนิดนั้น ๆ ไม่ทะลุปุโปร่ง ทำให้เรามองตลาดผิดไปได้ ดังนั้นถ้าจะให้แนะนำคือ เริ่มจากสิ่งที่เราสนใจ รู้จัก และมีความเชี่ยวชาญในสินค้านั้น ๆ หรือถ้าไม่รู้จักสินค้านั้น ๆ มากพอ แต่มีความสนใจมาก ลองสละเวลาศึกษาสินค้าให้ถี่ถ้วนทุกแง่มุมก่อน เพื่อให้เข้าใจว่าสินค้าชนิดนี้เป็นที่ต้องการของใคร และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเรานิยมซื้อสินค้าประเภทนี้ที่ช่องทางไหน เมื่อรู้ทุกซอกทุกมุมของสินค้าแล้วจึงค่อยริเริ่มสั่งสินค้ามาขายก็ได้
2. หาแหล่งรับสินค้าราคาต้นทุนดี ๆ ให้เจอ
ต้นทุนสินค้าคือปัจจัยที่จะบ่งชี้ความสำเร็จในการขายของออนไลน์ได้เช่นกัน เพราะถ้าสินค้าที่เรารับมาขายมีราคาสูงนั่นแปลว่าเมื่อเราบวกกำไร บวกค่าบริหารจัดการ บวกค่าพนักงานขายเข้าไปแล้ว อาจจะทำให้ราคาสินค้าของเราสูงกว่าเจ้าอื่น ๆ ก็เป็นไปได้ และยิ่งถ้าสินค้าไม่ได้มีความแตกต่างกันมากมายแล้วล่ะก็ มีโอกาสสูงมากที่ลูกค้าจะไปซื้อสินค้ากับร้านที่มีราคาถูกกว่า ยกเว้นว่าร้านของเรามีจุดเด่นอย่างอื่นที่ทำให้ลูกค้าไม่ตัดสินจากแค่ราคาสินค้าเท่านั้น
3. เลือกช่องทางการขายที่เหมาะกับสินค้า
ในบรรดาหลักการตลาด 4P ที่ประกอบไปด้วย Product Price Place และ Promotion ซึ่ง P ตัวที่ 3 ก็คือ Place นั้นสำคัญไม่แพ้ P ตัวอื่น ๆ เพราะการที่เราจะพิจารณาว่าจะไปตั้งร้านค้าที่ไหน แม้จะในช่องทางออนไลน์ ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยหลักสำคัญที่เราต้องเลือกพิจารณาก็คือ ทำเลบนออนไลน์จะต้องมีกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าของเราอยู่ที่แพลตฟอร์มนั้นด้วย ยกตัวอย่างเช่น เสื้อผ้าแฟชั่นที่ต้องมีการระบุให้เห็นถึงรายละเอียด ความสวยงาม ความเข้ากันใจของตัวแบบและชุด ก็อาจจะไปขายอยู่บน Instagram ส่วนสินค้าที่ต้องการรีวิวซื้อง่ายขายคล่องก็อาจจะไปอยู่บน TikTok หรือ Shopee, Lazada จะเห็นว่าการเลือกช่องทางการขายของออนไลน์ก็มีความสำคัญไม่แพ้การทำสินค้าให้ดี ตั้งราคาให้เหมาะสมเลย เพราะสินค้าจะขายได้ก็ต้องอยู่ให้ถูกที่ถูกทางด้วยลูกค้าจึงจะเห็นสินค้าของเรา
4. สร้างจุดเด่นให้กับร้านค้า
อะไรที่ทำให้ร้านของคุณไม่เหมือนใคร? สินค้าของคุณมีจุดเด่นอะไร? บริการของคุณพิเศษกว่าร้านอื่นอย่างไร? คำถามเหล่านี้สำคัญมากในช่วงก่อนที่คุณจะเริ่มขายของออนไลน์ลองตั้งคำถามและหาวิธีการสร้างจุดเด่นให้กับร้านค้าออนไลน์ของคุณ โดยคุณอาจจะสร้างจุดเด่นให้กับสินค้าของคุณผ่านการ สร้างแบรนด์ ตั้งชื่อร้านที่จดจำง่าย ออกแบบโลโก้ที่โดดเด่น สื่อสารเรื่องราวของแบรนด์ รวมไปถึงการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง ให้กับลูกค้าเพื่อสร้างการจดจำไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบบริการที่ดี ให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ เสนอโปรโมชันและส่วนลดพิเศษ ก็ล้วนทำให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาอุดหนุนสินค้าจากร้านของเราได้
5. วางแผนบริหารจัดการต้นทุนให้ดี
เรื่องเงินทุนก็สำคัญต่อแม่ค้าออนไลน์มือใหม่มาก ๆ เพราะจะต้องนำเงินไปใช้จ่ายลงทุนสินค้าและด้านอื่น ๆ เพื่อให้สินค้าขายออกไปกระทั่งนำมาสู่ผลกำไร ทั้งนี้ ซึ่งถ้าลองพิจารณาต้นทุนที่ต้องใช้นอกเหนือจากการซื้อสินค้าแล้วก็ยังมีอื่น ๆ เช่น การโฆษณา ค่าจัดส่ง หรือค่าจ้างคนดูแลเว็บไซต์ เพจ ฯลฯ การวางแผนการเงินจึงเป็นเรื่องแรก ๆ ที่ควรทำ และอย่าลืมเก็บเงินทุนสำรองไว้ด้วย
6. จัดโปรโมชันช่วยสร้างยอดขาย
การแข่งขันในการขายของออนไลน์นั้นสูงมาก จนบางครั้งแค่โพสต์ขายเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ ก็ต้องอาศัยกลเม็ดเคล็ดลับกันบ้าง ในช่วงเริ่มต้นเปิดร้านที่ต้องการให้คนรู้จักเยอะก็อาจจะมีโปรโมชัน กดติดตาม รับส่วนลด 5% หรือถ้ารีวิวด้วยก็ลดเพิ่มไปเลย 10% แบบนี้ก็จะช่วยให้ลูกค้าของเราอยากทำสิ่งนั้นเพิ่มมากขึ้น หรือถ้าขายไปสักพักอาจจะมีโปรโมชันจัดส่งฟรีบ้างในช่วงปลายเดือนเพื่อกระตุ้นการซื้อ เพราะคงจะดีว่าถ้าร้านเรามีลูกเล่นบ้างเพื่อเพิ่มสีสันและความน่าสนใจให้กับร้านและยังทำให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าที่ร้านของเราเพราะมีโปรโมชันดี ๆ เด็ด ๆ ให้ได้ติดตามกันตลอด
7. อัปเดตสินค้าภายในร้านอย่างสม่ำเสมอ
ลองจินตนาการว่าคุณเปิดร้านขายของที่มีแต่สินค้าเดิม ๆ ไม่เคยตกแต่งร้านให้น่าเข้า ไม่เคยนำสินค้าใหม่ ๆ มาขายเลย ร้านเราจะดูเหงาหงอยและไม่อินเทรนด์ขนาดไหน ซึ่งก็ต้องบอกว่าการทำให้ร้านค้าของเราอัปเดตอยู่เสมอเป็นเสน่ห์ที่คอยดึงดูดให้ลูกค้าเดิมไม่ไปไหน และลูกค้าใหม่อยากจะเข้ามาใช้บริการนอกจากนี้ก็ควรมีการจัดโปรโมชันบ้าง เช่นการลดราคาสินค้า เสนอส่วนลดพิเศษ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อทันที นอกจากนี้กิจกรรมที่สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างการเล่นเกม แจกของรางวัล ก็สร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้ดีและไม่ทำให้ลูกค้าลืมร้านเรา
8. ตอบแชทให้ทันใจลูกค้า
การตอบแชทอย่างรวดเร็วรวมถึงการตอบคำถามลูกค้าให้เร็วที่สุด แสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับลูกค้า เพราะโลกแห่งการทำธุรกิจทุกวันนี้คำว่า จิตบริการ นั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าคุณขายสินค้าแต่การบริการไม่ดีอาจส่งผลเสียอย่างมากต่อชื่อเสียงของร้านที่สั่งสมมานาน โดยเฉพาะถ้าลูกค้านำข้อความที่คุณตอบพวกเขาไม่ดี ไปโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ยิ่งจะเป็นการยากที่จะกู้ชื่อเสียงกลับมาดังนั้นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จะต้องตอบแชทอย่างเป็นมิตร พูดจาสุภาพ และให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ
9. จัดส่งสินค้ารวดเร็ว
ข้อจำกัดหนึ่งของการซื้อสินค้าออนไลน์คือ ไม่สามารถได้สินค้าเลยในวินาทีที่จ่ายเงิน นี่คือความต่างอย่างมากจากการซื้อสินค้าจากช่องทางออฟไลน์ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้เราควรวางระบบการจัดส่งให้ดีและมีประสิทธิภาพ รวมถึงวางแผนจัดการออเดอร์ให้เรียบร้อยและส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่าย เพื่อให้สินค้าส่งถึงมือลูกค้าให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ร้านค้าควรมีการแพ็คสินค้าให้มิดชิดเรียบร้อยเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวสินค้า รวมถึงเมื่อจัดส่งสินค้าแล้วควรมีการแจ้งเลขพัสดุ เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปเช็กสถานะการจัดส่งและลดความกังวลต่อการสูญหายของสินค้าด้วย
10. จัดเตรียมช่องทางชำระเงินที่สะดวก
เคยไหมที่เราไปซื้อสินค้าแล้วร้านค้าไม่มีบริการรับชำระผ่านทางการสแกน QR Code หรือโอนจ่ายก็ไม่ได้ แบบนี้มีโอกาสสูงมากที่เราจะเดินออกจากร้านนั้นโดยไม่ได้ซื้อสินค้าเลยสักชิ้น อย่าลืมว่าในโลกสมัยใหม่ที่ธนาคารอยู่บนมือถือ ผู้คนมักไม่พกเงินสด รวมถึงถ้าซื้อสินค้าออนไลน์ในบางครั้งลูกค้าอาจจะสะดวกชำระผ่านทางบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือ Wallet ต่าง ๆ เราก็ต้องจัดเตรียมไว้ให้พร้อมรองรับต่อความต้องการในการใช้งานของลูกค้า เราจะได้ไม่เสียโอกาสในการขายไปเพราะความไม่พร้อม รวมถึงหลังการชำระเงินให้ลูกค้าแจ้งสถานะการชำระเงินกับทางร้านค้าให้ตรงกันอีกครั้งก่อนจัดส่งสินค้าทุกครั้ง
วิธีขายของออนไลน์ให้ปัง ต้องเริ่มเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ขายของออนไลน์อะไรดี 2024 แนะนำสินค้าขายดีไม่มีหน้าร้านก็ขายได้
1. ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ
ปฎิเสธไม่ได้ว่าเรื่องสุขภาพนั้นเป็นเทรนด์มานานแล้วและจะยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เหตุผลหลัก ๆ เพราะทุกวันนี้เราต้องเผชิญกับสารเคมี ฝุ่นควัน และปัจจัยอื่น ๆ ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างการทำงานในชีวิตประจำวัน พนักงานออฟฟิศต้องเสี่ยงเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม เนื่องจากการนั่งทำงานเป็นระยะเวลานาน หรือไม่ก็เผชิญกับภาวะตาล้า จากการจ้องจอคอมพ์ นานกว่า 6-8 ชั่วโมงต่อวัน รวมไปถึงประเทศไทยในปัจจุบันเข้าสูงสังคมผู้สูงอายุแบบสมบูรณ์แล้ว นั่นแปลว่าผู้สูงอายุก็ต้องการการดูแลสุขภาพชนิดที่เข้มข้นเข้าไปอีก เพื่ออายุที่ยืนยาวมากขึ้น ดังนั้นเราจะเห็นว่าอะไรที่เกี่ยวกับสุขภาพก็จะได้รับความนิยมไม่ว่าจะเป็นเชิงป้องกันทั้งการกิน การทา การออกกำลังกาย รวมไปถึงในเชิงการรักษาเช่นมีคลินิคทำกายภาพบำบัด ลดอาการปวดจากการนั่งทำงานนาน ๆ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ช่วยดูแลดวงตา ก็มีให้เห็นตามแพลทฟอร์มจำหน่ายสินค้าออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าใครมองเห็นโอกาสตรงนี้บอกได้เลยว่าสินค้าหรือบริการที่ตอบโจทย์การดูแลรักษาสุขภาพนั้นยังไปได้อีกนาน
2. ผลิตภัณฑ์แฟชั่น
สินค้าประเภท “สินค้าแฟชั่น” ไม่เคยตกสำรวจอันดับสินค้ายอดนิยมเลย เพราะต้องบอกว่ามนุษย์เรามีความต้องการการได้รับการยอมรับจากผู้อื่น โดยวิธีหนึ่งที่ทำได้ง่ายและไวที่สุดก็คือ การแต่งกายให้ดูดี เสื้อผ้าแฟชั่นจะบ่งบอกความเป็นตัวตนของเราได้ดี ดังนั้นร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นถ้าหมั่นสำรวจความต้องการของลูกค้าอยู่สม่ำเสมอและหาสินค้าในแพตเทิร์นที่ลูกค้าต้องการมานำเสนอขายในราคาที่ไม่แพงเกินไป ผู้เขียนเชื่อว่าสินค้าแฟชั่นจะยังขายดีและอยู่คู่ผู้คนไปอีกนานแน่นอน
3. เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
ใคร ๆ ก็ต้องการดูดีและเป็นที่ยอมรับของผู้อื่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าสาว ๆ ที่มักจะมีสินค้าประเภทเครื่องสำอางค์อยู่หลายประเภทและหลายยี่ห้อ โดยกลุ่มสุภาพสตรีมีแนวโน้มจะทดลองใช้สินค้าประเภทเครื่องสำอางและผลิตภันฑ์ดูแลเมื่อเห็นกลุ่มคนในวัยเดียวกันรีวิวถึงข้อดี รวมไปถึงถ้ามีอินฟลูเอนเซอร์ที่มีความน่าเชื่อถือมารีวิวการใช้งานดีแล้วล่ะก็ รับรองว่าร้านเติมสต็อกแทบไม่ทันแน่นอน ดังนั้นการขายของออนไลน์ประเภทเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ถ้าคุณได้มีการวางแผนการขายและการตลาดมาเป็นอย่างดีแล้วทางเลือกนี้นับว่าน่าสนใจมาก
4. ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเป็นสินค้าที่มีมูลค่าตลาดเฉพาะในประเทศไทยในปี 2024 กว่า 216,000 ล้านบาท ทำให้เห็นได้ชัดเลยว่ายังมีโอกาสอยู่มากในการที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด แต่ก็ต้องบอกว่าการที่ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจะเกิดได้หรือไม่ส่วนหนึ่งเลยขึ้นอยู่กับการทำการตลาดของเจ้าของแบรนด์ เพราะถึงแม้มูลค่าตลาดจะสูงแต่การแข่งขันก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาสินค้าประเภทอาหารมีพัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปมาก ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะอาหารเสริมเพื่อการป้องกันโรคเท่านั้น แต่ยังมีอาหารเสริมที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนมากขึ้น ดังนั้นเชื่อเถอะว่า อาหารเสริม ยังไปได้เพราะเทรนด์เรื่องสุขภาพเป็นเมกะเทรนด์ที่จะยังคงอยู่ไปอีกนาน
5. สินค้า DIY หรือสินค้าแฮนด์เมด
ปัจจุบันกลุ่มทางการตลาดได้มีการแบ่งออกเป็นส่วนย่อย ๆ ทำให้เกิดกลุ่มตลาดเฉพาะ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ Nich Market ขึ้นมา โดยกลุ่มคนเหล่านี้จะมีความสนใจเฉพาะร่วมกันสูง เช่น กลุ่มคนรักการทานอาหารเพื่อสุขภาพ กลุ่มคนรักสินค้าแฟชั่นที่ผลิตจากภูมิปัญญาชาวบ้าน หรือแม้แต่กลุ่มคนที่นิยมใช้สินค้าที่มีกระบวนการผลิตที่รักษ์โลกเท่านั้น ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสที่คุณจะนำเสนอสินค้าที่มีความเฉพาะเจาะจง โดยไม่จำเป็นว่าต้องตอบสนองความต้องการของคนหมู่มาก แต่พยายามทำให้คนกลุ่มเล็ก ๆ นี้รักสินค้าของคุณ เท่านี้คุณก็จะสามารถครองใจพวกเขาไปได้แบบยาว ๆ แล้ว โดยเอกลักษณ์เฉพาะของสินค้าประเภท DIY คือจะดูดี มีเอกลักษณ์ แตกต่างจากสินค้าในตลาดแมสทั่วไป แถมยังสั่งทำได้ตามใจลูกค้าได้ด้วย ถ้าให้ยกตัวอย่างสินค้าในกลุ่มแฮนด์เมดก็ได้แก่ กระเป๋าเย็บมือ, เคสโทรศัพท์มือถือ และสมุดโน๊ตทำมือ
6. สินค้าไอที
ปัจจุบันสินค้าประเภทอุปกรณ์ไอทีได้รับความนิยมมากขึ้นและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วไปมากขึ้น เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนผู้คนก็ต่างมีสมาร์ทโฟน ใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน บางคนมีหูฟังไร้สาย บางคนมี Gadget ล้ำติดตัว สิ่งนี้ได้รับอิทธิพลมาจากอินฟลูเอนเซอร์สายไอที และโลกโซเชียลที่ทำให้กระแสของการมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ล้ำ ๆ เป็นเรื่องใกล้ตัวและเข้าถึงได้ ดังนั้นใครที่พอจะมีทุนในการซื้อสินค้าไอทีมาจัดจำหน่ายก็อาจจะลองมองตลาดสินค้าไอทีไว้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งก็ได้เช่นกัน
7. สินค้าเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ภายในบ้าน
เทรนด์อวดมุมสวย ๆ ในบ้าน รวมถึงของแต่งบ้านเราบูมมาตั้งแต่ช่วงการระบาดของโควิด19 ที่ผู้คนใช้ชีวิตอยู่ในบ้านมากกว่าออกไปข้างนอก ในช่วงนั้นร้านขายของแต่งบ้านรวมถึงต้นไม้ออนไลน์เติบโตมาก และถึงแม้โควิดจะเริ่มซาลงไปมากแล้ว แต่กระแสที่ถูกจุดติดมาตั้งแต่ช่วงนั้นก็ยังคงอยู่ จนก่อให้เกิดกลุ่มใน Facebook ซึ่งเป็นที่รวมคนที่สนใจเกี่ยวกับของแต่งบ้าน ของแต่งสวน ที่สำคัญสินค้าประเภทนี้เป็นของสวยงาม ราคาอยู่ที่ความพึงพอใจของผู้ซื้อและผู้ขาย ดังนั้นใครที่มีใจรักในด้านนี้พลาดไม่ได้เลยที่จะนำความชอบส่วนตัวมาเป็นธุรกิจในการขายของออนไลน์
8. ของเล่นเด็ก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าสินค้าประเภทของเล่นเด็กเป็นสินค้าที่ขายดีแบบเงียบ ๆ ที่ว่าเงียบ ๆ ไม่ใช่ซบเซา แต่หลายคนอาจจะเผลอคิดว่า เด็กจะมีเงินซื้อสินค้าหรือ แต่จริง ๆ แล้วบรรดาคุณพ่อคุณแม่ที่อยากเสริมสร้างพัฒนาการของลูก ๆ จึงนิยมที่จะซื้อสินค้าประเภทของเล่นเด็กให้น้องหนู ๆ ได้ใช้เวลาว่างในการฝึกฝนทักษะการคิด โดยสินค้าที่จัดอยู่ในหมวดสินค้าของเล่นเด็กขายดีก็ได้แก่
- ของเล่นเสริมสร้างพัฒนาการ ของเล่นประเภทนี้ช่วยให้เด็ก ๆ พัฒนาทักษะต่าง ๆ เช่น ทักษะยนต์ ทักษะการคิด ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะทางสังคม ตัวอย่างของเล่นประเภทนี้ ได้แก่ บล็อกตัวต่อ เลโก้ จิ๊กซอว์ ของเล่นบทบาทสมมติ และของเล่น STEM
- ของเล่นสำหรับเด็กวัยก่อนวัยเรียน ของเล่นประเภทนี้ช่วยให้เด็กวัยก่อนวัยเรียนพัฒนาทักษะต่าง ๆ เช่น ทักษะการพูด ทักษะการฟัง ทักษะการอ่าน และทักษะการเขียน ตัวอย่างของเล่นประเภทนี้ ได้แก่ หนังสือนิทาน บัตรคำศัพท์ ของเล่นจับคู่ และของเล่นฝึกทักษะการเขียน
ดังนั้นใครที่มองเห็นโอกาสตรงนี้ก็พลาดไม่ได้ที่จะติดต่อคู่ค้าเพื่อหาสินค้าประเภทของเล่นเด็กมาตอบสนองความต้องการของตลาดกลุ่มนี้ก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย
น่าจะพอเห็นไอเดียในการทำธุรกิจไปไม่มากก็น้อยแล้ว สำหรับปี 2024 ใครที่กำลังจะเริ่มต้นปีด้วยการเป็นเจ้าของธุรกิจบอกเลยว่าโอกาสมาแล้ว ถ้าเราเริ่มตั้งเป้าและลงมือทำตั้งแต่ตอนนี้ และหมั่นคอยปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาให้ธุรกิจของเราต่อยอดดีขึ้นเรื่อย ๆ ได้เชื่อว่า อนาคตการค้าขายจะดีขึ้นแน่นอน แต่ถ้าใครที่คิดว่า ใจจริงอยากจะเริ่มธุรกิจนะ แต่ว่าไม่มีเงินทุนก้อนแรกเลยจะทำยังไงดี เรื่องนี้ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะ สินเชื่อเพื่อธุรกิจ SME จากธนาคารกรุงไทย เขาพร้อมให้คำปรึกษาเจ้าของธุรกิจ หรือว่าที่เจ้าของธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรงเช่นคุณ โดยผู้เขียนอยากจะแนะนำ สินเชื่อ SME ไซส์เล็ก ขายของออนไลน์ หรือ มีหน้าร้านไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สำหรับร้านค้ารายย่อย พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการเงินลงทุนเพื่อขยายร้าน เติมสต็อก เปิดร้านสาขาใหม่ หรือกู้เงินทำธุรกิจเพื่อเพิ่มเงินหมุนเวียนในธุรกิจก็ได้ทั้งหมด
เพียงแค่ใช้แอปพลิเคชันถุงเงิน หรือเครื่อง EDC กรุงไทย หรือขายของออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม เช่น Lazada, Shopee ใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สินเชื่อ SME ไซส์เล็ก (คลิกที่ลิงก์ได้เลย) บอกเลยว่าโครงการสินเชื่อเพื่อธุรกิจดี ๆ แบบนี้ไม่ไปปรึกษาไม่ได้แล้ว แล้วกลับมาติดตามสาระความรู้ดี ๆ ด้านการเงิน การลงทุน และธุรกิจได้ใหม่ที่ krungthai.com