เทรดทองคำออนไลน์ เทคนิคลงทุนทองให้ได้โอกาสทำกำไรสำหรับมือใหม่
เคยสังเกตหรือไม่ว่า เมื่อใดที่สถานการณ์โลกมีความตึงเครียด ทั้งจากภาวะโรคระบาด สงคราม หรือวิกฤติเศรษฐกิจ ราคาทองคำมักจะดีดตัวสูงขึ้นเสมอ นั่นเป็นเพราะทองคำคือ Safe Haven หรือสินทรัพย์ปลอดภัยของนักลงทุน ที่ยังคงรักษามูลค่าในตัวเองได้แม้อยู่ท่ามกลางวิกฤติ แถมยังมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในระยะยาวอีกด้วย
ประเภทของการลงทุนทองคำ
หลักพื้นฐานของการลงทุนทองคำก็คือ การรอจังหวะซื้อขายในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนสามารถติดตามสถานการณ์โลก เพื่อวิเคราะห์และหาจังหวะซื้อขายได้ด้วยตัวเอง หรือง่ายกว่านั้นคือการติดตามราคาทองอย่างใกล้ชิดแล้วรีบซื้อขายให้ได้ราคาตามต้องการ ทว่าการลงทุนทองคำนั้นมีหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบมีข้อจำกัดในการซื้อขายต่างกัน ก่อนอื่นเลยจึงต้องเข้าใจก่อนว่าเราสามารถลงทุนกับทองคำได้ในรูปแบบใดบ้าง
1. ทองรูปพรรณ
นิยมซื้อเพื่อสะสมและสวมใส่เป็นเครื่องประดับ โดยราคาทองรูปพรรณจะบวกค่ากำเหน็จซึ่งก็คือค่าฝีมือในการขึ้นรูปทองให้มีความสวยงาม จะถูกหรือแพงก็ขึ้นอยู่กับความสวยงาม
ข้อควรระวังคือ หากทองผ่านการสวมใส่อาจมีการเสื่อมมูลค่าได้ เมื่อนำไปขายคืนก็จะมีค่าเสื่อมราว 5% ของราคาทอง ดังนั้นการจะลงทุนทองและขายคืนทองรูปพรรณให้ได้กำไรจะค่อนข้างยาก เพราะทั้งต้องดูแลรักษา และรอจังหวะเวลานานกว่าจะมีโอกาสทำกำไร
2. ทองคำแท่ง
ทองคำแท่งไม่มีค่ากำเหน็จ แต่มีค่าบล็อกประมาณ 100 บาทต่อแท่ง เมื่อขายคืนจะไม่ถูกหักค่าเสื่อมเหมือนทองรูปพรรณ จึงขายได้กำไรดีกว่าและเป็นที่นิยมสำหรับการลงทุนมากกว่า
อย่างไรก็ดี ทองรูปพรรณและทองคำแท่งยังแตกต่างกันที่น้ำหนักทอง โดยทองคำแท่ง 1 บาท มีน้ำหนัก 15.244 กรัม ส่วนทองรูปพรรณ 1 บาท มีน้ำหนัก 15.16 กรัม ทำให้ทองทั้งสองแบบมีราคาต่างกัน แม้จะมีความบริสุทธิ์เท่ากัน ในประเทศไทย ทองคำที่มีการซื้อขายจะมีสัดส่วนทองคำบริสุทธิ์ 96.5% ส่วนในต่างประเทศจะมีสัดส่วนความบริสุทธิ์อยู่ที่ 99.99%
3. การลงทุนทองคำผ่านกองทุนรวม และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Gold Futures)
การลงทุนทองทั้งสองรูปแบบนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่เข้าใจเครื่องมือการลงทุนเป็นอย่างดี เพราะเก็งกำไรยาก ไม่สามารถติดตามข้อมูลและซื้อขายได้แบบ Real Time และมีเงื่อนไขในการซื้อขาย รวมทั้งต้องคำนึงถึงอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินด้วย
4. การเทรดทองคำออนไลน์
การเทรดทองคำออนไลน์ หรือการเทรดทองคำผ่านแอปพลิเคชัน สามารถซื้อขายทองผ่านแอปได้ราคาแบบ Real Time และแลกเปลี่ยนเป็นทองคำแท่งเอาไว้ในครอบครองได้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนเพื่อเก็งกำไร เพราะซื้อง่าย ขายคล่อง และจับต้องได้ ปัจจุบันมีผู้ให้บริการเทรดทองคำออนไลน์ที่น่าเชื่อถือและอำนวยความสะดวกได้ดีกว่าการซื้อขายทองคำทั่วไป โดยสามารถเทรดออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง แอปฯ คู่ใจที่คนไทยต้องมี
ข้อดีของการเทรดทองคำออนไลน์ ทางเลือกใหม่ของการลงทุนทองคำ
การเทรดทองคำออนไลน์ คือทางเลือกลงทุนกับทองคำที่ทันสมัย ปลอดภัย และเก็งกำไรได้ง่ายที่สุดวิธีหนึ่ง ทำให้ได้รับความนิยมจากนักลงทุนรุ่นใหม่ ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. ซื้อขายได้แบบ Real-time อ้างอิงราคาทองคำตามตลาดโลก
การเทรดทองคำออนไลน์ผ่านแอปเป๋าตัง จะอ้างอิงราคาตามตลาดโลก และสามารถซื้อขายได้ทุกที่ รวดเร็วแบบ Real-time ไม่ต้องเสียเวลาไปร้านทอง ที่สำคัญคือเราสามารถทยอยลงทุนได้ในมูลค่าไม่สูง ไม่จำเป็นต้องเก็บเงินซื้อให้ครบบาท และทองที่เราทยอยซื้อจะสะสมไว้ในแอปฯ ซื้อขายของเรา ซึ่งสามารถขายคืนได้เมื่อรวบรวมน้ำหนักได้ตามเงื่อนไข
2. ปลอดภัย ไม่ต้องเก็บทองไว้กับตัว
หลายคนอาจมองว่าการซื้อขายทองคำออนไลน์หรือลงทุนทองคำมีความเสี่ยง เพราะผู้ซื้อไม่มีทองจริง ๆ เก็บไว้กับตัว แต่ที่จริงแล้ว การเทรดทองออนไลน์กลับอุ่นใจได้มากกว่า หากเลือกเทรดผ่านแอปฯ ที่มั่นใจได้อย่างแอปฯ เป๋าตัง จากธนาคารกรุงไทย เพราะเป็นการซื้อขายผ่านระบบของสถาบันการเงินร่วมกับผู้ค้าทองคำชั้นนำที่เชื่อถือได้ จึงหายห่วงจากการถูกลักขโมยหรือสูญหาย
3. ซื้อขายได้มูลค่าเต็มๆ
อย่างที่บอกว่าการลงทุนทองคำในรูปแบบอื่น ๆ มีโอกาสเสียราคาทั้งจากค่ากำเหน็จ ค่าเสื่อม ค่าบล็อก อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือแม้แต่โอกาสขาดทุนจากการเก็งกำไรในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า แต่การเทรดทองคำออนไลน์สามารถซื้อขายได้เต็มมูลค่า เพราะนอกจากไม่มีค่าใช้จ่ายข้างต้นแล้ว ยังไม่มีการค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย จึงได้ราคาเน้น ๆ จากการจับจังหวะซื้อขายจริง ทั้งนี้ควรพิจารณาเลือกแอปฯ ที่สะดวก ใช้งานง่าย และตรวจเช็กเรื่องค่าธรรมเนียมก่อนเลือกใช้
ข้อควรรู้ก่อนเริ่มเทรดทองคำออนไลน์
ก่อนจะเริ่มซื้อขายทองออนไลน์ กับแอปฯ เป๋าตัง แนะนำให้ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นให้เข้าใจ ทั้งเรื่องการใช้งานแอปฯ และเงื่อนไขต่างๆ ในการซื้อขาย ดังนี้
1. ประเภททองคำ
การเทรดทองคำออนไลน์จะเป็นการซื้อขายทองคำแท่งที่ความบริสุทธิ์ 99.99% ด้วยสกุลเงินดอลลาร์ (USD) เพื่อลดความเสี่ยงจากค่าเงินที่ผันผวน
2. บัญชีที่ต้องมี
ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศหรือ FCD (Foreign Currency Deposit Account) ในการซื้อขาย ซึ่งการเปิดบัญชีไม่ยากเลย ยกตัวอย่างการเทรดทองออนไลน์ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ก็สามารถเปิดบัญชี eFCD ได้ทันทีผ่าน Gold Wallet บนแอปฯ เป๋าตัง ไม่ต้องเดินทางมาที่สาขา และยังตรวจสอบสถานะการทำรายการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
3. ค่าธรรมเนียม
การเทรดทองออนไลน์ผ่านช่องทางอื่นอาจมีค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย หรือหากต้องการรับทองคำแท่งอาจมีค่าบล็อกเพิ่มเติม แต่สำหรับการเทรดทองคำผ่าน Gold Wallet บนแอปฯ เป๋าตัง จะไม่มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายออนไลน์
4. วัน-เวลา ซื้อขายถอนทอง
เนื่องจากการเทรดทองออนไลน์จะอ้างอิงราคาตามตลาดโลกแบบ Real Time การส่งคำสั่งซื้อขายจึงสามารถทำได้ตลอดในเวลาทำการ 07.00 – 02.00 น. วันจันทร์ - ศุกร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้และให้ได้ราคาตามจริง ส่วนการถอนทองคำ สามารถส่งคำสั่งถอนทองคำผ่านแอปฯ เป๋าตัง ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 01.00-22.30 น. และเลือกรับทองคำแท่งได้ที่ร้านทองแม่ทองสุกทั้ง 5 สาขา
5. ขนาดการซื้อขั้นต่ำ
การซื้อขายขั้นต่ำอยู่ที่น้ำหนัก 0.1 ออนซ์ คิดเป็นมูลค่า 6,000 บาทต่อการซื้อหนึ่งครั้ง
6. การรับทองคำจริง
สามารถส่งคำสั่งถอนทองเป็นทองคำแท่งได้ โดยติดต่อรับทองที่สาขาห้างทองที่ใช้บริการร่วมกับแอปฯ
7. ขั้นตอนการสมัคร
สามารถดำเนินการสมัครเทรดทองออนไลน์ได้ง่ายผ่านแอปฯ ผู้ให้บริการ อย่างเช่นแอปฯ เป๋าตัง โดยเริ่มจากการสมัครใช้บริการ การผูกบัญชี ก็สามารถเริ่มต้นใช้งานได้แล้ว ดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตังได้ที่นี่ทั้ง Android และ iOS หรือสแกน QR Code ด้านล่างเลย
กดเพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อขายทองออนไลน์ด้วย Gold Wallet ผ่านแอปฯ เป๋าตังเพิ่มเติม
เทคนิคลงทุนทองคำ เพื่อโอกาสทำกำไรสำหรับมือใหม่
1. กำหนดระยะเวลาการลงทุนให้ชัดเจน
วิธีการลงทุนทองคำข้อสำคัญคือ ต้องรู้เป้าหมายการลงทุน ว่าเน้นเก็งกำไรระยะสั้น หรือลงทุนในระยะยาว เพราะราคาทองคำแม้จะปรับขึ้นตามสถานการณ์โลก ก็อาจมีแรงเทขายเพื่อทำกำไรได้เช่นกัน กรณีที่ต้องการลงทุนทองคำระยะยาว ก็สามารถขายเพื่อทำกำไรไว้ส่วนหนึ่ง แล้วรอจังหวะราคาทองลดลงเพื่อเข้าซื้ออีกครั้ง หรือจะถือครองยาว ๆ ก็ทำได้เช่นกัน
2. เลือกรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม
ไม่ว่าจะเป็นการเทรดทองออนไลน์ กองทุนรวมทองคำ กองทุนรวมอีทีเอฟทองคํา (Gold ETFs) และสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futures) สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องมีความเข้าใจในรูปแบบการลงทุนที่เลือก เพราะแต่ละรูปแบบมีความเสี่ยงที่ต่างกัน ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน
3. จัดกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม
เช่น การลงทุนระยะสั้นควรกำหนดจุดซื้อขายที่ชัดเจน หรือหากลงทุนระยะยาวก็สามารถถัวเฉลี่ยต้นทุนแบบ DCA เป็นประจำทุกเดือน เพื่อกระจายความเสี่ยง
รู้จักการเทรดทองคำและวิธีลงทุนทองไปแล้ว เชื่อว่าแม้จะเป็นนักลงทุนมือใหม่ก็สามารถเริ่มต้นเทรดได้อย่างไม่ยากนัก อย่างไรก็ตาม ขึ้นชื่อว่าการลงทุนไม่ว่าจะรูปแบบใด ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนตัดสินใจ รวมทั้งติดตามข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อให้ไม่พลาดโอกาสลงทุน และบริหารความเสี่ยงจากการลงทุนได้ดี
ขอบคุณข้อมูลจาก :
- https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/85-tsi-how-to-invest-in-gold-for-the-highest-return
- https://www.mtsgold.co.th/th/start-with-us/detail.php?ID=26002