นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
เนื่องจาก บมจ. ธนาคารกรุงไทย ได้รับการยกเว้นในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 แต่เพื่อแสดงความโปร่งใสของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย และเพื่อให้ท่านทราบถึงแนวปฏิบัติของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงวัตถุประสงค์ของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล บมจ. ธนาคารกรุงไทย จึงขอแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ให้ท่านทราบ โดยธนาคารจะดำเนินการตามพระราชบัญญัติฯ เมื่อพระราชบัญญัติฯ มีผลใช้บังคับกับธนาคารแล้ว ซึ่งรวมถึง การขอความยินยอมและการให้ใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อแสดงความโปร่งใสของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ("ธนาคาร") เกี่ยวกับกิจกรรมการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยและ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล โดยปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ธนาคารได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ รายละเอียด ดังนี้
ประเภทของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ได้แก่
- ลูกค้าบุคคลธรรมดาของธนาคาร ซึ่งรวมไปถึง บุคคลธรรมดาซึ่งใช้หรือเคยใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ผู้ติดต่อสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์หรือบริการ ผู้ที่รับทราบข้อมูลผลิตภัณฑ์หรือบริการผ่านสื่อต่าง ๆ และผู้ที่ได้รับการเสนอหรือชักชวนจากธนาคารให้ใช้หรือรับผลิตภัณฑ์หรือบริการ
- บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคลของธนาคาร เช่น ผู้แทนนิติบุคคล ผู้ถือหุ้นบุคคลธรรมดา ผู้ติดต่อ ตัวแทนบุคคลธรรมดาผู้รับมอบอำนาจ ลูกจ้าง พนักงาน เจ้าหน้าที่ บุคลากรและบุคคลอื่นในทำนองเดียวกันของลูกค้านิติบุคคลของธนาคาร รวมถึง บุคคลธรรมดาอื่นใดที่ลูกค้านิติบุคคลเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมายังธนาคารเพื่อดำเนินธุรกรรมกับธนาคาร ("บุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคล")
- ผู้ให้เช่าพื้นที่แก่ธนาคารในการประกอบการของธนาคาร เช่น การติดตั้งเครื่องรับจ่ายเงินอัตโนมัติ การจัดตั้งสาขาของธนาคาร ไม่ว่าจะในฐานะใด เช่น ผู้ให้เช่า ผู้แทนนิติบุคคลที่ให้เช่า ตัวแทนผู้ให้เช่า ลูกจ้างผู้ให้เช่า เป็นต้น ("ผู้ให้เช่าพื้นที่แก่ธนาคาร")
- ผู้ซื้อหรือประสงค์จะซื้อทรัพย์สินพร้อมขายของธนาคาร รวมถึง ผู้แทนนิติบุคคล ผู้ถือหุ้นบุคคลธรรมดา ผู้ติดต่อ ตัวแทนบุคคลธรรมดา ผู้รับมอบอำนาจ ลูกจ้าง พนักงาน เจ้าหน้าที่ บุคลากรและบุคคลอื่นในทำนองเดียวกันของผู้ซื้อหรือประสงค์จะซื้อทรัพย์สินพร้อมขายของธนาคาร ในกรณีที่นิติบุคคลที่ท่านดำเนินการให้เป็นผู้ซื้อหรือประสงค์จะซื้อทรัพย์สินพร้อมขายของธนาคาร ("ผู้ซื้อหรือประสงค์จะซื้อทรัพย์สินพร้อมขายของธนาคาร")
- ผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้นของธนาคาร คณะกรรมการหรือผู้บริหารหรือที่ปรึกษาของธนาคาร ("ผู้ที่มีความสัมพันธ์กับธนาคาร")
- บุคคลธรรมดาอื่นใดที่ธนาคารมีความสัมพันธ์ ปฏิสัมพันธ์ ติดต่อกันโดยประการอื่น หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับธนาคารไม่ว่าจะในทางใด ("บุคคลที่ติดต่อกับธนาคารในประการอื่น")(รวมเรียกว่า "ท่าน")
นโยบายความเป็นส่วนตัวจะใช้บังคับกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน โดยธนาคารอาจจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สาขา เว็บไซต์ อินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง (เช่น https://krungthai.com, https://www.ktbnetbank.com, https://moneyconnect.krungthai.com, Krungthai Corporate Online) แอปพลิเคชันมือถือ (เช่น Krungthai NEXT , Krungthai Connext , เป๋าตัง) เครือข่ายสังคมออนไลน์ (เช่น LINE:ไลน์ Facebook:เฟซบุ๊ก และ Twitter:ทวิตเตอร์) โทรศัพท์ โทรสาร ช่องทางการสื่อสารออนไลน์ (เช่น อีเมล) เอทีเอ็ม (ATM) ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Krungthai Contact Center) การสื่อสารแบบตัวต่อตัว จดหมาย ผ่านแบบสอบถาม นามบัตร ไปรษณีย์ การประชุมและงานกิจกรรมต่าง ๆ หรือเมื่อธนาคารไปเยี่ยมเยือนท่าน หรือจากแหล่งอื่น ๆ (เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์ หรือแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ) หรือผ่านบริษัทในเครือ บริษัทย่อย พันธมิตรทางธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ หรือบุคคลที่สาม และสถานที่อื่น ๆ และ/หรือ ช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ที่ธนาคารเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม โปรดอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ พร้อมกับข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริการที่ท่านใช้ซึ่งอาจมีการกำหนดแยกต่างหากเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตัวท่าน
1. การดำเนินการของธนาคารในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารเก็บรวบรวม
(1) ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับท่านโดยที่ข้อมูลนั้นสามารถระบุตัวตนท่านได้ไม่ว่าโดยตรงหรืออ้อม (ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม) ตามที่ระบุไว้ในข้อ 1.2
(2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกจัดให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนมีความอ่อนไหวตามกฎหมาย โดยธนาคารอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ได้แก่
1) ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือ ข้อมูลชีวมิติ ข้อมูลภาพถ่ายจำลองใบหน้า)
2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามที่ปรากฏในเอกสารระบุตัวตน หรือเอกสารประกอบการทำธุรกรรมและ/หรือนิติกรรมสัญญา หรือเอกสารประกอบการเปิดใชผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่างๆ (เช่น ศาสนา เชื้อชาติ)
3) ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและ/หรือความพิการ
4) ข้อมูลประวัติอาชญากรรม
ทั้งนี้ ธนาคารจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เฉพาะกรณีที่ธนาคารได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้ง หรือตามที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้น
1.2 ประเภทของลูกค้าและข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารเก็บรวบรวม
ธนาคารอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารเก็บรวบรวมจะขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างธนาคารกับท่าน ประเภทผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านต้องการจากธนาคาร ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านเป็นเจ้าของ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
(1) ลูกค้าบุคคลธรรมดา ผู้ให้เช่าพื้นที่แก่ธนาคาร ผู้ซื้อหรือประสงค์จะซื้อทรัพย์สินพร้อมขายของธนาคาร ผู้ที่มีความสัมพันธ์กับธนาคาร
1) ข้อมูลรายละเอียดส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ-นามสกุล เพศ วันเกิด อายุ น้ำหนัก ส่วนสูง หมู่เลือด สัญชาติ ประเทศที่เกิด ลายมือชื่อ สถานภาพครอบครัว สถานภาพการสมรส จำนวนบุตร ข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารที่หน่วยงานราชการออกให้ (เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง บัตรข้าราชการ หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี รายละเอียดใบอนุญาตขับขี่ เป็นต้น) ข้อมูลบนเอกสารการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล เอกสารที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ ใบอนุญาตทำงาน หนังสือรับรองถิ่นที่พักอาศัย โฉนดที่ดิน ภาพถ่าย เทปบันทึกเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ ข้อมูลที่บันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด สถานภาพทางการเมือง เอกสารที่เกี่ยวข้องกับวีซ่า และเอกสารทางกฎหมายอื่นๆ
2) ข้อมูลการศึกษา เช่น ประวัติการศึกษา วุฒิการศึกษา
3) ข้อมูลการทำงาน เช่น อาชีพ ตำแหน่ง รายละเอียดงาน ประเภทของธุรกิจ ประเภทขององค์กรที่ทำงาน อายุการทำงาน สถานที่ทำงาน ข้อมูลประกันสังคม ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในเอกสารที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เช่น เอกสารประกอบการธุรกิจ ทะเบียนการค้า ภพ.20 หนังสือรับรองธุรกิจ และเอกสารการเสียภาษีนิติบุคคล
4) ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ไปรษณีย์ตามบัตรประจำตัวประชาชน หรือทะเบียนบ้าน ที่อยู่ไปรษณีย์ปัจจุบัน ที่อยู่ไปรษณีย์ของที่ทำงาน รายละเอียดการจัดส่ง หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร แผนที่ ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง ที่อยู่อีเมล LINE ID บัญชี Facebook และ ID อื่นๆ จากเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ของท่าน
5) ข้อมูลทางการเงิน เช่น ระดับรายได้ แหล่งที่มาของรายได้และเงินลงทุน ประเทศแหล่งที่มาของรายได้และเงินลงทุน หนังสือรับรองเงินเดือน รายการเดินบัญชี สลิปเงินเดือน ข้อมูลสถานภาพทางการเงิน ชื่อและเลขที่บัญชีธนาคาร เลขที่บัตร ATM รหัสเข้าใช้บัตร ATM/เดบิต ข้อมูลสินเชื่อ เงินสำรอง หลักประกัน ภาระหนี้สิน หมายเลขบัตรเครดิต วันหมดอายุ คะแนนสะสม วงเงิน ยอดหนี้ ประเภทของบัตรเครดิต ผลรวมเครดิต ข้อมูลเงินฝาก กองทุน หุ้น ทรัพย์สินปลอดภาระ ค่าใช้จ่าย จำนวนเงินถอนหรือใช้จ่ายต่อวัน ข้อมูลเครดิต ข้อมูลสถานะการเป็นบุคคลล้มละลาย ใบเสร็จ บิลเงินสด ใบแจ้งหนี้ ใบแจ้งยอดธนาคาร รายละเอียดสัญญาทางการเงิน รายละเอียดเช็ค จำนวนภาษี ยอดคงเหลือ งบการเงิน และข้อมูลการทางเงินอื่นๆ
6) ข้อมูลที่เกี่ยวกับการให้บริการแก่ท่าน เช่น ประเภทผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านเลือก รายละเอียดตามใบคำขอสมัครใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของธนาคาร ข้อมูลในเอกสารประกอบการพิจารณาวงเงิน ข้อมูลในเอกสารประกอบการขอสินเชื่อ ข้อมูลเอกสารแนบบริการด้านโอนเงิน ข้อมูลหลักประกัน ข้อมูลที่สร้างขึ้นสำหรับใช้ภายในธนาคาร ข้อมูลเอกสารด้านประกันภัย รายละเอียด เบี้ยประกัน ประวัติการเอาประกันจากบริษัทประกัน ประวัติการเอาประกันจากบริษัทประกันอื่น ข้อมูลความจำเป็นในการเอาประกันในชีวิตประจำวัน อัตราส่วนการเป็นเจ้าของบัญชี ข้อมูลการจัดชั้น ข้อมูลการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ประวัติการชำระหนี้และดอกเบี้ย ข้อมูลการเปิดบัญชีธุรกรรม จุดประสงค์ในการลงทุน จำนวนกองทุนที่ถือ ชื่อกองทุน เลขผู้ถือหน่วยลงทุน การหักภาษี ณ ที่จ่าย ความสัมพันธ์ต่อพนักงานของบริษัทหรือต่อบริษัทอื่น ๆ รายละเอียดในแบบฟอร์มและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ KYC และ CDD ข้อมูลความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองหรือบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง ประสบการณ์ในการลงทุน ระดับของการยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนของท่าน ผลการทดสอบความเหมาะสม ระดับการเข้าถึงข้อมูลในระบบของท่าน ข้อมูลในหนังสือมอบอำนาจ หมายเลขบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ข้อมูลอื่นใดในเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นคำขอหรือการสมัครใช้บริการของธนาคาร
7) ข้อมูลทางธุรกรรม เช่น รายละเอียดการทำธุรกรรมถึงท่านและจากท่าน วันที่ และ/หรือ เวลาที่โอนเงินหรือกำหนดชำระเงิน วิธีการชำระเงินและการรับเงิน จำนวนเงินที่ทำธุรกรรม จำนวนเงินสุทธิที่ได้รับ ข้อมูลการโอนเงิน เลขที่เช็ค เหตุผลในการทำธุรกรรม ข้อมูลทางธุรกรรมของผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคาร ข้อมูลและรายละเอียดตามสัญญา วันหมดสัญญา วันที่ทำการติดต่อ เลขรหัสเครื่องให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ เอกสารประกอบการทำธุรกรรม (เช่น ทะเบียนบ้าน โฉนดที่ดิน สัญญาเช่าที่ดิน รูปและภาพถ่ายพื้นที่) รายละเอียดเกี่ยวกับการขอเงินคืน ใบตอบรับ ลายมือชื่อผู้รับธุรกรรม ประวัติธุรกรรม ตำแหน่งที่ตั้ง สถานะธุรกรรม คำร้องและการเรียกร้อง หลักฐานการวางเงินประกันซื้อทรัพย์สิน ค่าธรรมเนียม ค่าเสียโอกาส (กรณีขอขยายระยะเวลาซื้อทรัพย์) รายละเอียดข้อตกลงการซื้อขายทรัพย์ วันที่และสถานที่ซื้อทรัพย์ ข้อมูลที่ท่านให้ซึ่งปรากฏอยู่บนแบบฟอร์ม พฤติกรรมการซื้อ และรายละเอียดอื่น ๆ ของทรัพย์สินที่ท่านซื้อ (เช่น ประเภททรัพย์ ประเภทเอกสารสิทธิ ราคาขาย ตำแหน่งที่ตั้ง เนื้อที่ แผนที่ และหรือ ข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินพร้อมขายของธนาคารนั้น) ใบนำฝากเงิน บัตรชำระเงิน และเวลาในการซื้อที่ต้องการ
8) รายละเอียดทางเทคนิค เช่น ที่อยู่อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (Internet Protocol: IP) และข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์สื่อสารที่ท่านใช้ในการทำธุรกรรมกับธนาคาร
9) ข้อมูลที่เกี่ยวกับ FATCA ของท่าน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของท่านในประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น สัญชาติ สถานที่เกิด ถิ่นที่อยู่ถาวร และข้อมูลตามแบบสอบถามเพื่อหาข้อบ่งชี้การเป็นบุคคลของประเทศสหรัฐอเมริกา
10) รายละเอียดด้านพฤติกรรม เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับพฤติกรรม การดำรงชีวิต ทัศนคติ ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิสัมพันธ์อื่น ๆ และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการของท่านกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ ผลตอบรับและความคิดเห็นของท่านต่อประเภทผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านได้รับ รายละเอียดในการเรียกร้องสิทธิ และ การร้องเรียนของท่าน
11) รายละเอียดด้านการตลาดและการสื่อสาร เช่น ตัวเลือกของท่านในการรับข้อมูลทางการตลาดจากธนาคาร บริษัทในเครือ บริษัทย่อย บุคคลที่สาม พันธมิตรทางธุรกิจ และตัวเลือกในการติดต่อสื่อสารของท่าน
(2) บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคลของธนาคาร และบุคคลที่ติดต่อกับธนาคารโดยประการอื่น
1) ข้อมูลรายละเอียดส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ-นามสกุล วันเกิด อายุ สัญชาติ ลายมือชื่อ สถานภาพการสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารที่หน่วยงานราชการออกให้ (เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง เป็นต้น) รายละเอียดในแบบฟอร์มและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ KYC และ CDD ข้อมูลความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองหรือบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง ข้อมูลที่บันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
2) ข้อมูลการทำงาน เช่น อาชีพ ตำแหน่ง รายละเอียดงาน ประเภทของธุรกิจ ประเภทขององค์กรที่ทำงาน อายุการทำงาน สถานที่ทำงาน ระดับการเข้าถึงข้อมูลในระบบ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในเอกสารที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เช่น บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หนังสือมอบอำนาจ หนังสือแสดงตนผู้มีอำนาจในนามบริษัท
3) ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ไปรษณีย์ตามบัตรประจำตัวประชาชนหรือทะเบียนบ้าน ที่อยู่ไปรษณีย์ปัจจุบัน ที่อยู่ไปรษณีย์ของที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่อีเมล
(3) ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม
หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่ธนาคาร เช่น ผู้ค้ำประกัน ผู้บริหารระดับสูง ผู้มีอำนาจ ผู้ได้รับมอบอำนาจ กรรมการ ผู้ถือหุ้น พนักงาน ลูกจ้าง ผู้ก่อตั้งทรัสต์และทรัสตี ตัวแทน บุคคลที่อยู่ในสายการควบคุมหรือการเป็นเจ้าของ เจ้าของร่วม และบุคคลท่านอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ลูกค้าของธนาคาร และบุคคลอื่นใดที่ท่านมีความสัมพันธ์ด้วยอันเกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์ที่ท่านมีกับธนาคาร โดยให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวแก่ธนาคาร เช่น ชื่อ นามสกุล รายละเอียดที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์สำหรับการติดต่อฉุกเฉินและการทวงถามหนี้ และรายได้ของสมาชิกในครอบครัว โปรดแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้แก่บุคคลที่สามดังกล่าวเพื่อให้รับทราบนโยบายฯ และขอความยินยอมหากจำเป็น หรือมีฐานทางกฎหมายอื่นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามมายังธนาคารด้วย
(4) ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ ผู้เสมือนไร้ความสามารถ และผู้ไร้ความสามารถ
ธนาคารเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และบุคคลไร้ความสามารถเมื่อได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองเท่านั้น ธนาคารไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่อายุต่ำกว่า 20 ปีโดยไม่มีความยินยอมของผู้ปกครองตามที่กฎหมายกำหนด หรือจากบุคคลเสมือนไร้ความสามารถและบุคคลไร้ความสามารถโดยไม่มีความยินยอมของผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลตามกฎหมาย แล้วแต่กรณี ในกรณีที่ธนาคารทราบว่าธนาคารเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลใดที่อายุต่ำกว่า 20 ปีโดยไม่มีความยินยอมของผู้ปกครองตามที่กฎหมายกำหนด หรือจากบุคคลเสมือนไร้ความสามารถและบุคคลไร้ความสามารถโดยไม่มีความยินยอมของผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาล ตามกฎหมาย แล้วแต่กรณี โดยไม่ได้ตั้งใจ ธนาคารจะลบข้อมูลส่วนบุคคลนั้นทันทีหรือจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะกรณีที่มีฐานทางกฎหมายอื่นที่นอกเหนือจากความยินยอม หรือตามที่กฎหมายอนุญาต
2. ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใด
ธนาคารอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
2.1 วัตถุประสงค์ที่อาศัยความยินยอมของท่าน
(1) วัตถุประสงค์ทางการตลาดและการสื่อสาร: เพื่อดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการตลาดและการสื่อสาร การโฆษณาทางการตลาด การขาย ข้อเสนอพิเศษ ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ โปรโมชันและการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคาร กลุ่มธุรกิจทางการเงิน บริษัทในเครือของธนาคาร พันธมิตรทางธุรกิจ และนิติบุคคลอื่น เฉพาะในกรณีที่ธนาคารต้องอาศัยความยินยอมจากท่านเท่านั้น
(2) การวิจัย จัดทำข้อมูลทางสถิติและทำธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูล: เพื่อใช้ในธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล (data analytics business) ของธนาคาร กลุ่มธุรกิจทางการเงิน บริษัทในเครือของธนาคารพันธมิตรทางธุรกิจ และนิติบุคคลอื่น เฉพาะในกรณีที่ธนาคารต้องอาศัยความยินยอมจากท่านเท่านั้น
(3) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ธนาคารอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านเพื่อจุดประสงค์ดังต่อไปนี้
1) ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือ ข้อมูลชีวมิติ ข้อมูลภาพถ่ายจำลองใบหน้า) เพื่อการพิสูจน์ตัวตน KYC และ CDD และเพื่อการยืนยันตัวบุคคล รวมถึงการให้บริการแก่ท่าน
2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามที่ปรากฏในเอกสารระบุตัวตน (เช่น ศาสนา เชื้อชาติ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น โดยธนาคารไม่มีวัตถุประสงค์และนโยบายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าวนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่าน
3) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามที่ปรากฏในเอกสารประกอบการทำธุรกรรมและ/หรือนิติกรรมสัญญา หรือเอกสารประกอบการเปิดใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ (เช่น ศาสนา เชื้อชาติ)
ทั้งนี้ ธนาคารจะดำเนินการขีดฆ่าหรือปิดทับข้อมูลในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน (เช่น ศาสนา เชื้อชาติ) ที่ปรากฏอยู่บนเอกสารระบุตัวตน หรือเอกสารประกอบการทำธุรกรรมและ/หรือนิติกรรมสัญญา หรือเอกสารประกอบการเปิดใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่างๆ โดยธนาคารอาจดำเนินการดังกล่าวด้วยตนเองโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ท่านทราบ หรือธนาคารอาจขอให้ท่านเป็นผู้ดำเนินการขีดฆ่าหรือปิดทับข้อมูลในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านด้วยตนเอง
หากฐานทางกฎหมายคือการขอความยินยอม ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมของท่านตลอดเวลา ซึ่งท่านสามารถทำได้โดยติดต่อผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Krungthai Contact Center) |
หมายเลขโทรศัพท์ : 02-111-1111 |
สาขาของธนาคารกรุงไทย |
ที่ทำการสาขาทั่วประเทศ |
ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Krungthai Contact Center) |
หมายเลขโทรศัพท์ : 02-111-1111 |
สาขาของธนาคารกรุงไทย |
ที่ทำการสาขาทั่วประเทศ |
ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนที่จะมีการถอนความยินยอม
2.2 วัตถุประสงค์ต่างๆ และฐานทางกฎหมายอื่นๆ สำหรับเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ธนาคารจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยอาศัยฐานทางกฎหมายว่าด้วยประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ฐานการเข้าทำและการปฏิบัติตามสัญญา ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาต แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างธนาคารกับท่าน เช่น ท่านใช้บริการใดของธนาคาร เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
(1) เพื่อการลงทะเบียนและการยืนยันตัวตน เช่น เพื่อลงทะเบียนผลิตภัณฑ์หรือบริการแก่ท่าน พิสูจน์ ระบุ และยืนยันท่านหรือตัวตนของท่าน ผู้มีอำนาจ หรือตัวแทนของท่าน รวมถึงการพิสูจน์ตัวตนหรือยืนยันตัวตนของท่านทางดิจิทัล
(2)เพื่อจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการและบริหารงานลูกค้าสัมพันธ์ เช่น เพื่อเข้าทำข้อตกลงหรือสัญญาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการและจัดการความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นกับท่าน เพื่อพิจารณาคุณสมบัติของท่าน (เช่น ตรวจสอบสถานะการเป็นบุคคลล้มละลาย เพื่อวิเคราะห์สถานะของกิจการของท่านและบุคคลที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น) เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกรรมและกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการแก่ท่าน เช่น รับฝากเงิน รับถอนเงิน จ่ายเงิน หรือรับชำระเงิน เพื่อพิจารณาอนุมัติการมอบผลิตภัณฑ์หรือให้บริการต่างๆ เพื่อส่งมอบรายละเอียดของข้อตกลงหรือสัญญา ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ธุรกรรมทางการเงิน และบริการที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบ การยืนยัน และการยกเลิกธุรกรรม เพื่อรับ/ส่งจดหมาย พัสดุ และเอกสารสำคัญถึงท่าน เพื่อจัดทำรายงานแจ้งลูกค้าสำหรับข้อมูลที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ เพื่อส่งมอบข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อรายงานสภาพหนี้ ติดตามทวงถามหนี้ และการจัดชั้นลูกหนี้ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร และความถูกต้องของหลักประกัน วงเงิน ดอกเบี้ย ระยะเวลาที่ขอชำระ เพื่อประมวลผลการชำระเงิน การทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบัญชี การจัดทำบัญชีและงบดุล ตรวจสอบความถูกต้องของการลงบัญชี เพื่อประเมินผลประโยชน์ทับซ้อน ให้บริการจัดการหรือการดำเนินธุรกรรมหลังการขาย เพื่อจัดสรรและยกเลิกกิจกรรมที่ไม่มีการเคลื่อนไหว (เช่น ทำการยกเลิกการให้บริการ หรือยกเลิกบัญชีของท่าน)
(3) เพื่อสร้างความประทับใจด้วยบริการหลังการขาย เช่น เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่ท่านได้รับจากธนาคาร ภายในกลุ่มธนาคาร บริษัทในเครือ บริษัทย่อย หรือจากพันธมิตรทางธุรกิจของธนาคาร เพื่อประมวลผลและอัปเดตข้อมูลของท่านในฐานะลูกค้าของธนาคาร เพื่อให้คำปรึกษา คำแนะนำ และอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านในการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อจัดการกับคำถามที่เกี่ยวข้องกับการบริการลูกค้า เพื่อจัดการข้อร้องเรียน คำขอ คำติชม การเรียกร้องประกันของท่าน เพื่อจัดการกับปัญหาทางเทคนิค เพื่อแจ้งและให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาแก่ท่าน เพื่อดำเนินกิจกรรมด้านการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า
(4) เพื่อการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับสัญญาขอเช่าพื้นที่ เช่น การลงสำรวจพื้นที่ การวิเคราะห์พื้นที่ รวมถึง เครื่องรับจ่ายเงินอัตโนมัติอื่นๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง การวิเคราะห์แนวโน้มการใช้เครื่องให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ในพื้นที่นั้นๆ การดำเนินการต่อรอง เจรจาเงื่อนไขสัญญา การดำเนินการจัดทำสัญญา การติดตั้งเครื่องให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ และการดำเนินการอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการเข้าทำสัญญา
(5) เพื่อการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมซื้อขายทรัพย์สินพร้อมขายของธนาคารและการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การเข้าทำสัญญาและดำเนินการตามหน้าที่ในสัญญา การดำเนินธุรกรรมซื้อขาย การโอนกรรมสิทธิ์ การดำเนินขั้นตอนการวางเงินมัดจำ การจัดการกระบวนการภายในเพื่อการอนุมัติการขยายระยะเวลาซื้อทรัพย์ การอำนวยความสะดวกแก่กระบวนการขอกู้สินเชื่อ การมอบงานให้แก่บุคคลอื่นที่เป็นผู้ให้บริการภายนอกและการโอนสิทธิเรียกร้อง
(6) เพื่อการติดต่อสื่อสาร เช่น การติดต่อใด ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการเข้าทำสัญญาเช่าจองพื้นที่ เช่น กรณีการขอข้อมูลหรือเอกสารเพิ่มเติม การติดต่อเพื่อแจ้งการชำระเงิน การแจ้งรอบกำหนดหมดสัญญา การนัดหมายดำเนินการการทำสัญญาเพื่อให้ผู้ให้เช่าลงลายมือชื่อ การจัดส่งเอกสารการทำสัญญา และการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกรรม การให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวเนื่องทรัพย์สินที่ท่านสนใจ การแจ้งเตือนชำระหนี้ การทำความเข้าใจความต้องการและความสนใจของท่าน
(7) เพื่อให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตน เช่น ให้บริการสนับสนุนกระบวนการทำความรู้จักลูกค้าด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-KYC) กระบวนการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (Digital Identification)
(8) เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด การส่งเสริมการขาย และการสื่อสาร เช่น เพื่อดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการตลาดและการสื่อสาร การโฆษณาทางการตลาด การขาย ข้อเสนอพิเศษ ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ โปรโมชันและการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคาร กลุ่มธุรกิจทางการเงิน บริษัทในเครือของธนาคารพันธมิตรทางธุรกิจ และนิติบุคคลอื่น ตามที่ท่านได้ระบุความต้องการของท่านไว้หรือเคยได้ใช้บริการมาก่อน รวมถึง ข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการที่ใกล้เคียงกับความสนใจและประวัติการรับผลิตภัณฑ์และบริการ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อให้ท่านสามารถเข้าร่วมการเสนอการขาย ข้อเสนอและสิทธิพิเศษ แคมเปญ งานกิจกรรม งานสัมมนา การจัดให้มีการแข่งขัน การชิงโชค การชิงรางวัล การตั้งบูธและอีเว้นท์ร่วมกับสาขาเพื่อพบปะกับท่าน รวมถึงการส่งเสริมการขายอื่นๆ และบริการโฆษณาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ท่านในการเข้าร่วมงานกิจกรรมของธนาคาร ในกรณีที่ธนาคารไม่ต้องอาศัยความยินยอมจากท่าน
(9) เพื่อการค้นหาและแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสม เช่น เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการที่ท่านอาจจะสนใจ เพื่อทราบถึงความต้องการของท่าน และปรับผลิตภัณฑ์และบริการให้เหมาะสมกับท่าน
(10) เพื่อปรับปรุงการดำเนินธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ และบริการ เช่น เพื่อประเมิน วิจัยการตลาด วิเคราะห์ จัดทำแบบจำลองและพัฒนาบริการ ผลิตภัณฑ์ การจัดจำหน่าย ระบบ โครงสร้างในเชิงภูมิศาสตร์ และการดำเนินธุรกิจเพื่อท่านและลูกค้าของธนาคารทั้งหมดและภายในกลุ่มธนาคารซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะพันธมิตรทางธุรกิจของธนาคาร เพื่อออกกลยุทธ์และแคมเปญผลิตภัณฑ์ของธนาคารให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า เพื่อกำหนดประสิทธิภาพของแคมเปญส่งเสริมการขายของธนาคาร เพื่อจัดทำรายงานเชิงภาพรวม เพื่อดำเนินโปรแกรมการฝึกอบรมสำหรับพนักงาน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจและเพื่อปรับเนื้อหาของธนาคารให้เหมาะกับความชอบของลูกค้าของธนาคารได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เห็นและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่
(11) เพื่อเรียนรู้ความต้องการ และสามารถตอบสนองให้เกิดความพึงพอใจ เช่น เพื่อทราบข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่ท่านได้รับ และผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่นที่ท่านอาจสนใจ รวมถึงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตัวอย่างเช่น ด้วยการพิจารณาประเภทของผลิตภัณฑ์และบริการที่ท่านใช้จากธนาคาร ท่านต้องการให้ธนาคารติดต่อท่านอย่างไร ฯลฯ เพื่อทราบข้อมูลจากการสำรวจความพึงพอใจในการใช้บริการของธนาคารและการประเมินเครดิตลูกค้า
(12) เพื่อบริหารจัดการเว็บไซต์ แอปพลิเคชันมือถือ และแพลตฟอร์ม เช่น เพื่อบริหารจัดการ ดำเนินการ ติดตาม ตรวจสอบ และจัดการเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มของธนาคารเพื่ออำนวยความสะดวกและให้แน่ใจว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ทำงานได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์และแพลตฟอร์มของธนาคาร เพื่อปรับปรุงการจัดวางรูปแบบ และปรับปรุงเนื้อหาของเว็บไซต์และแพลตฟอร์มของธนาคารเพื่อการให้บริการแก่ท่าน
(13) เพื่อจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการธุรกิจของธนาคาร รวมถึงเพื่อการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการระบบการสื่อสาร การรักษาความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการตรวจสอบความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการธุรกิจเพื่อการปฏิบัติตามข้อกำหนด นโยบาย และกระบวนการภายใน
(14) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กระบวนการทางกฎหมาย หรือคำสั่งของหน่วยงานรัฐ ซึ่งรวมถึงคำสั่งของหน่วยงานรัฐนอกประเทศไทย และ/หรือ ให้ความร่วมมือกับศาล ผู้มีอำนาจ หน่วยงานของรัฐบาล และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเมื่อธนาคารมีเหตุผลให้เชื่อว่ากฎหมายกำหนดให้ธนาคารปฏิบัติดังกล่าวและหากจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กระบวนการ หรือคำสั่งของรัฐบาล เพื่อให้และจัดการกับบริการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อออกใบกำกับภาษีหรือแบบยื่นภาษีฉบับเต็ม เพื่อบันทึกและตรวจสอบการติดต่อสื่อสาร เพื่อจัดการกับใบสั่งและภาษีถนน เพื่อแจ้งธุรกรรมต้องสงสัยต่อหน่วยงานด้านป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อเปิดเผยข้อมูลแก่หน่วยงานด้านภาษี ผู้บังคับใช้กฎหมายด้านบริการทางการเงิน และหน่วยงานรัฐและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ และตรวจสอบหรือป้องกันอาชญากรรม
(15) เพื่อปกป้องประโยชน์อันชอบธรรมของธนาคาร เช่น เพื่อรักษาความปลอดภัยและความถูกต้องของธุรกิจของธนาคารหรือบริษัทในเครือของธนาคาร เพื่อใช้สิทธิของธนาคารและปกป้องผลประโยชน์ของธนาคารหรือบริษัทในเครือของธนาคารเมื่อจำเป็นและชอบด้วยกฎหมาย ตัวอย่างเช่น เพื่อตรวจสอบ ป้องกัน และตอบสนองต่อข้อร้องเรียนเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต ข้อร้องเรียนเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรือการละเมิดกฎหมาย เพื่อจัดการและป้องกันการสูญเสียทรัพย์สิน เพื่อดูแลให้มีการปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของธนาคาร เพื่อตรวจสอบและป้องกันการกระทำผิดภายในสถานที่ของธนาคาร ซึ่งรวมถึง การใช้งานกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อติดตามสถานการณ์ ต่าง ๆ เพื่อป้องกันและรายงานอาชญากรรมที่เกิดขึ้นหรืออาจจะเกิดขึ้น เพื่อดำเนินการบริหาร การจัดทำรายงาน นโยบายภายในตามขอบเขตในการปฏิบัติงานของธนาคาร
(16) เพื่อตรวจสอบและป้องกันความเสี่ยงทางธุรกิจต่อธนาคาร เช่น เพื่อพิสูจน์ตัวตนของท่าน เพื่อตรวจสอบว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบอื่น ๆ (เช่น เพื่อปฏิบัติตามกฎด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และป้องกันการทุจริต ภัยคุกคามทางไซเบอร์ การผิดนัดชำระหนี้/ผิดสัญญา การทำผิดกฎหมายต่าง ๆ (เช่น การฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ และชื่อเสียง)) รวมถึงการทำการตรวจสอบและบันทึกเป็นการภายใน การจัดการทรัพย์สิน ฐานข้อมูลด้านความเสี่ยงทางธุรกิจต่อธนาคาร ระบบ และการควบคุมธุรกิจอื่น ๆ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงานของธนาคารหรือนิติบุคคลในกลุ่มธุรกิจเดียวกันกับธนาคารในการป้องกัน รับมือ ลด หรือดำเนินการอย่างอื่นในทำนองเดียวกันเพื่อให้ความเสี่ยงข้างต้นหมดสิ้นไป
(17) เพื่อบริหารความเสี่ยง เช่น เพื่อจัดการความเสี่ยง ตรวจสอบประสิทธิภาพ และประเมินความเสี่ยง เพื่อจัดตั้งดัชนี ชี้วัดความเสี่ยง จัดทำการสรุปข้อมูลสำหรับการบริหารความเสี่ยง เพื่อวิเคราะห์และคาดเดาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงวิธีการรับมือ เพื่อประเมินความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ และแนะนำหากต้องมีการเปลี่ยนแปลงและหาวิธีการใดๆ ในการจัดการความเสี่ยง
(18) เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการเกี่ยวกับธุรกรรมองค์กร เช่น ในกรณีของการขาย การโอน การควบรวม การฟื้นฟูกิจการ หรือกรณีอื่นที่คล้ายกัน ธนาคารอาจโอนข้อมูลของท่านให้กับบุคคลที่สามหนึ่งฝ่ายหรือมากกว่าในฐานะส่วนหนึ่งของการดำเนินการดังกล่าว
(19) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(20) เพื่อการดำเนินการตามหน้าที่อื่นๆ ของธนาคาร สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างธนาคารกับท่าน เช่น ท่านในฐานะผู้ถือหุ้นของธนาคารที่ธนาคารจะดำเนินการจัดประชุมผู้ถือหุ้น หรือท่านในฐานะคณะกรรมการหรือผู้บริหารหรือที่ปรึกษาของธนาคารที่ธนาคารดำเนินการแต่งตั้ง หรือ ท่านในฐานะผู้ถือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่ธนาคารดำเนินการในฐานะเป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์หรือผู้รับฝากทรัพย์สินกองทุนส่วนบุคคล รวมทั้ง ท่านในฐานะใดๆ ก็ตามที่ธนาคารจะต้องดำเนินการอันเนื่องมาจากหน้าที่ตามสัญญาหรือข้อตกลงใดๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับธนาคาร อาจส่งผลกระทบต่อท่าน เช่น ธนาคารไม่อาจดำเนินการตามที่ท่านร้องขอได้ ท่านอาจไม่ได้รับความสะดวก หรือไม่ได้รับการปฏิบัติตามสัญญาและท่านอาจได้รับความเสียหายหรือเสียโอกาส นอกจากนี้ การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ ที่ธนาคารหรือท่านต้องปฏิบัติตาม และอาจมีบทกำหนดโทษที่เกี่ยวข้อง
2.3 การจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่ธนาคารเก็บไว้ก่อนพระราชบัญญัติฯ มีผลใช้บังคับกับธนาคาร
หากท่านเป็นลูกค้าเดิมของธนาคารก่อนพระราชบัญญัติฯ มีผลใช้บังคับกับธนาคาร ธนาคารอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ได้แก่ (1) ศาสนา (2) เชื้อชาติ (3) ความพิการ (4) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวประกอบการทำธุรกรรมและ/หรือนิติกรรมสัญญา (5) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวประกอบการเปิดใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่างๆ (6) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวสำหรับผลิตภัณฑ์ประกันภัย (เช่น ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ศาสนา เชื้อชาติ ประวัติอาชญากรรม) ต่อไป ทั้งนี้เพื่อการเก็บหลักฐานเอกสารเท่านั้น โดยธนาคารจะไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น
3. ธนาคารอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง
ธนาคารอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลที่สามดังต่อไปนี้ ซึ่งการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บุคคลที่สามเหล่านี้อาจอยู่ในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยก็ได้ ท่านสามารถดูนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลเหล่านี้เพื่อทราบรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีที่บุคคลเหล่านี้เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจากท่านคือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่สามดังกล่าวด้วยเช่นกัน
3.1 บริษัทในเครือ
ธนาคารอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุในข้อ 2 ด้านบนแก่ กลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร และบริษัทในเครือของธนาคาร การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคลของท่านให้กับกลุ่มธุรกิจทางการเงินและบริษัทในเครือดังกล่าว จะทำให้บริษัทอื่น ๆ เหล่านั้น สามารถใช้ความยินยอมที่ธนาคารได้มา
3.2 ผู้ให้บริการของธนาคาร
ธนาคารอาจใช้บริการบริษัท ตัวแทน หรือผู้รับจ้างอื่นเพื่อให้บริการต่าง ๆ แทนธนาคารหรือเพื่อช่วยในการดำเนินธุรกิจและการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่าน รวมถึงดำเนินการใดๆ เพื่อประโยชน์แก่ท่าน ธนาคารอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทนของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการสนับสนุนการประกอบธุรกิจ ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ ผู้ให้บริการหรือผู้จัดหาผลิตภัณฑ์บริการจากภายนอกอื่นใด เพื่อสนับสนุนการให้บริการของธนาคาร ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะ (1) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ซอฟต์แวร์ นักพัฒนาเว็บไซต์ สื่อดิจิทัล ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและบริษัท ผู้ให้บริการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้จัดหา สนับสนุนหรือให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ดิจิทัล เช่น จัดทำและให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์ม รวมถึงบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี (Platform as a Service) แอปพลิเคชัน หรือระบบงานอื่นใดให้แก่ธนาคาร การให้บริการพิสูจน์ยืนยันตัวตนให้แก่ธนาคาร (2) ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง (3) ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินและระบบการชำระเงิน (4) บริษัทที่ให้บริการด้านการวิจัย (5) บริษัทที่ให้บริการด้านการวิเคราะห์ (6) บริษัทที่ให้บริการด้านการสำรวจ (7) ผู้ตรวจสอบบัญชี (8) ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (9) บริษัทที่ให้บริการด้านการตลาด สื่อโฆษณา การออกแบบ การสร้างสรรค์ และการสื่อสาร (10) บริษัทที่ให้บริการด้านแคมเปญ งานกิจกรรม การจัดงานด้านการตลาด และการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (11) ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมและการสื่อสาร (12) ผู้ให้บริการด้านธุรการจากภายนอก (13) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์ (14) ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ (15) ทนายความ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของธนาคาร รวมถึง การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายและต่อสู้สิทธิเรียกร้องในทางกฎหมาย ผู้ตรวจสอบบัญชีและ/หรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ๆ ในการช่วยเหลือการดำเนินธุรกิจของธนาคาร (16) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บและ/หรือทำลายเอกสาร (17) ผู้ให้บริการติดตามทวงถามหนี้
ในระหว่างการให้บริการดังกล่าว ผู้ให้บริการอาจมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ผู้ให้บริการเท่าที่จำเป็นต่อการให้บริการเท่านั้น และธนาคารจะขอให้ผู้ให้บริการไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ธนาคารจะดำเนินการให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการที่ธนาคารทำงานด้วยรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด
3.3 พันธมิตรทางธุรกิจของธนาคาร
ธนาคารอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจของธนาคารเพื่อดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ลูกค้าของธนาคารและกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มในการใช้บริการจากธนาคาร ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ บริษัทที่ออกบัตร บริษัทที่คีย์ข้อมูล บริษัทบัตรเครดิต บริษัทที่ให้บริการรับชำระค่าผลิตภัณฑ์และบริการ บริษัทที่ให้บริการด้านการวิเคราะห์ ผู้ให้บริการด้านการสำรวจวิจัยการตลาด ผู้ให้บริการการทำธุรกรรมทางการเงิน โครงการอสังหาริมทรัพย์ พันธมิตรทางธุรกิจที่ออกผลิตภัณฑ์ร่วมกัน (เช่น co-brand) และ ผู้สนับสนุนอื่น ๆ
3.4 บุคคลภายนอกที่กฎหมายกำหนด
ในบางกรณี ธนาคารอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงคำสั่งที่ออกตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล กรมบังคับคดี ผู้มีอำนาจ หน่วยงานรัฐบาล หรือบุคคลอื่นหากธนาคารเชื่อว่ามีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อปกป้องสิทธิของธนาคาร สิทธิของบุคคลที่สาม หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง ความปลอดภัย รวมทั้งความเสี่ยงอื่นใด
ทั้งนี้ ธนาคารอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงานฯ ที่ https://www.oic.or.th
3.5 สมาคมและชมรม
ในบางกรณี ธนาคารอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่สถาบัน สมาคม หรือชมรมที่เกี่ยวข้อง เช่น ชมรมป้องกันและปราบปรามการทุจริต (Fraud Association) รวมถึงสมาคมธนาคารไทย เพื่อปกป้องสิทธิของธนาคาร สิทธิของบุคคลที่สาม เพื่อความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง ความปลอดภัย รวมทั้งความเสี่ยงอื่นใด
3.6 ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือ หน้าที่
ในกรณีของการฟื้นฟูกิจการ การควบรวมกิจการ การโอนธุรกิจไม่ว่าทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง การขาย การซื้อ การดำเนินกิจการร่วมค้า การมอบ การโอน หรือการจำหน่ายส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของธุรกิจ ทรัพย์สิน หุ้น หรือธุรกรรมอื่นที่คล้ายกัน ธนาคารย่อมมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สามที่ได้รับการโอนหรือที่ประสงค์จะรับโอนสิทธิของธนาคาร ทั้งนี้ ธนาคารจะดำเนินการให้บุคคลดังกล่าวต้องปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เมื่อมีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยและ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
3.7 บุคคลภายนอก
ธนาคารอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานทางกฎหมายตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ แก่บุคคลภายนอกอื่น ๆ เช่น ธนาคารตัวแทน ธนาคารคู่ค้า และธนาคารอื่น ๆ ลูกค้าท่านอื่น ผู้ทำธุรกรรมกับท่านหรือเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมกับท่าน บุคคลอื่นที่มีการอ้างอิงตามกฎหมาย สมาชิกของระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล และ ผู้ให้บริการระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล เป็นต้น แล้วแต่กรณี
4. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ
ธนาคารอาจจะต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกประเทศไทยไปยังประเทศซึ่งอาจมีมาตรฐานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าประเทศไทย เช่น เมื่อธนาคารเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนแพลตฟอร์มคลาวด์หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทยเพื่อรับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เมื่อธนาคารจะต้องส่งข้อมูลธุรกรรมการโอนเงินระหว่างประเทศไปยังธนาคารที่อยู่ในต่างประเทศ ผ่านตัวกลางการจัดการการโอนเงินระหว่างประเทศ
เมื่อมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่ำกว่าประเทศไทย ธนาคารจะดำเนินการให้แน่ใจว่ามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกโอนในระดับที่เพียงพอ หรือดำเนินการให้แน่ใจว่ากฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลได้ ตัวอย่างเช่น ธนาคารอาจจะต้องได้รับคำยืนยันตามสัญญาจากบุคคลภายนอกที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองภายใต้มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่ากับประเทศไทย
5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
ธนาคารจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้โดยมีระยะเวลาเท่าที่จำเป็นต่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ธนาคารได้รับข้อมูลดังกล่าวมา ทั้งนี้ เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ธนาคารอาจต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานขึ้นหากกฎหมายกำหนด
6. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิในส่วนนี้หมายถึงสิทธิตามกฎหมายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งท่านอาจขอใช้สิทธิเหล่านี้ต่อบุคคลที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดและกระบวนการจัดการสิทธิของธนาคาร สิทธิดังกล่าวรวมถึงสิทธิต่อไปนี้
(1) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิเข้าถึงหรือขอสำเนาของข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศเกี่ยวกับตัวท่าน เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของท่าน ธนาคารอาจขอให้ท่านยืนยันตัวตนก่อนให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านขอ
(2) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ หากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน
(3) สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารมีเกี่ยวกับตัวท่าน ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และมีโครงสร้างชัดเจน และมีสิทธิขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น โดยที่ข้อมูลนี้เป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่ธนาคาร (ข) ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลนี้โดยอาศัยความยินยอมของท่านหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่มีกับท่าน
(4) สิทธิในการคัดค้านข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบางรายการได้ เช่น คัดค้านไม่ให้ใช้เพื่อทำการตลาดทางตรง
(5) สิทธิในการจำกัดการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิจำกัดการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในบางกรณี
(6) สิทธิในการถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมของท่านได้ทุกเมื่อสำหรับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ที่ท่านได้ยินยอมให้ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(7) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิขอให้ธนาคารลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารไม่จำเป็นต้องดำเนินการดังกล่าวหากธนาคารต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(8) สิทธิในการร้องเรียน ท่านอาจมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
หากท่านต้องการใช้สิทธิใด ๆ ที่ระบุในส่วนนี้ ท่านสามารถทำได้โดยติดต่อผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล |
ช่องทาง สาขาของธนาคาร : ทั่วประเทศ |
ช่องทาง ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ : Krungthai Contact Center : 02-111-1111 |
(1) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล |
/ |
/ |
(2) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล |
/ |
/ |
(3) สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล |
x |
/ |
(4) สิทธิในการคัดค้านข้อมูลส่วนบุคคล |
x |
/ |
(5) สิทธิในการจำกัดการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล |
x |
/ |
(6) สิทธิในการถอนความยินยอม |
/ |
/ |
(7) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล |
x |
/ |
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล |
ช่องทาง สาขาของธนาคาร : ทั่วประเทศ |
ช่องทาง ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ : Krungthai Contact Center : 02-111-1111 |
(1) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล |
/ |
/ |
(2) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล |
/ |
/ |
(3) สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล |
x |
/ |
(4) สิทธิในการคัดค้านข้อมูลส่วนบุคคล |
x |
/ |
(5) สิทธิในการจำกัดการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล |
x |
/ |
(6) สิทธิในการถอนความยินยอม |
/ |
/ |
(7) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล |
x |
/ |
คำร้องขอใช้สิทธิใด ๆ ข้างต้นอาจถูกจำกัดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาจมีบางกรณีที่ธนาคารสามารถปฏิเสธคำขอของท่านได้โดยสมควรและโดยชอบ เช่น เมื่อธนาคารต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล
ท่านสามารถแสดงเจตนาขอใช้สิทธิในการถอนความยินยอมตาม (6) (รวมทั้ง ขอเปลี่ยนแปลงความยินยอมที่เคยให้ไว้) ผ่านช่องทางสาขาของธนาคารทั่วประเทศ หรือช่องทางศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ : Krungthai Contact Center : 02-111-1111 หรือช่องทางอื่นตามที่ธนาคารกำหนด เมื่อธนาคารได้รับการแสดงเจตนาจากท่านแล้ว ธนาคารจะพิจารณาการแสดงเจตนาของท่านตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีระยะเวลาในการดำเนินการ 30 (สามสิบ) วันนับตั้งแต่วันที่ธนาคารได้รับการแสดงเจตนาและเอกสารประกอบของท่านครบถ้วนและเพียงพอต่อการพิจารณาการขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยและ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยธนาคาร เป็นการละเมิดกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม ท่านอาจแจ้งให้ธนาคารทราบถึงข้อกังวลของท่านก่อน เพื่อให้ธนาคารพิจารณาแก้ไขข้อกังวลของท่าน โปรดติดต่อธนาคารผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนลูกค้า (Krungthai Complaint Center) |
จดหมาย : ตู้ ปณ.44 ศฝ.หัวลำโพง กรุงเทพฯ 10331 |
ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Krungthai Contact Center) |
หมายเลขโทรศัพท์ : 02-111-1111 |
ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนลูกค้า (Krungthai Complaint Center) |
จดหมาย : ตู้ ปณ.44 ศฝ.หัวลำโพง กรุงเทพฯ 10331 |
ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Krungthai Contact Center) |
หมายเลขโทรศัพท์ : 02-111-1111 |
7. การดำเนินการเกี่ยวกับลูกค้านิติบุคคล
ธนาคารไม่มีเจตนาในการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้านิติบุคคลหรือข้อมูลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด ทั้งนี้ ธนาคารจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวภายในธนาคารเท่านั้น
ในกรณีที่ลูกค้านิติบุคคลของธนาคารเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคล ท่านในฐานะลูกค้า นิติบุคคลมีหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้ เพื่อให้ธนาคารให้บริการหรือผลิตภัณฑ์แก่ท่านได้
(ก) ได้ตรวจสอบความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่เปิดเผยให้แก่ธนาคารและจะแจ้งธนาคารหากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่ได้ให้ไว้ (หากมี)
(ข) ได้รับความยินยอมหรือสามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นสำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
(ค) ได้แจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้แก่บุคคลดังกล่าวแล้ว และ
(ง) จะดำเนินการเพื่อให้ธนาคารสามารถเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอน ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และเพื่อวัตถุประสงค์การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องให้เสร็จสิ้น ซึ่งรวมถึงการที่ธนาคารมีสิทธิที่จะรายงานผลการทำธุรกรรมของลูกค้ารายย่อยของลูกค้านิติบุคคล รวมถึงข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้อง กลับไปยังลูกค้านิติบุคคลได้
8. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
ธนาคารอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราวหากมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของธนาคารอันเนื่องมาจากเหตุผล ต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย โดยการแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะมีผลใช้บังคับเมื่อธนาคารเผยแพร่บน https://krungthai.com อย่างไรก็ตาม หากการแก้ไขดังกล่าว มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ธนาคารจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าตามความเหมาะสมก่อนที่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะมีผลใช้บังคับ
9. การติดต่อธนาคาร
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติและกิจกรรมของธนาคารที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อธนาคารหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของธนาคารได้ตามรายละเอียดด้านล่าง โดยธนาคารยินดีที่จะช่วยเหลือท่านในการให้ข้อมูล และข้อเสนอแนะ โปรดติดต่อธนาคาร
(1) บมจ.ธนาคารกรุงไทย
- เลขที่ 35 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Krungthai Contact Center) หมายเลขโทรศัพท์ : 02-111-1111
- https://krungthai.com
(2) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO)
ฝ่าย Data Protection
- เลขที่ 35 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- Email: dpo.official@krungthai.com