Affiliates Marketing เพิ่มโอกาสให้ SME ขยายธุรกิจง่าย ไม่ต้องใช้เงินทุนมาก

การตลาดแบบพันธมิตร เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 5-8 ปีที่แล้ว และมีแนวโน้มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมูลค่าของการตลาดพันธมิตรอยู่ที่ 17,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2022 และคาดการณ์ว่าจะสูงขึ้นถึง 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2040 (ข้อมูลจาก dustinhowes.com)

หัวใจหลักของการทำการตลาดแบบพันธมิตรคือ การหาบุคคลอื่น ๆ มาช่วยแนะนำ โปรโมตแบรนด์และสินค้าของเรา โดยผู้แนะนำจะได้ค่าตอบแทนเมื่อมีการซื้อสินค้าจริงในอัตราที่เจ้าของสินค้ากำหนด จึงเป็นวิธีที่ SME สามารถใช้เพื่อขยายธุรกิจได้ โดยไม่ต้องใช้เงินทุนมากและทำได้ง่ายเพราะไม่มีเงื่อนไขหรือข้อจำกัดเรื่องจำนวนพันธมิตร ในขณะที่พันธมิตรก็สามารถมีรายได้แบบไม่จำกัด และยังเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ได้ไม่จำกัดธุรกิจด้วยเช่นกัน การตลาดแบบพันธมิตรจึงเป็นคำตอบที่ลงตัวของทั้ง 2 ฝ่าย

ทำไม SME ควรเลือกการตลาดแบบพันธมิตร?

1. ความคุ้มค่า: ในฐานะ SME อาจมีงบประมาณทางการตลาดที่จำกัด การตลาดแบบพันธมิตรจะช่วยให้ธุรกิจจ่ายเฉพาะผลลัพธ์ตามที่ได้รับเท่านั้น เราจะให้รางวัล Affiliate ตามยอดขายหรือโอกาสในการขายที่พันธมิตรสร้างขึ้น ทำให้มีความคุ้มค่าอย่างมากเพราะเป็นการจ่ายเงินตามผลงานจริง ทุกอย่างวัดผลได้
2. การเข้าถึงผู้ชมได้กว้างขึ้น: การใช้ประโยชน์จากการตลาดแบบ Affiliate คือการเข้าถึงเครือข่ายและผู้ติดตามที่บรรดาพันธมิตรมีอยู่ ซึ่งจะช่วยให้ SME เข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่คุณอาจไม่เคยเข้าถึงมาก่อน
3. สร้างความน่าเชื่อถือ: เมื่อพันธมิตรโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการของ SME ผู้ชมจะเชื่อถือคำแนะนำของพวกเขามากกว่าเห็นโฆษณาจากแบรนด์โดยตรง ความไว้วางใจนี้จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของแบรนด์ได้มากกว่า
4. ธุรกิจอะไรก็ทำได้: Affiliates Marketing เป็นระบบการทำงานที่เปิดกว้างต่อธุรกิจทุกประเภท เพราะเป็นการทำงานแนะนำผ่านสินค้าและบริการที่ธุรกิจมีอยู่แล้ว ดังนั้น ไม่ว่าธุรกิจของเราจะเป็นแบรนด์เสื้อผ้า ร้านอาหาร สินค้าแม่และเด็ก สินค้าเพื่อสัตว์เลี้ยง สื่อ หนังสือ โปรแกรมซอฟต์แวร์ ฯลฯ ก็สามารถขยายธุรกิจได้เพียงแค่ทำงานผ่านระบบที่ Affiliates กำหนด

ขั้นตอนการเริ่มต้น Affiliates Marketing

การตลาดแบบพันธมิตรเป็นกระบวนการที่ไม่ซับซ้อน เริ่มต้นได้ง่ายผ่านช่องทางการตลาดที่ SME มีอยู่ในปัจจุบันก็ได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. รับสมัคร Affiliates: ค้นหาพันธมิตร (ทั้งแบบบุคคลหรือธุรกิจ) ที่มีกลุ่มเป้าหมายสอดคล้องกับตลาดเป้าหมายของแบรนด์ Affiliate เหล่านี้จะโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณไปยังฐานผู้ติดตามของตนเอง
2. ตั้งค่าการติดตาม: ใช้เครื่องมือติดตามเพื่อติดตามยอดขายหรือโอกาสในการขายที่สร้างโดยพันธมิตรอย่างถูกต้อง ซึ่งถ้าเราใช้แพลตฟอร์มการขาย e-Commerce เช่น Shopee Lazada เราสามารถตั้งค่าผ่านหน้าร้านของเราได้เลย
3. จัดเตรียมสื่อการตลาด: เพื่อให้ภาพลักษณ์ของสินค้าถูกสื่อสารออกไปอย่างมีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ เราควรเตรียมสื่อต่าง ๆ เป็นแนวทางให้พันธมิตรไปใช้ในการทำการตลาด เช่น ออกแบบแบนเนอร์ ลิงก์ และข้อมูลจุดขาย โปรแกรมส่งเสริมการขาย นอกเหนือจากนั้นจะเป็นเทคนิคเฉพาะตัวที่พันธมิตรจะนำมาใช้ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นเสน่ห์
4. กำหนดและให้รางวัลแก่พันธมิตร: จ่ายค่าคอมมิชชันให้กับบริษัทในเครือของคุณสำหรับการขายหรือโอกาสในการขายที่ประสบความสำเร็จแต่ละครั้งที่พวกเขานำเข้ามา
5. ติดตามและประเมินผล: ติดตามผลการขายและประเมินผลลัพธ์เพื่อปรับปรุงโปรแกรม อัปเดตสินค้าใหม่ ส่งเสริมการขายใหม่ หรือบางกรณีก็ต้องปรับค่าตอบแทนใหม่เพื่อให้แข่งขันได้

เคล็ดลับความสำเร็จของ SME กับ Affiliates Marketing

1. เลือก Affiliate ที่เหมาะสม: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบรนด์และธุรกิจของเราสอดคล้องกับแบรนด์ของ Affiliates และผู้ติดตามของพวกเขา ถ้าเราเลือกไม่ตรงกลุ่มก็จะเสียโอกาสมาก
2. ค่าคอมมิชชันที่ชัดเจนและยุติธรรม: สร้างโครงสร้างค่าคอมมิชชันที่โปร่งใส แข่งขันได้ การจ่ายค่าตอบแทนต้องตรงเวลา ความโปร่งใสนี้สร้างความไว้วางใจและจูงใจให้ Affiliates รายอื่นเข้ามาร่วมกับธุรกิจของเรา
3. เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ: มุ่งเน้นไปที่การดูแลกลุ่ม Affiliate ที่ใช้งานและเชื่อในสินค้าและบริการของเราอย่างแท้จริง ไม่เลือกใครก็ได้มาทำ เพราะความน่าเชื่อถือที่ดีที่สุด เกิดจากการใช้งานจริงเท่านั้น
4. สนับสนุนอย่างเต็มที่: Affiliates Marketing เป็นรูปแบบธุรกิจที่อาศัยการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะผ่านการฝึกอบรม สื่อการตลาด หรือการตอบข้อซักถามอย่างรวดเร็วเมื่อเกิดปัญหา
5. วิเคราะห์และวัดผลอยู่เสมอ: วิเคราะห์ผลลัพธ์ Affiliate ของเราอย่างต่อเนื่อง เราต้องรู้ว่าอะไรได้ผลและอะไรไม่ได้ผล จากนั้นปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาพการแข่งขัน

ตัวอย่างธุรกิจขนาดกลางที่ใช้ Affiliates Marketing และประสบความสำเร็จได้ดีมีดังนี้

1. Bluehost: เป็นบริษัทเว็บโฮสติ้งที่มีโปรแกรม Affiliate ที่ช่วยให้บล็อกเกอร์และผู้สร้างเว็บไซต์สามารถหารายได้จากการแนะนำบริการของ Bluehost ได้
2. Shopify: นอกจากจะเป็นแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ขายของออนไลน์ Shopify ยังมีโปรแกรม Affiliate ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานร้าน e-Commerce สามารถหารายได้จากการแนะนำ Shopify ให้ผู้อื่นเข้ามาเปิดหน้าร้านได้
3. Grammarly: เป็นเครื่องมือตรวจสอบไวยากรณ์ภาษาอังกฤษและการเขียน มีโปรแกรม Affiliate ที่ให้คอมมิชชันสำหรับการแนะนำผู้ใช้ใหม่ เราจะเห็นโฆษณา Grammarly ใน YouTube บ่อยมาก นั่นคือตัวอย่างของ Affiliates ที่ส่งโฆษณามาหาเรา
4. ClickBank: เป็นตลาดสินค้าดิจิทัลที่ให้ Affiliate สามารถเลือกโปรโมตสินค้าที่ต้องการและได้รับคอมมิชชันจากการขาย
5. Skillshare: เป็นแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ที่มีโปรแกรม Affiliate ที่ช่วยให้สามารถหารายได้จากการแนะนำนักเรียนใหม่

อย่าพลาดศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของการตลาดแบบพันธมิตรสำหรับธุรกิจ SME เพราะเป็นกลยุทธ์ที่คุ้มค่าและวัดผลได้จริง ซึ่งสามารถช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้าใหม่ เพิ่มรายได้ และเพิ่มการเข้าถึงของแบรนด์ ช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน...ขอแค่เราเริ่มต้นเลยวันนี้

ที่มา: กรุงไทย SME FOCUS Issue 40 คอลัมน์ Marketing Strategy

โดย ธรรศภาคย์ เลิศเศวตพงศ์ เจ้าของเพจ Trick of the Trade, ผู้เขียนหนังสือชุด วิชาธุรกิจที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน https://sme.krungthai.com/sme/previewPdf.action?fileId=95#book/40

นอกจากนี้พบกับบทความดีๆ ในหัวข้อ "ESG Model" แนวคิดการจัดการธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน จาก E-Magazine กรุงไทย SME FOCUS ฉบับเดือน พฤศจิกายน 2566 - มกราคม 2567 ได้ที่

1. ช่องทาง Website : Krungthai SME
2. ช่องทาง Application Meb
3. ช่องทาง Application Okkbee

#เคล็ดลับธุรกิจ #AffiliatesMarketing #SMEFocus #KrungthaiSME #กรุงไทยSME #ติดปีกให้ธุรกิจ