คำถามที่พบบ่อย
Krungthai Travel Visa Platinum Card
-
บัตร Krungthai Travel Visa Platinum Card คืออะไร
-
บัตรเดียวที่สามารถ
- แลกเงินตราต่างประเทศเก็บไว้ตามสกุลเงินที่รองรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุด
- รองรับการแลกเปลี่ยน 19 สกุลเงิน ได้แก่ AUD, CAD, CHF, DKK, EUR, GBP, HKD, INR, JPY, KRW, MYR, NOK, NZD, RUB, SEK, SGD, TWD, USD และ THB
- ถอนเงินสดด้วยสกุลเงินที่แลกเก็บไว้ได้ทั่วโลก (ในประเทศที่รองรับสกุลเงินนั้นๆ)
- สามารถใช้จ่ายที่ร้านค้าภายใต้มาตรฐาน Visa ด้วยสกุลเงินที่รองรับได้ทั่วโลก
- สามารถใช้ซื้อสินค้า online บนเว็บไซต์และชำระด้วยสกุลเงินที่รองรับ
-
-
บัตร Krungthai Travel Visa Platinum Card เหมาะกับใคร
-
ลูกค้าที่จะเดินทางไปต่างประเทศ และต้องการแลกเงินตราต่างประเทศ
นักเรียน นักศึกษาที่กำลังจะเดินทางไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ
-
-
สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมของบัตร Krungthai Travel Visa Platinum Card
-
ประกันอุบัติเหตุการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ด้วยวงเงินประกันคุ้มครองสูงสุด 6,000,000 บาท ในกรณีใช้บัตร Krungthai Travel Visa Platinum ชำระค่าบัตรโดยสารยานพาหนะสาธารณะ (รายละเอียดและเงื่อนไขตามที่ธนาคารกำหนด)
-
-
บัตร Krungthai Travel Visa Platinum Card มีบริการใดบ้าง
-
-
การใช้งานบัตร
- ใช้ถอนเงินที่ตู้ ATM ได้ภายใต้ สกุลเงินที่รองรับและแลกเก็บไว้
- ใช้รูดหรือใช้จ่าย เพื่อซื้อสินค้าและบริการ ภายใต้สกุลเงินที่รองรับและแลกเก็บไว้ ณ ร้านค้ารับบัตร
- ใช้ซื้อสินค้า online บนเว็บไซต์และชำระด้วยสกุลเงินที่รองรับ
-
บริการเพิ่มเติม
- บริการโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินที่รองรับ (เปิดให้บริการผ่านสาขาธนาคารกรุงไทย)
- บริการชำระเงิน QR Code ในต่างประเทศด้วยสกุลเงินที่รองรับ
-
การใช้งานบัตร
-
-
ข้อดีของการใช้บัตร Krungthai Travel Visa Platinum Card คืออะไร
-
- สามารถแลกเงินเก็บไว้ในอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุด ตามสกุลเงินที่เปิดให้บริการ
- สามารถถอนหรือใช้จ่ายผ่านบัตรได้ที่ ATMหรือร้านค้ารับบัตร Visa ทั่วโลกภายใต้สกุลเงินที่รองรับ
- ลดความเสี่ยงในการถือเงินสดระหว่างเดินทาง
- สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ โดยหากถอนหรือใช้จ่ายเกินกว่าจำนวนเงินที่แลกไว้ รายการจะถูกปฏิเสธ และสามารถแลกเพิ่มได้ตลอดเวลา
- สามารถเปิด-ปิดการใช้งานบัตรได้ด้วยตัวเองตลอดเวลา
- ใช้จ่ายสบายไม่เสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5%
- รองรับบริการโอนเงิน และชำระเงินด้วย QR Code ในต่างประเทศด้วยเงินสกุลเงินที่แลกเก็บไว้ในบัตร
-
-
การสมัครใช้งานบัตรทำอย่างไร
-
- เปิดบัญชีออมทรัพย์/กระแสรายวัน และสมัครบัตร Krungthai Travel Visa Platinum Card และสมัคร Krungthai NEXT และทำการเปิดใช้งาน
- สมัครบัตร Krungthai Travel Visa Platinum Card และสมัคร Krungthai NEXT application และทำการเปิดใช้งาน
-
-
เงื่อนไขและเอกสารในการสมัครบัตร มีอะไรบ้าง
-
-
เงื่อนไขและเอกสารในการสมัครบัตรหลัก มีอะไรบ้าง
- ต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย
- อายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- บัตรประจำตัวประชาชน
- มีบัญชีออมทรัพย์ หรือ กระแสรายวัน
- เปิดใช้บริการ Krungthai NEXT
- บุคคลสามารถสมัครบัตรหลักได้เพียงรายละ 1 บัตร
-
เงื่อนไขและเอกสารในการสมัครบัตรเสริมฯ มีอะไรบ้าง
- ต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย
- ผู้ถือบัตรเสริมฯต้องมีอายุ 10 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- บัตรประจำตัวประชาชนของทั้งผู้ถือบัตรหลักและบัตรเสริมฯ
- บุคคลสามารถถือบัตรเสริมฯได้เพียงรายละ 1 บัตร และสามารถสมัครบัตรเสริมฯให้ผู้อื่นได้รายละ 3 บัตร
-
เงื่อนไขและเอกสารในการสมัครบัตรหลัก มีอะไรบ้าง
-
-
อัตราดอกเบี้ยของเงินที่สกุลต่างๆที่แลกเก็บไว้จะได้รับดอกเบี้ยหรือไม่
-
ไม่ได้ รับดอกเบี้ย
-
-
สามารถตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนได้อย่างไร
-
ลูกค้าสามารถตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนได้ผ่านเวปไซต์ของธนาคารและแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
-
-
Krungthai Travel Visa Platinum Card สามารถใช้งานในประเทศไทยได้หรือไม่
-
ลูกค้าสามารถสมัครบริการผูกบัญชีเงินฝากเพื่อเปิดใช้งานสกุลเงินบาทรองรับการใช้งานในประเทศไทย
-
-
การถอนเงินผ่านตู้ ATM ต่างประเทศทำได้หรือไม่
-
ทำได้ โดยจะต้องถอนเงินภายใต้สกุลเงินที่รองรับและแลกเก็บไว้เท่านั้น
-
-
การถอนเงินผ่านตู้ ATM ที่ต่างประเทศทำอย่างไร
-
เลือกถอนเงินจากบัญชีกระแสรายวัน และถอนเงินได้ที่ตู้ ATM ที่รองรับได้ตามสกุลเงินที่กำหนด ภายใต้มาตรฐานบัตร Visa ได้ทั่วโลก โดยถอนจากบัตร Krungthai Travel Visa Platinum Card ที่ได้แลกเงินเก็บไว้
-
-
การถอนเงินที่ตู้ ATM ที่ต่างประเทศจะต้องกดรหัส PIN อย่างไร
-
- รองรับทั้ง PIN 4 หลัก และ 6 หลัก กรณีทำรายการด้วย PIN 4 หลัก กด 4 หลักแรก เพื่อทำรายการ
-
-
การรูดซื้อสินค้าที่ร้านค้า แล้วร้านค้าให้ใส่ PIN ลูกค้าจะต้องใส่ PIN จากไหน
-
สามารถใส่ PIN เช่นเดียวกับที่ถอนเงินที่ตู้ ATM
-
-
การรูดซื้อสินค้า สามารถรูดซื้อได้ที่ไหนบ้าง
-
สามารถรูดเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ ได้ทุกที่ที่รองรับสกุลเงินตามที่กำหนด ภายใต้มาตรฐานบัตร Visa ได้ทั่วโลก (หากนอกเหนือจากสกุลเงินที่กำหนดจะไม่สามารถทำรายการได้)
-
-
การซื้อสินค้า online สามารถทำได้หรือไม่
-
สามารถใช้ซื้อสินค้า online บนเวปไซต์และชำระด้วยสกุลเงินที่รองรับ
-
-
กรณีซื้อสินค้าผ่านเว็บไซด์ eBay จะต้องทำอย่างไร
-
เลือกชำระด้วยบัตร จากนั้น เลือก “More exchange rate options” และเลือก “ชำระเป็นสกุลเงินของผู้ขาย”
-
-
สามารถสมัคร verified by VISA ได้ที่ไหน
-
สามารถสมัครได้ผ่าน Krungthai NEXT, ตู้กรุงไทย ATM หรือ Krungthai Contact Center 02-111-1117 หรือโทรฟรีจากต่างประเทศ +800-1111-111
วิธีการใช้บริการโทรฟรีจากต่างประเทศ เช่น หากโทรจากประเทศสหรัฐอเมริกา (USA) ลูกค้าสามารถกดหมายเลข 011 800 1111 1117 คลิกดูวิธีการโทรและรายชื่อประเทศที่โทรฟรี
-
-
วิธีการตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัตร
-
สามารถตรวจสอบการทำรายการต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
-
-
กรณีต้องการแลกเงินสกุลต่างประเทศ คืนเป็นเงินบาท ทำอย่างไร
-
สามารถขายเงินที่แลกไว้คืนเป็นเงินบาทผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT และเงินจะโอนเข้าบัญชีที่ลูกค้าเลือกในแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
-
-
วิธีการตรวจสอบการทำรายการ
-
สามารถตรวจสอบการทำรายการต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
-
-
ทำอย่างไรหากบัตรหมดอายุ
-
- ลูกค้าสามารถขอออกบัตรใหม่ทดแทนบัตรใบเดิมได้ที่สาขาธนาคาร เพื่อการใช้งานอย่างต่อเนื่อง
- ลูกค้ายังคงขายเงินคืนได้ตลอดเวลาผ่าน Krungthai NEXT
-
-
หากต้องการยกเลิกบัตรและมีเงินคงเหลือใบบัตร
-
- ลูกค้าจะต้องทำการขายเงินสกุลต่างๆที่แลกไว้ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT เข้าบัญชืที่ลูกค้าเลือกในแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
- ติดต่อสาขาเพื่อทำการยกเลิกบัตร
-
-
หากพบปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานบัตร หรือสอบถามข้อมูล
-
กรุณาติดต่อ Krungthai Contact Center 02-111-1117 หรือโทรฟรีจากต่างประเทศ +800-1111-1117
วิธีการใช้บริการโทรฟรีจากต่างประเทศ เช่น หากโทรจากประเทศสหรัฐอเมริกา (USA) ลูกค้าสามารถกดหมายเลข 011 800 1111 1117 คลิกดูวิธีการโทรและรายชื่อประเทศที่โทรฟรี
-
-
การจัดส่งบัตร
-
- จัดส่งบัตรที่สาขา : ไม่มีค่าธรรมเนียมในการจัดส่ง ลูกค้าจะได้รับบัตรภายใน 5-7 วันทำการ
- จัดส่งบัตรตามที่อยู่ : มีค่าธรรมเนียมการจัดส่งบัตร 42 บาท / บัตร ธนาคารจะจัดส่งบัตรออกภายใน 1 วันทำการ ลูกค้าจะได้รับบัตร ภายใน 2-3 วันทำการ สำหรับพื้นที่กรุงเทพ และปริมณฑล และ 3-4 วันทำการ สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัด
-
-
เพราะเหตุใด ถึงมีการปรับปรุงรายการทั้งที่ไม่มีการใช้บัตรในวันนั้น
-
ร้านค้า/ผู้ให้บริการสามารถส่งเรียกเก็บเงินย้อนหลังจากการใช้บัตรชำระค่าสินค้า/บริการ อาทิ ค่าทิปจากร้านอาหาร, ค่าที่พัก/โรงแรม, ปั๊มน้ำมัน, ค่าทางด่วน, ค่าโดยสารขนส่งสาธารณะ, ค่าเช่ารถ, ค่าที่จอดรถ เป็นต้น ทำให้มีการปรับปรุงรายการเพิ่มเติมในบัตร ซึ่งอาจเป็นการหักเงินเพิ่มเติม รวมทั้งรายการคืนเงินจากร้นค้า/ผู้ให้บริการดังกล่าว
-
-
เพราะเหตุใด ถึงมีการปรับปรุงรายการใช้บัตรโดยการหักบัญชีเงินฝาก
-
กรณีที่มีรายการเรียกเก็บเงินย้อนหลังจากร้านค้า/ผู้ให้บริการ ซึ่งเกิดจากการใช้บัตรชำระค่าสินค้า/บริการ แต่ยอดเงินในบัตรมีไม่เพียงพอ จะมีการหักชำระเพิ่มเติมจากบัญชีเงินฝากอื่นๆ ที่ลูกค้ามีอยู่กับธนาคารฯ โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ธนาคารกำหนด ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการปรับปรุงรายการใช้บัตรโดยการหักเงินที่บัญชีเงินฝาก ควรสำรองเงินในบัตรให้เพียงพอตามยอดที่มีการใช้จ่ายเสมอ
-
-
เพราะเหตุใด การขอคืนTax Refund (กรณีนักท่องเที่ยว) จากผู้ให้บริการในต่างประเทศ แต่ได้รับเงินคืนเป็นสกุลไทยบาท
-
โดยปกติธนาคารฯ จะดำเนินการคืนเงินตามข้อมูลที่ได้รับจากผู้ให้บริการ หากข้อมูลการคืนเงินเป็นสกุลไทยบาท หรือ สกุลต่างประเทศ จะดำเนินการคืนเงินตรงตามสกุลเงินที่ได้รับข้อมูล กรณีมีการคืนเงินด้วยสกุลต่างประเทศที่ไม่มีให้บริการในบัตร จะคืนเงินเป็นสกุลไทยบาท หากลูกค้าได้รับเงินไม่ตรงตามสกุลเงินที่ได้ตกลงกับผู้ให้บริการ สามารถติดต่อผู้ให้บริการโดยตรงเพื่อตรวจสอบข้อมูลตามเอกสารที่ลูกค้าได้รับจากผู้ให้บริการ
-
-
การขอคืนTax Refund (กรณีนักท่องเที่ยว) จะได้รับเงินภายในระยะเวลากี่วัน
-
ธนาคารฯ จะดำเนินการคืนเงินให้ลูกค้าภายในระยะเวลา 3 วัน นับจากวันที่ผู้ให้บริการส่งรายการ Tax Refund เข้ามายังธนาคารฯ
-
-
หากมีการยกเลิกรายการกับทางร้านค้า จะได้รับเงินคืนภายในกี่วัน
-
การคืนเงินจะแบ่งออกเป็น 3 กรณี
1. ร้านค้าส่งข้อมูลยกเลิกรายการ/ส่งข้อมูลคืนเงินมายังธนาคาร >> ธนาคารจะดำเนินการปรับปรุงคืนเงินโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 3 วัน นับจากวันที่ธนาคารได้รับข้อมูลคืนเงินจากร้านค้า
2. ร้านค้าไม่ส่งข้อมูลการยกเลิกรายการ แต่ยังไม่มีการเรียกเก็บเงิน >> ธนาคารจะดำเนินการปรับปรุงคืนเงินโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำรายการ หรือ 37 วัน กรณีเป็นรายการจากร้านค้าประเทศญี่ปุ่น
3. ร้านค้าไม่ส่งข้อมูลการยกเลิกรายการ และมีการเรียกเก็บเงินแล้ว (กรณีลูกค้าแจ้งปฏิเสธรายการ) >> ธนาคารจะทำการปฏิเสธรายการ (Dispute) ไปยังธนาคารร้านค้า โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 30 วัน เป็นอย่างน้อย และหากมีข้อโต้แย้งจากทางร้านค้า และลูกค้ายืนยันให้ติดตามต่อจะต้องใช้ระยะเวลาเพิ่มเติมเกินกว่าที่กำหนด โดยระยะเวลาการแจ้งผลการตรวจสอบบัญชี เป็นไปตามประกาศมาตรฐานระยะเวลาการให้บริการทางการเงินของธนาคารซึ่งกำหนดว่า “ธนาคารจะดำเนินการตรวจสอบและทักท้วงไปยังธนาคารร้านค้าและแจ้งผลการดำเนินการให้ลูกค้าทราบนับจากวันที่ธนาคารได้รับแจ้งจากลูกค้าเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 90 วัน”
-
-
เพราะเหตุใด รายการใช้จ่ายที่ปั๊มน้ำมันในต่างประเทศ จึงมีการตัดเงินไม่ตรงกับสลิปที่ทำรายการจริง
-
จะมีการตรวจสอบสถานะบัตรก่อนให้บริการเติมน้ำมัน โดยหลังจากที่ลูกค้าได้ทำการเติมน้ำมันเสร็จสิ้นแล้ว ผู้ให้บริการในบางประเทศ จะส่งรายการเข้ามาเรียกเก็บกับธนาคารตามจำนวนเงินที่ทำรายการจริงในภายหลัง ทั้งนี้ในขั้นตอนการตรวจสอบสถานะบัตร ธนาคารฯ จะมีการตัดเงินไว้ส่วนหนึ่งแยกตามสกุลเงิน ดังนี้
- AUD - 40 AUD
- CAD - 40 CAD
- CHF - 30 CHF
- DKK- 200 DKK
- EUR - 27 EUR
- GBP - 25 GBP
- HKD - 245 HKD
- INR - 2100 INR
- JPY - 7000 JPY
- KRW - 38000 KRW
- MYR- 140 MYR
- NOK- 300 NOK
- NZD - 45 NZD
- RUB - 2,000 RUB
- SEK - 300 SEK
- SGD - 40 SGD
- THB - 3,000 THB
- TWD - 1050 TWD
- USD - 30 USD
อย่างไรก็ตาม เมื่อธนาคารได้รับข้อมูลการเรียกเก็บเงินจากผู้ให้บริการแล้วพบว่า เป็นรายการที่ตัดเงินไว้มากกว่ายอดเงินที่ใช้บริการจริง ธนาคารจะดำเนินการคืนเงินภายในระยะเวลา 3 วัน นับจากวันที่ได้รับข้อมูลจากผู้ให้บริการ แต่หากเป็นรายการที่ตัดเงินไว้น้อยกว่ายอดเงินที่ใช้บริการจริง ธนาคารจะดำเนินการหักเงินเพิ่มเติมภายในระยะเวลา 1 วัน นับจากวันที่ได้รับข้อมูลจากผู้ให้บริการ ดังนั้นควรมีการสำรองเงินไว้ในบัตรให้เพียงพอ ทั้งนี้หากยอดเงินในบัตรมีไม่เพียงพอ จะหักชำระเพิ่มเติมจากบัญชีเงินฝากอื่นๆ ที่ลูกค้ามีอยู่กับธนาคาร โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ธนาคารกำหนด
-
-
การชำระค่าโดยสารที่ระบบขนส่งสาธารณะ (Mass Transit) จะถูกหักชำระเงินเมื่อไหร่
-
การหักชำระเงินของระบบ Mass Transit นั้นจะมี 2 กรณี คือ
1. การทำรายการครั้งแรก ณ วันที่ทำรายการ ผู้ให้บริการจะมีการตรวจสอบข้อมูลบัตร ซึ่งลูกค้าจะถูกหักชำระเงินไปก่อนจำนวนหนึ่ง และเมื่อผู้ให้บริการส่งข้อมูลเรียกเก็บเงินเข้ามาในภายหลัง ธนาคารฯ จะดำเนินการปรับปรุงรายการโดยการหักเงินเพิ่มเติมตามส่วนต่างที่ได้รับข้อมูลจากผู้ให้บริการ ภายในระยะเวลา 1 วัน นับจากวันที่ได้รับข้อมูลจากผู้ให้บริการ
2. ในกรณีที่ลูกค้ามีการใช้งานที่ Mass Transit หลายครั้งใน 1 วัน ผู้ให้บริการจะส่งข้อมูลเรียกเก็บเงินตามยอดเงินรวมที่ลูกค้ามีการใช้จริงมายังธนาคารฯ ในช่วงสิ้นวันหรือวันอื่นๆถัดไป ตามแต่ละผู้ให้บริการ ซึ่งธนาคารฯ จะดำเนินการหักเงินภายในระยะเวลา 1 วัน นับจากวันที่ได้รับข้อมูลจากผู้ให้บริการ ดังนั้นควรมีการสำรองเงินไว้ในบัตรให้เพียงพอ ทั้งนี้หากยอดเงินในบัตรมีไม่เพียงพอ จะหักชำระเพิ่มเติมจากบัญชีเงินฝากอื่นๆ ที่ลูกค้ามีอยู่กับธนาคาร โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ธนาคารกำหนด
-
-
การชำระค่าอาหารที่ร้านอาหาร ทำไมถึงมีรายการเรียกเก็บเพิ่มเติมในภายหลัง
-
รายการที่เรียกเก็บเพิ่มเติม ส่วนมากจะเป็นค่าทิป ที่ลูกค้าอาจมีการระบุในสลิป และ/หรือการตกลงเพิ่มเติมกับผู้ให้บริการ ซึ่งผู้ให้บริการจะมีการส่งข้อมูลมาเรียกเก็บเงินตามจำนวนเงินที่รวมค่าทิปมายังธนาคารหลังจากที่มีการหักชำระค่าอาหารไปก่อนแล้ว เมื่อธนาคารฯ ได้รับข้อมูลจะดำเนินการหักเงินเพิ่มเติมภายในระยะเวลา 1 วัน นับจากวันที่ได้รับข้อมูลจากผู้ให้บริการ ดังนั้นควรมีการสำรองเงินไว้ในบัตรให้เพียงพอ ทั้งนี้หากยอดเงินในบัตรมีไม่เพียงพอ จะหักชำระเพิ่มเติมจากบัญชีเงินฝากอื่นๆ ที่ลูกค้ามีอยู่กับธนาคาร โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ธนาคารกำหนด
-