ข้อควรรู้ก่อนซื้อประกันอัคคีภัย คุ้มครองอะไรบ้าง พร้อมวิธีคำนวณเบี้ยประกันแบบละเอียด
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า โจรปล้นบ้าน 10 ครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้เพียงครั้งเดียว คำกล่าวนี้ไม่ใช่เรื่องเกินจริง เพราะแม้ว่าขโมยจะยกเค้าทรัพย์สินภายในบ้าน แต่ก็ไม่สามารถทำลายบ้านที่เราอาศัยให้ย่อยยับลงกับตาได้เหมือนกับไฟไหม้เพียงครั้งเดียว ที่สำคัญ การป้องกันทรัพย์สินในบ้านจากการโจรกรรมง่ายกว่าการป้องกันเหตุไม่คาดฝันที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมออย่างเช่นอัคคีภัย หรือภัยธรรมชาติ
หากเราอยู่ระหว่างผ่อนบ้านกับธนาคาร ประกันอัคคีภัยถือเป็นข้อบังคับที่ผู้กู้ต้องทำประกันอัคคีภัยพร้อมกับการซื้อบ้านทุกครั้งโดยปฏิเสธไม่ได้ เพื่อเป็นหลักประกันให้กับธนาคารหากเกิดความเสียหายขึ้นกับบ้าน แต่หากบ้านที่พักอาศัยไม่ได้กำลังผ่อน หรือเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของเองอยู่แล้ว ก็มักถูกมองข้ามเรื่องการทำประกันภัย ซึ่งที่จริงแล้วจำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเช่นนั้นเราจะเลือกประกันอัคคีภัยเปรียบเทียบอย่างไร ลองศึกษาได้จากบทความนี้
ประกันอัคคีภัยบ้านคืออะไร
ประกันอัคคีภัยบ้าน คือหนึ่งในประกันวินาศภัยที่คุ้มครองความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ ทั้งความเสียหายที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น ไฟป่า และเหตุสุดวิสัยจากมนุษย์ อย่างไฟฟ้าลัดวงจร เพลิงไหม้จากแก๊สหุงต้มในครัวเรือน รวมทั้งยังคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติอื่นๆ เช่น ลมพายุ ฟ้าผ่า น้ำท่วม แผ่นดินไหว เป็นต้น โดยความคุ้มครองจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของประกันอัคคีภัยที่เราซื้อไว้
ประกันอัคคีภัยบ้าน จำเป็นแค่ไหน
ความจำเป็นสำหรับคนที่กู้ซื้อบ้านกับธนาคาร ประกันอัคคีภัยเป็นประกันภาคบังคับสำหรับผู้ที่ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับทางธนาคาร ตามระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อรองรับความเสี่ยงของสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อ การทำประกันอัคคีภัยบ้านจึงเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ และจำเป็นต้องทำประกันต่อเนื่องไปจนกว่าการผ่อนชำระสินเชื่อจะสิ้นสุดลง
ความจำเป็นสำหรับทุกคนที่มีบ้านเป็นของตัวเอง ตามกฎหมายแล้วเจ้าบ้านไม่จำเป็นต้องทำประกันอัคคีภัยบ้าน หากบ้านอยู่ในกรรมสิทธิ์ของตัวเอง ไม่ได้อยู่ระหว่างผ่อนชำระสินเชื่อกับทางธนาคาร ผู้ที่ซื้อบ้านใหม่ด้วยเงินสดจึงไม่ต้องทำประกันอัคคีภัย แต่อย่างไรก็ตาม เราต่างทราบกันดีว่าเหตุไม่คาดฝันนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ การทำประกันอัคคีภัยบ้านจะช่วยลดความเสี่ยงจากความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ ทั้งที่เป็นเหตุจากธรรมชาติ เหตุที่ลุกลามจากเพื่อนบ้าน หรือเหตุสุดวิสัยอื่นๆ หากความเสียหายนั้นมาเยือน เราก็ยังมีเงินจากประกันอัคคีภัยมารองรับความเสียหาย โดยเบี้ยประกันบ้านเปรียบเทียบแล้วพบว่า จะมีความแตกต่างกันบ้างทั้งเรื่องรายละเอียดความคุ้มครอง ระยะเวลาความคุ้มครอง เราสามารถปรับลดเบี้ยประกันลงได้ หรือจะเพิ่มความคุ้มครองสินทรัพย์ภายในบ้านก็ได้เช่นกัน
ประกันอัคคีภัยคุ้มครองอะไรบ้าง
หลายคนอาจสงสัยว่าประกันอัคคีภัยคุ้มครองอะไรบ้าง ข้าวของมีค่าในบ้านจะได้รับความคุ้มครองหรือไม่ อย่างไร คำตอบคือประกันอัคคีภัยจะจำแนกความคุ้มครองเป็น 2 ส่วนหลัก และยกเว้นทรัพย์สินบางรายการดังนี้
- ตัวบ้านที่ไม่รวมฐานราก หรือโครงสร้างที่อยู่ใต้ดิน อาทิ เสา ผนัง หลังคา พื้น รั้ว ประตู อาคารจอดรถ หรือส่วนอาคารชั้นใต้ดิน จะคุ้มครองเฉพาะโครงสร้างที่อยู่บนดิน ซึ่งมองเห็นได้เท่านั้น
- ทรัพย์สินในบ้าน ให้ความคุ้มครองทรัพย์สินภายในบ้านต่างๆ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ภายในบ้าน อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ รวมถึงเครื่องนุ่งห่ม และทรัพย์สินอื่นๆ ซึ่งการคุ้มครองทรัพย์สินในบ้านจะเป็นทางเลือกเพิ่มเติมในการซื้อประกันอัคคีภัยบ้าน ซึ่งก็อาจทำให้เบี้ยประกันอัคคีภัยสูงขึ้นบ้าง แต่ผู้ซื้อก็ได้รับความอุ่นใจว่าข้าวของในบ้านจะได้รับความคุ้มครองเช่นกัน
ทั้งนี้ มีสินทรัพย์บางรายการที่ไม่ได้อยู่ในความคุ้มครองประกันอัคคีภัย เช่น ทองคำ อัญมณี วัตถุโบราณ ต้นฉบับหรือสำเนาเอกสาร ภาพเขียน แผนผัง เอกสารสำคัญทางการเงิน เงินสด หนังสือประกอบการทำธุรกิจ หลักประกันหนี้สิน หลักทรัพย์ รวมถึงวัตถุระเบิด หม้อแปลง เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เป็นต้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำประกันอัคคีภัยควรเปรียบเทียบรายละเอียดความคุ้มครองให้ครบถ้วนตามต้องการด้วย
ประกันอัคคีภัยคุ้มครองจากเหตุใดบ้าง
- เหตุไฟไหม้ ที่ไม่ใช่ความเสียหายจากแรงระเบิดที่มาจากไฟไหม้ ยกเว้นแรงระเบิดของแก๊สสำหรับแสงสว่าง หรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัย เหตุไฟไหม้จากแผ่นดินไหวทั้งทางตรงและทางอ้อม และความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เอาประกันภัยอันเกิดจากการบูดเน่า การระอุตามธรรมชาติ การลุกไหม้ขึ้นเองของทรัพย์สิน หรือทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างกรรมวิธีการใช้ความร้อน หรือการทำให้แห้ง
- ฟ้าผ่า
- แรงระเบิดของแก๊สที่ใช้ทำแสงสว่าง หรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัย ยกเว้นการระเบิดของแก๊สเนื่องจากแผ่นดินไหว
- ความเสียหายกรณีพิเศษที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย โดยจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามมูลค่าความเสียหายจริง หรือการสร้างใหม่ หรือซ่อมแซมให้คืนสภาพเดิม หรือจัดหาสินทรัพย์มาทดแทนทั้งหมด หรือบางส่วน
ลองคำนวณว่าประกันอัคคีภัยบ้าน ราคาเท่าไหร่
เมื่อตัดสินใจจะทำประกันอัคคีภัย ต้องรู้ด้วยว่าประกันอัคคีภัยบ้านราคาเท่าไหร่ที่จะครอบคลุมความเสียหายทั้งต่อตัวบ้านและทรัพย์สิน ก่อนอื่นเราควรรู้ก่อนว่าทุนประกันบ้านเปรียบเทียบกับมูลค่าสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินในครอบครองของเรานั้นเหมาะสมกันหรือไม่ ไม่ควรให้ทุนประกันน้อยกว่ามูลค่าจริงของบ้าน เพราะเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน จะทำให้เราตั้งรับได้ยาก เพราะประกันอัคคีภัยที่มีอยู่มีมูลค่าน้อยกว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น
เราสามารถลองประเมินราคาค่าประกันอัคคีภัยบ้านเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ โดยใช้สูตร
มูลค่าของบ้าน (บาท) = พื้นที่ใช้สอยชั้นล่าง (ตร.ม.) x จำนวนชั้น x ราคาค่าก่อสร้างต่อตารางเมตร (บาท)
จากนั้นจึงประเมินมูลค่าทรัพย์สิน โดยปกติจะคิดเป็น 20% ของมูลค่าบ้าน หรืออาจนับรวมสินทรัพย์อื่นๆ ภายใต้เงื่อนไขความคุ้มครองตามที่กล่าวมาข้างต้นได้
การหามูลค่าทรัพย์สิน ใช้สูตร
มูลค่าของทรัพย์สิน = (มูลค่าของบ้าน x 20%) + มูลค่าทรัพย์สินอื่นๆ (บาท)
สุดท้ายให้ลองนำตัวเลขที่ได้มาคำนวณเบี้ยประกันอัคคีภัยแบบเบื้องต้น โดยประมาณจาก 0.1% ต่อปีของทุนประกัน หรือราวล้านละ 1,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันการเงินผู้รับทำประกัน และการประเมินมูลค่าทรัพย์สินอย่างถูกต้องตามเงื่อนไขด้วย ซึ่งสามารถสอบถามเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ และศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกประกันอัคคีภัยให้บ้านของเรา
เทคนิคการเลือกซื้อประกันอัคคีภัย
- เลือกจากความคุ้มครองที่ต้องการ แนะนำให้สำรวจสถานที่ตั้งและสภาพแวดล้อมโดยรอบของที่อยู่อาศัยว่ามีความเสี่ยงด้านใดบ้าง ไม่เฉพาะแค่ไฟไหม้จากสาเหตุต่างๆ แต่อาจรวมถึงภัยจากน้ำท่วม ลมพายุ แผ่นดินไหว หรือการโจรกรรม
- พิจารณาทรัพย์สินที่สามารถเอาประกันได้ โดยเฉพาะทรัพย์สินอื่นๆ ภายในที่พักอาศัย หรือพวกข้าวของเครื่องใช้และของมีค่าต่างๆ ควรประเมินให้ถี่ถ้วน แล้วเลือกประกันอัคคีภัยเปรียบเทียบความคุ้มครองให้ดีก่อนตัดสินใจ
- เลือกเงินทุนประกันอัคคีภัยที่เหมาะสมตามมูลค่าของที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินภายในบ้าน ทางที่ดีคือควรมีทุนประกันไม่น้อยกว่า 70% ของมูลค่าทรัพย์สิน
- ทำความเข้าใจเรื่องค่าเสียหายส่วนแรกของการเคลมประกัน โดยเฉพาะเมื่อทุนประกันต่ำกว่า 70% ของมูลค่าบ้านและทรัพย์สิน กล่าวคือ หากทุนประกันอยู่ที่ 60% ของมูลค่าทรัพย์สิน เจ้าของจะต้องรับผิดชอบค่าความเสียหายส่วนแรกเอง คิดเป็น 40% ของมูลค่าความเสียหาย เลือกอัตราการชำระเบี้ยประกันที่คุ้มค่า เพราะในบางกรณีการจ่ายเบี้ยประกันมากกว่าหนึ่งปีจะทำให้เบี้ยประกันถูกลง ยิ่งเลือกประกันอัคคีภัยแบบจ่ายครั้งเดียวคุ้มครองได้หลายปี ก็จะยิ่งคุ้มค่ามากขึ้น
ทางเลือกคุ้มครองบ้าน ด้วยประกัน “บ้านปลอดภัย”
ท้ายที่สุดแล้ว เราทุกคนต่างก็ต้องการคุ้มครองที่อยู่อาศัยให้ปลอดภัยด้วยกันทั้งนั้น การทำประกันภัยบ้านเปรียบเทียบกับการทำประกันชีวิตและสุขภาพ ก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะช่วยเพิ่มความอุ่นใจและความมั่นคงให้กับชีวิต เนื่องจากเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้หลายลักษณะ การทำประกันจึงต้องครอบคลุมไว้ก่อน อย่างเช่นความคุ้มครองจากธนาคารกรุงไทยที่นำเสนอประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย “บ้านปลอดภัย” ที่คุ้มครองสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินจากภัยต่างๆ ทั้งกรณีไฟไหม้ ฟ้าผ่า ระเบิด การเฉี่ยวชนจากยานพาหนะ ภัยธรรมชาติ และภัยอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมง่ายๆ แค่ คลิก