คำถามที่พบบ่อย

ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล
Krungthai Corporate Online
บริการจองซื้อหลักทรัพย์ออนไลน์ (ผ่านระบบ Money Connect by Krungthai)
  • กรณีที่หากทำรายการจองซื้อหลักทรัพย์ไม่สำเร็จ
    • ตัวอย่างที่พบบ่อยหากผู้จองซื้อทำขั้นตอนการจองซื้อในระบบถูกต้อง มีเงินในบัญชีเพียงพอสำหรับการจองซื้อการทำรายการจองซื้อไม่สำเร็จ หรืออาจเกิดได้จากคุณสมบัติผู้จองซื้อบางประการ ยกตัวอย่างเช่นติดเงื่อนไขลูกค้าเปราะบางของธนาคาร (ขอให้พิจารณาเงื่อนไขลูกค้าเปราะบางเพิ่มเติม)

  • เมื่อเข้าระบบจองซื้อหลักทรัพย์ Money Connect ผ่านแอปพลิเคชั่น Krungthai NEXT แล้ว ระบบยังแสดงหน้าจอให้ Log in เข้าระบบ ด้วย Username และ Password
    • กรณีนี้เกิดขึ้นได้ เนื่องจากแอปพลิเคชั่น Krungthai NEXT ยังไม่ได้ Update ให้เป็นปัจจุบัน เพียงท่านเข้าไปอัปเดท Krungthai NEXT เวอร์ชั่นล่าสุดก็สามารถทำรายการจองซื้อหลักทรัพย์ผ่านมือถือได้สะดวกรวดเร็ว

  • เข้าไปที่ ระบบ Money Connect by Krungthai แล้วไม่เห็นหลักทรัพย์ที่เสนอขาย อาจเกิดจากกรณีใดกรณีหนึ่งดังนี้
      • เวลาที่ผู้ลงทุนเข้าไปจองซื้ออาจไม่ใช่ช่วงวันที่เปิดเสนอขายหลักทรัพย์
      • หลักทรัพย์นั้นอาจมีโครงสร้างซับซ้อน อาทิ ตราสารด้อยสิทธิ หรือ หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน (Hybrid Bond) หรือหลักทรัพย์ที่เสนอขายให้กับผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งจะไม่เปิดจองซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ผ่าน ระบบ Money Connect by Krungthai
  • จะรู้ได้อย่างไรว่ามีหลักทรัพย์อะไรที่เสนอขายในช่วงนั้นและสามารถจองซื้อ ผ่านระบบ Money Connect ได้
      • ผู้ลงทุนสามารถดูรายละเอียดการเสนอขายหลักทรัพย์นั้นๆ  จากข้อมูลสรุปสาระสำคัญ หรือ หนังสือชี้ชวน ในส่วนข้อมูลการเสนอขาย ที่ยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. หรือ
      • สามารถเข้า ระบบ Money Connect by Krungthai  เพื่อดูรายการหลักทรัพย์ที่สามารถจองซื้อได้ หรือ
      • สอบถามผ่านธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือติดต่อ  Cell Center โทร  02-111-1111
  • หลักทรัพย์ทุกประเภท ที่ธนาคารกรุงไทยจัดจำหน่าย สามารถจองซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ระบบ Money Connect ได้ใช่หรือไม่
    • ไม่ใช่ อาจมีหลักทรัพย์บางประเภทที่มีโครงสร้างซับซ้อน ตัวอย่างเช่น Hybrid Bond (หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน ไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท) ตราสารด้อยสิทธิของธนาคาร หรือหลักทรัพย์ที่เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผุ้ลงทุนรายใหญ่ เป็นต้น จะไม่เปิดเสนอขายผ่านระบบจองซื้อหลักทรัพย์ออนไลน์  (Money Connect by Krungthai) หากผู้ลงทุนสนใจจองซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าว สามารถติดต่อผ่านสาขาของธนาคารกรุงไทยได้

  • หลักทรัพย์อะไรบ้างที่จองซื้อ ผ่านระบบ Money Connect
    • หลักทรัพย์ที่ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย อาทิเช่น

      • ตราสารหนี้เอกชน เช่น หุ้นกู้ (Corporate Debentures)  คือ (Corporate Debentures)  คือ ตราสารการกู้เงินระยะยาวจากผู้ลงทุน ซึ่งออกโดยบริษัทมหาชนจำกัด บริษัทจำกัด รวมถึงนิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้ง และผู้ถือตราสาร หรือ ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย ตามระยะเวลา และจะได้รับคืนเงินต้นเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาตามที่กำหนด
      • หน่วยลงทุน (Investment Unit) ได้แก่
        • หน่วยทรัสต์ (Real Estate Investment Trust) คือ หลักทรัพย์ของกองทรัสต์ที่ลงทุนในทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์ โดยหลักทรัพย์ดังกล่าวสามารถซื้อขายในตลาดรองได้ (ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)
        • หน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) คือ หลักทรัพย์ของกองทุนรวมที่ลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะในวงกว้าง โดยหลักทรัพย์ดังกล่าวสามารถซื้อขายในตลาดรองได้ (ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)
      • หุ้นสามัญ (Common Stock) คือ ตราสารที่ออกโดยบริษัทมหาชนจำกัดหรือเสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทมหาชนจำกัด ที่ต้องการระดมทุนจากประชาชนทั่วไป โดยผู้ถือหุ้นสามัญจะมีสิทธิร่วมเป็นเจ้าของบริษัทและมีสิทธิในการออกเสียงลงมติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trust : REIT) คือ เป็นกองทรัพย์สินที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มีลักษณะเป็นกองทรัสต์ ไม่ใช่นิติบุคคลเหมือนกองทุนอสังหาริมทรัพย์
Krungthai Connext
Krungthai SmartFX and E-confirmation
Gold Wallet
  • ใครบ้างที่สามารถสมัคร Gold Wallet ได้
    • ผู้ใช้บริการต้องมีสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชนและมีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

  • เอกสารที่ต้องใช้ในการเปิดบัญชี Gold Wallet มีอะไรบ้าง?
    • ใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ใช้บริการเท่านั้น
  • ผู้ใช้บริการ 1 คนสามารถเปิดบัญชี Gold Wallet ได้กี่บัญชี?
    • ผู้ใช้บริการสามารถเปิดบัญชี Gold Wallet ได้ 1 บัญชี ต่อ 1 บัตรประชาชน เท่านั้น
  • ผู้ใช้บริการสามารถผูกบัญชี Gold Wallet กับบัญชีธนาคารอื่นได้หรือไม่?
    • ไม่สามารถทำได้ ผู้ใช้บริการต้องผูกบัญชี Gold Wallet กับบัญชีของธนาคารกรุงไทยเท่านั้น

  • เวลาเปิด-ปิดของแพลตฟอร์ม Gold Wallet คือ?
    • วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 07.00น. – 02.00 น. ของวันถัดไป
  • ทองที่ซื้อ-ขายบนแพลตฟอร์ม Gold Wallet เป็นทองประเภทอะไร?
    • เป็นทองแท่งความบริสุทธิ์ 99.99% ตามมาตรฐานโลก และทองแท่งความบริสุทธิ์ 96.5% ตามมาตรฐานสมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทย

  • สามารถซื้อ-ขายทองบนแพลตฟอร์ม Gold Wallet ด้วยเงินสกุลอะไร?
    • ผู้ใช้บริการต้องทำการซื้อ-ขายทองกับร้านทองด้วยเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ แต่สามารถเลือกตัด/รับเงินได้ทั้ง บัญชีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (e-FCD) หรือ บัญชีสกุลเงินบาท ที่เปิดไว้กับธนาคารกรุงไทย

      1. กรณีที่เลือกตัด/รับเงินด้วยบัญชีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (e-FCD) ในขาซื้อทอง ผู้ใช้บริการต้องทำการแลกเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯล่วงหน้าเอาไว้ในบัญชีให้เพียงพอก่อนทำการซื้อทอง หากไม่เพียงพอระบบจะทำการแจ้งเตือนเพื่อให้ทำการซื้อเงินสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯเพิ่มเติม
      2. กรณีที่เลือกตัด/รับเงินด้วยบัญชีสกุลเงินบาท ระบบจะทำการแลกเงินบาทเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ณ อัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น เพื่อซื้อ-ขายทองโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการที่ไม่ต้องการแลกเงินสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯไว้ล่วงหน้า
  • บนแพลตฟอร์ม Gold Wallet แสดงราคาทองด้วยเงินสกุลอะไร?
    • ผู้ใช้บริการสามารถกำหนดการแสดงราคาทองบนแพลตฟอร์มแสดงราคาทองเป็น เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ แสดงราคาทองเป็นสกุลเงินบาทเทียบเท่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐก็ได้

  • ทําไมต้องซื้อ-ขายทองเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ?
    • การซื้อ-ขายทองบนแพลตฟอร์ม Gold Wallet เป็นแบบ Real-time โดยอ้างอิงจากราคา Gold Spot ในตลาดโลก ซึ่งซื้อ-ขายกันด้วยเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ (XAU/USD) ดังนั้นเพื่อเป็นการสะท้อนถึงการเคลื่อนไหวของราคาทองในตลาดโลก และหลีกเลี่ยงปัจจัยความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่จะเข้ามากระทบต่อราคาทอง แพลตฟอร์ม Gold Wallet จึงเปิดให้ผู้ใช้บริการซื้อ-ขายทองด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
  • บัญชี e-FCD คืออะไร?
    • เป็นบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ประเภทบัญชีออมทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อใช้ตัดเงินสำหรับค่าซื้อทอง หรือรับเงินสำหรับค่าขายทอง บนแพลตฟอร์ม Gold Wallet และทำธุรกรรมใด ๆ ตามข้อตกลงเท่านั้น โดยผู้ใช้บริการสามารถผูกบัญชี e-FCD นี้กับบัญชีเงินบาทของธนาคารกรุงไทย และกดแลกซื้อเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อฝากเข้าบัญชี e-FCD หรือกดแลกขายเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯกลับเป็นเงินสกุลบาทได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนพิเศษบนแพลตฟอร์ม Gold Wallet ในแอปฯ เป๋าตัง

  • เปิดบัญชี e-FCD บนแพลตฟอร์ม Gold Wallet เพื่อวัตถุประสงค์อะไร?
    • บัญชี e-FCD ของธนาคารกรุงไทย มีวัตถุประสงค์ในการให้บริการสำหรับเพื่อทำการซื้อ-ขายทองบน Gold Wallet Gold Wallet และทำธุรกรรมใด ๆ ตามข้อตกลงเท่านั้น ซึ่งระบบจะทำการเปิดบัญชี e-FCD ให้ผู้ใช้บริการทุกท่านโดยอัตโนมัติ แต่หากผู้ใช้บริการมีบัญชี e-FCD อยู่แล้ว ระบบจะแจ้งเตือนให้ทำการผูกบัญชีโดยไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่ ทั้งนี้ผู้ใช้บริการจะได้รับดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ตามประกาศของธนาคาร และสามารถดูยอดเงินคงค้างหรือรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีได้ ผ่านช่องทางแพลตฟอร์ม Gold Wallet และ Krungthai NEXT

  • มีบัญชี e-FCD แล้วแต่ไม่สามารถแลกเงินได้ เพราะเหตุใด?
    • อาจเกิดจากการที่บัญชีไม่ได้เคลื่อนไหวเกิน 1 ปี จึงทำให้บัญชีถูกปิดอัตโนมัติ ผู้ใช้บริการสามารถโทรแจ้ง call center ที่เบอร์ 02-111-1111 เพื่อประสานงานต่อไป

  • การซื้อ-ขายทองบนแพลตฟอร์ม Gold Wallet ต้องเสียภาษี Capital Gains Tax หรือไม่?
    • รายได้จากการทำธุรกรรมที่ซื้อ-ขายทองแท่งบนแพลตฟอร์ม Gold Wallet มีลักษณะเดียวกันกับการซื้อ-ขายทองแท่งผ่านที่หน้าร้านทอง ซึ่งภาระในการสำแดงภาษีจะเป็นของผู้ใช้บริการ

  • กำไร/ขาดทุนที่แสดงบน My Gold มีหลักการแสดงผลอย่างไร?
    • กำไร/ขาดทุน บนแพลตฟอร์ม Gold Wallet ถูกคำนวณจากราคาซื้อ-ขายเฉลี่ยหรือต้นทุนเฉลี่ยจากทุก ๆ รายการซื้อ-ขาย แยกรายร้านค้า สามารถแบ่งเป็น

      1. การคำนวณกำไร/ขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (unrealized Profit/Loss USD) โดยมีสูตรการคำนวณดังนี้
        (ราคาทองปัจจุบันต่อหน่วย – ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วย*) x น้ำหนักทองที่ผู้ใช้บริการมีอยู่ทั้งหมดของร้านค้านั้น ๆ 
      2. การคำนวณกำไร/ขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง  (unrealized Profit/Loss %) โดยมีสูตรการคำนวณดังนี้
        (ราคาทองปัจจุบันต่อหน่วย – ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วย*) x 100]/ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วย*
      ตัวอย่างเช่น
      • ผู้ใช้บริการมีทอง 99.99% กับร้านค้า A จำนวน 50 oz., ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วยอยู่ที่ 1,999.30 USD และราคาทองปัจจุบันต่อหน่วยอยู่ที่ 2,001.34 USD
      • ผู้ใช้บริการจะมีกำไร/ขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (unrealized Profit/Loss USD) อยู่ที่ (2,001.34 – 1,999.30) x 50 = 102 หรือเท่ากับ กำไร 102 USD ซึ่งเมื่อแปลงเป็น กำไร/ขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง  (unrealized Profit/Loss % จะอยู่ที่ [(2,0001.34 – 1,999.30)x 100]/1,999.30 = 0.1% หรือ กำไร 0.1%

      *หมายเหตุ: กำไร/ขาดทุนถูกคำนวณโดยใช้ค่าจริงที่ถูกบันทึกไว้ในระบบ อย่างไรก็ดีตัวเลขที่แสดงบน My Gold จะถูกปัดให้เหลือทศนิยม 2 ตำแหน่ง ซึ่งทำให้การใช้ตัวเลขแสดงบน My Gold มาคำนวณอาจจะไม่สามารถสะท้อนกำไร/ขาดทุนที่แท้จริงได้ แต่เป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด
  • ช่องทางการติดต่อ ในกรณีที่ผู้ใช้บริการมีคำถามเพิ่มเติม หรือต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ?
    • สามารถติดต่อได้ที่ Call center เบอร์ 02-111-1111 ตลอด 24 ชม.

เป๋าตังเปย์
  • หากมีปัญหาในการใช้บริการหรือข้อสงสัยในการใช้เป๋าตังเปย์ บัตรเพลย์ คูปอง และภารกิจต่าง ๆ สามารถเสนอแนะหรือร้องเรียนได้ที่ช่องทางใดบ้าง
    • สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและเสนอแนะ โทร 02-111-1111 หรือ call.callcenter@krungthai.com

  • จะเข้าร่วมภารกิจได้อย่างไร แล้วเข้าได้จากช่องทางไหนบ้าง
    • เมื่อลูกค้าทำการสมัครเป๋าตังเปย์เรียบร้อยแล้ว จะสามารถเข้าไปดูภารกิจต่าง ๆ ได้ว่ามีภารกิจใดในขณะนั้นที่สามารถเข้าร่วมได้บ้าง โดยสามารถเข้าไปสู่หน้าภารกิจได้ 3 ช่องทาง คือ

      1. เข้าจากปุ่ม ภารกิจและเกม >> หน้ารวมภารกิจ (Mission Landing)
      2. เข้าจาก Banner โฆษณาที่หน้าเป๋าตังเปย์ >> หน้าสถานะของภารกิจ (Mission Tracking) **ยังไม่มีช่องทางนี้
      3. เข้าจากการแจ้งเตือนต่าง ๆ >> หน้าสถานะของภารกิจ (Mission Tracking)
  • ภารกิจ (Mission - Based Campaign) คืออะไร
    • ภารกิจ คือ รายการส่งเสริมการขายที่ให้ลูกค้าร่วมสนุกกับกิจกรรมหรือภารกิจต่าง ๆ เพื่อรับรางวัล เช่นคูปองส่วนลด, โบนัส, เงินคืน เป็นต้น

  • สามารถถ่ายภาพหน้าจอของคูปองแล้วเอาไปใช้แสดงที่หน้าร้านได้หรือไม่
    • ลูกค้าจำเป็นต้องกดใช้ และแสดงคูปองเพื่อรับสิทธิพิเศษขณะอยู่ที่ร้านค้าเท่านั้น ขอสงวนสิทธิ์ในการแสดงภาพถ่ายหน้าจอ (Capture) หรือนำรูปคูปองของบุคคลอื่นมาเพื่อรับสิทธิ์

  • วิธีใช้งานคูปองส่วนลด Copay ที่หน้าร้านค้า
    • กรณีกดเก็บคูปองก่อนสแกนจ่ายหน้าร้านค้า

      1. กดเข้าปุ่ม "เก็บคูปอง" บนเป๋าตังเปย์
      2. กดแถบ "คูปองของฉัน" ในหน้ารวมคูปอง
      3. กดเลือกคูปองที่ต้องการใช้
      4. กดปุ่ม "สแกนจ่ายด้วยเป๋าตังเปย์"
      5. ตรวจสอบรายละเอียดการชำระเงินและการใช้คูปองส่วนลดบนหน้าชำระเงิน และกด "ถัดไป"
      6. กดยืนยันการชำระเงิน


      กรณีสแกนจ่ายหน้าร้านค้า ก่อนกดเก็บคูปอง

      1. แสกนจ่ายด้วยเป๋าตังเปย์
      2. กรณีร้านค้ามีคูปองส่วนลด Copay ที่เข้าร่วมรายการ จะสามารถกดเก็บคูปองได้
      3. ไปหน้ากดเก็บคูปองที่ต้องการใช้ พร้อมกด "เก็บ" และกด "ใช้"
      4. ตรวจสอบรายละเอียดการชำระเงิน และการใช้คูปองส่วนลดบนหน้าสรุปการชำระเงิน และกด "ถัดไป"
      5. กดยืนยันการชำระเงิน
  • วิธีใช้งานคูปองทั่วไปที่หน้าร้านค้า หรือ แพลตฟอร์มออนไลน์
      1. กดเข้าปุ่ม "เก็บคูปอง" บนเป๋าตังเปย์
      2. กดแถบ "คูปองของฉัน" ในหน้ารวมคูปอง
      3. กดเลือกคูปองที่ต้องการใช้ และกด "ใช้คูปอง"
      4. กดปุ่ม "ยืนยันการใช้คูปอง"
      5. ในกรณีที่คูปองมีการตั้งค่าจับเวลาการใช้งาน จะพบการแจ้งเตือนการจับเวลาและให้กดยืนยันการใช้คูปอง (ถ้าไม่มีการตั้งค่าจับเวลา ข้ามไปข้อ 6)
      6. ระบบจะแสดงรหัสคูปอง หรือ QR/ Barcode
      7. ลูกค้าแสดงรหัสคูปอง หรือ QR/ Barcode แก่ทางร้านค้าเพื่อรับสิทธิพิเศษ
      8. กรณีนำรหัสคูปองไปใช้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ให้กดคัดลอกรหัสคูปอง และนำไปกรอกในระบบคูปองของแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ต้องการ เพื่อรับสิทธิพิเศษ
      9. เจ้าหน้าที่หน้าร้านค้ากดปุ่ม "ใช้คูปองแล้ว" เมื่อทำรายการสำเร็จ
  • วิธีการเก็บคูปอง
      1. กดปุ่ม "เก็บคูปอง" บนหน้าแรกของเป๋าตังเปย์
      2. เข้าหน้ารวมคูปอง จะพบกับคูปองสิทธิพิเศษต่าง ๆ มากมาย
      3. อ่านรายละเอียด ศึกษาเงื่อนไขของคูปองที่ลูกค้าสนใจ และกดเก็บคูปอง
      4. คูปองที่ถูกเก็บเรียบร้อยแล้ว จะสามารถตรวจสอบและเปิดดูในแถบ "คูปองของฉัน"
  • คูปอง คืออะไร?
    • คูปองสิทธิพิเศษ คือ คูปองที่สามารถกดเก็บได้บนเป๋าตังเปย์ โดยคูปองส่วนลดจะมี 2 ประเภท

      1. คูปองทั่วไป คือ คูปองประเภทที่สามารถนำไปใช้งานที่หน้าร้านค้าผ่านการแสดงรหัสคูปอง หรือ QR/ Barcode หน้าร้านค้า
      2. คูปองส่วนลด Copay คือ คูปองประเภทที่สามารถนำไปใช้ร่วมกับการชำระค่าสินค้าผ่านเป๋าตังเปย์ได้
  • ใช้บัตรเพลย์ใช้ได้อย่างไรบ้าง
    • ลูกค้าสามารถใช้จ่ายบัตรบัตรเพลย์ได้ที่ร้านค้าที่มีเครื่องอ่าน EDC และสามารถใช้จ่ายออนไลน์กับร้านค้าที่รับบริการจ่ายเงินออนไลน์ได้ เมื่อลูกค้าสมัคร 3D Secure สำเร็จ อีกทั้งลูกค้าสามารถใช้บัตรเพลย์ในการเดินทางได้ ดังนี้

      • รถเมล์ขสมก.
      • ทางพิเศษ ทุกเส้นทาง และ ดอนเมือง โทล์ลเวย์ ยกเว้น มอเตอร์เวย์*
      • รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน, สายสีม่วง และรถไฟฟ้าสายสีแดง
  • บัตรเพลย์ (เพลย์การ์ด) คืออะไร?
    • บัตรเพลย์ (Play Card) คือ บัตรที่เชื่อมต่อยอดเงินกับบัญชีเป๋าตังเปย์ของแอปฯ เป๋าตัง สามารถใช้ชำระค่าโดยสารกับระบบขนส่งที่เข้าร่วมรายการ ซื้อของออนไลน์ ใช้จ่ายผ่านเครื่องอ่าน EDC Payment

  • วิธีการชำระสินค้าและบริการผ่านการสแกนจ่าย
    • การสแกนเพื่อชำระจากเป๋าตังเปย์ สามารถทำได้ดังนี้

      1. เลือกปุ่มสแกนที่หน้าหลักของแอปฯ เป๋าตังค์
      2. วาง QR ที่ต้องการชำระให้ตรงกับจุดที่กำหนด
      3. เลือกบัญชีต้นทางในการจ่ายให้เป็นเป๋าตังเปย์
      4. ระบุจำนวนเงินที่ต้องการจ่ายบิล (กรณีที่ระบบไม่ได้ดึงข้อมูลจำนวนเงินคงค้างมาให้)
      5. ตรวจสอบหมายเลขอ้างอิง ชื่อบิล และจำนวนเงินที่จ่ายบิล
      6. กดยืนยันและใส่ PIN
  • สามารถจ่ายบิลผ่านช่องทางใดในเป๋าตังเปย์ได้บ้าง และวิธีการจ่ายบิลผ่านเป๋าตังเปย์เป็นอย่างไร
      1. ลูกค้าสามารถจ่ายบิลได้ 2 ช่องทาง
      2. จ่ายบิลจากการเลือกบิลที่มีในเป๋าตังเปย์
      3. สแกนเพื่อจ่ายบิลอื่นๆ ที่ลูกค้าต้องการ
        การจ่ายบิลผ่านเป๋าตังเปย์ไปยังบัญชีธนาคารอื่นๆ สามารถทำได้ดังนี้
      1. เลือกเมนู "จ่ายบิล"
      2. เลือกบิลที่ต้องการจ่ายเงิน
      3. ใส่หมายเลขอ้างอิงของบิลและระบุจำนวนเงินที่ต้องการจ่ายบิล (กรณีที่ระบบไม่ได้ดึงข้อมูลยอดบิลที่ต้องจ่ายมาให้)
      4. ตรวจสอบหมายเลขอ้างอิง ชื่อบิล และจำนวนเงินที่จ่ายบิล
      5. กรอกรหัส PIN พร้อมกดยืนยัน
  • สามารถโอนเงินผ่านเป๋าตังเปย์ได้กี่ช่องทาง
    • ลูกค้าสามารถใช้บริการเป๋าตังเปย์เพื่อโอนเงินไปยังบัญชีและวอลเล็ตด้วยช่องทาง ดังนี้

      1. หมายเลขบัญชีธนาคาร
      2. หมายเลขพร้อมเพย์
      3. โอนเงินไปยังวอลเล็ต
  • เป๋าตังเปย์สามารถเติมเงินได้กี่ช่องทาง
    • ปัจจุบันเติมเงินเข้าเป๋าตังเปย์ได้ 4 ช่องทาง ได้แก่

      1. เติมเงินด้วยบัญชีธนาคารกรุงไทยที่ลูกค้าผูกไว้
      2. เติมเงินผ่านแอปฯ Krungthai NEXT
      3. เติมเงินด้วยการใช้ QR รับเงิน ผ่านแอปฯ ธนาคาร
      4. เติมเงินด้วยบัญชีธนาคารกรุงไทยหรือบัญชีธนาคารอื่นได้ทุกธนาคาร
  • วิธีผูกบัญชีธนาคารกับเป๋าตังเปย์
    • ลูกค้าสามารถผูกบัญชีธนาคารกรุงไทยเข้ากับเป๋าตังเปย์ได้โดย

      1. เลือกเมนู "ผูกบัญชี" ที่หน้าใช้งานของเป๋าตังเปย์
      2. เลือกช่องทางการผูกบัญชีธนาคารกรุงไทย และดำเนินการตามวิธีที่เลือก
      3. ตรวจสอบรายละเอียดบัญชีธนาคาร เลขบัญชี และชื่อบัญชีของลูกค้า
      4. ยืนยันการผูกบัญชีธนาคาร
      5. ระบบจะขึ้นยืนยันการผูกบัญชีกรุงไทยสำเร็จ
  • หากเห็นข้อความบนหน้าบัญชีเป๋าตังเปย์แจ้ง "สมัครใช้บริการไม่สำเร็จ เนื่องจากข้อมูลของท่านไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของผลิตภัณฑ์" จะต้องดำเนินการอย่างไร
    • หากท่านได้รับข้อความดังกล่าว กรุณาติดต่อที่ศูนย์บริการลูกค้าของธนาคารกรุงไทย หรือติดต่อที่สาขาของธนาคารกรุงไทย ได้ทั่วประเทศ

  • การเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ และต้องการใช้บัญชีเป๋าตังเปย์เดิมที่เคยลงทะเบียนไว้ ต้องทำอย่างไร
    • ลูกค้าสามารถทำได้โดย

      1. โหลดแอปฯ เป๋าตังบนมือถือที่ต้องการใช้งาน
      2. ยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนของลูกค้า และระบุเบอร์มือถือเดิมเพื่อเข้าใช้งาน
      3. เมื่อเข้าแอปฯ เป๋าตังสำเร็จ ลูกค้าจะสามารถใช้บริการเป๋าตังเปย์ได้

      โดยลูกค้าสามารถใช้บริการเป๋าตังเปย์ผ่านมือถือได้ทีละเครื่อง เมื่อมีการเข้าใช้งานด้วยมือถือเครื่องใหม่ บัญชีเป๋าตังเปย์ในมือถือเครื่องเดิมจะถูกลงทะเบียนออกโดยอัตโนมัติ

  • หากต้องการเปลี่ยนรหัส PIN หรือ ลืมรหัส PIN ในการเข้าเป๋าตังเปย์ต้องทำอย่างไร
    • PIN ที่เข้าใช้งานเป๋าตังเปย์ จะเป็น PIN เดียวกับแอปฯ เป๋าตัง หากต้องการเปลี่ยนรหัส PIN แอปฯ เป๋าตัง สามารถทำได้โดย

      1. เลือกเมนู "โปรไฟล์" ด้านล่าง
      2. เลือก "เปลี่ยน PIN"
      3. ใส่ PIN เดิมของลูกค้าเพื่อยืนยันตัวตนในการตั้งรหัสใช้งาน PIN ใหม่

      และหากลืมรหัส PIN โปรดดำเนินการดังนี้

      1. เลือกเมนูด้านล่างที่ "โปรไฟล์"
      2. เลือก "เปลี่ยน PIN"
      3. เลือกเมนูทางด้านล่างซ้าย "ลืม PIN"
      4. เลือกช่องทางในการยืนยันตัวตนเพื่อทำการขอ PIN เดิมของลูกค้าหรือเปลี่ยนรหัส PIN ใหม่
  • วิธีลงทะเบียนและยืนยันตัวตนบนเป๋าตังเปย์ และข้อแนะนำการยืนยันตัวตนโดยการสแกนหน้าและการใช้บัตรประชาชน
    • การสมัครเป๋าตังเปย์ ลูกค้าสามารถกดสมัครได้ที่การ์ดเป๋าตังเปย์ หรือแถบเมนูเป๋าตังเปย์ด้านล่างในแอปฯเป๋าตัง โดยลูกค้าสามารถสมัครบัญชีเป๋าตังเปย์ได้ 1 บัญชี โดยขั้นตอนการสมัคร ระบบจะตรวจสอบว่า ลูกค้าได้มีการยืนยันตัวตนกับธนาคารแล้วหรือไม่ หากยังไม่ได้มีการยืนยันตัวตน ลูกค้าสามารถนำบัตรประชาชนไปทำการยืนยันตัวตนได้ที่ตู้ ATM (สีเทา) ของธนาคารกรุงไทย หรือที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา โดยวิธีการสแกนบัตรประชาชน และวิธีการสแกนใบหน้า (สแกนที่สาขา หรือผ่านแอป ได้เลย)ดังนี้

        ข้อแนะนำการสแกนบัตรประชาชน
      1. วางบัตรและรูปหน้าให้อยู่ในกรอบที่กำหนด
      2. วางบัตรให้เห็นตัวเลข ตัวอักษร และรูปหน้าอย่างชัดเจน โดยภาพต้องไม่เบลอ
      3. อยู่ในบริเวณที่มีแสงสว่างเพียงพอ และไม่มีแสงสะท้อนจากบัตรประชาชนมารบกวน
      4. ไม่เอานิ้วมือมาบังบัตรประชาชน
        ข้อแนะนำการสแกนใบหน้า
      1. ไม่ใส่หมวก แว่นตา และถอดแมสก์ออก ไม่ให้มีสิ่งใดมาปิดบังใบหน้า
      2. หน้ามองตรง วางใบหน้าให้อยู่ในกรอบที่กำหนด
      3. อยู่ในบริเวณที่มีแสงสว่างเพียงพอ
      4. ใบหน้าต้องชัดเจน ตรงกับรูปถ่ายบัตรประชาชน
  • เป๋าตังเปย์คืออะไร
    • เป๋าตังค์เปย์เป็นบริการ E-Wallet ใหม่บนแอปฯ เป๋าตัง ที่สามารถใช้จ่ายได้ในชีวิตประจำวัน

      1. สามารถผูกบัญชีกรุงไทยเพื่อเติมเงินเข้าวอลเล็ต
      2. ใช้จ่ายผ่าน QR, ผูกบัตรเพลย์, โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร, โอนเงินพร้อมเพย์, จ่ายบิลค่าน้ำค่าไฟ, เติมเงิน สามารถเก็บคูปองส่วนลด และร่วมรับสิทธิพิเศษมากมาย
      3. เป็น E-wallet ที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยที่เชื่อถือได้
WealthFolio
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริการ WealthFolio เป็นอย่างไร
    • คุณสามารถอ่าน ข้อกำหนดและเงื่อนไขเพิ่มเติมผ่านหัวข้อ "ข้อกำหนดและเงื่อนไข" หรือ ผ่านบริการ WealthFolio เข้าเมนู "บริการอื่นๆ" และเลือก "ข้อกำหนดและเงื่อนไข"

  • สามารถขอเอกสารยื่นประกอบการขอวีซ่าได้อย่างไร
    • เปิดใช้งาน WealthFolio เข้าเมนู "บริการอื่นๆ" และเลือก "เอกสารประกอบการยื่นวีซ่า" คุณสามารถขอเอกสารประกอบการขอวีซ่าให้กับตนเองหรือบุคคลอื่นที่คุณประสงค์จะให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับการขอวีซ่า เช่น ผู้ปกครอง พี่น้อง ญาติ หรือบุตร และสามารถเลือกสกุลเงินที่ต้องการแสดงในเอกสารประกอบการขอวีซ่าได้ ทั้งนี้คุณสามารถขอเอกสารได้ภายใน 2 วันทำการ หลังจากที่สมัครใช้บริการ WealthFolio

  • ต้องการขอเอกสาร eStatement ทำอย่างไร
    • เปิดใช้งาน WealthFolio เข้าเมนู "บริการอื่นๆ" และเลือก "รายงานสรุปข้อมูลทางการเงิน"

      • คุณสามารถขอรายงานสรุปทางการเงินย้อนหลังได้สูงสุด 6 เดือน
      • รายงานสรุปข้อมูลทางการเงินประกอบด้วยข้อมูล 2 ส่วน ได้แก่ สรุปมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมด และสรุปผลตอบแทนที่ได้รับแล้ว (Realized Return)
      • ทั้งนี้คุณสามารถขอเอกสารนี้หลังจากที่สมัครใช้บริการ WealthFolio ได้ภายใน 2 วันทำการ
  • เมนู เงินต้นครบกำหนด คืออะไร
      1. เงินต้นครบกำหนด แสดงประมาณการเวลาและเงินต้นที่คุณจะได้รับคืนในอนาคต จนถึงวันครบกำหนดไถ่ถอน หรือครบกำหนดอายุ ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้ เงินฝากประจำ กองทุนรวมประเภทที่มีกำหนดอายุ (Term Fund) หุ้นกู้ พันธบัตร และหุ้นกู้อนุพันธ์แฝงที่มีกำหนดเวลาชำระคืนเงินต้นแน่นอน หรือสามารถประมาณการตามที่ผู้ออกหลักทรัพย์ใช้สิทธิ์ไถ่ถอนคืนก่อนกำหนดหรือตามที่คุณไถ่ถอนคืนก่อนกำหนด โดยไม่รวมดอกเบี้ยรับและเงินปันผล
      2. เงินต้นครบกำหนดนี้ ไม่รวมหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน (Perpetual Bond)
  • เมนู ผลตอบแทน Realized Return คืออะไร
    • มูลค่าผลตอบแทน Realized Return แสดงผลตอบแทนจากการลงทุนของคุณที่ได้รับแล้ว ได้แก่ ดอกเบี้ยรับ เงินปันผล และกำไร/ขาดทุนจากการขาย รวมถึงดอกเบี้ยรับจากหุ้นกู้อนุพันธ์แฝง ซึ่งไม่รวมผลตอบแทนที่ได้รับจากประกันชีวิต โดยการแสดงผลตอบแทนของแต่ละสินทรัพย์มีรายละเอียด ดังนี้ 
      1. เงินฝาก จะแสดงดอกเบี้ยที่ได้รับแล้วเป็นผลตอบแทนหลังหักภาษี และดอกเบี้ยรับที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศจะแสดงเป็นมูลค่าเทียบเท่าเงินบาทโดยประมาณตามอัตราแลกเปลี่ยนที่ธนาคารกำหนด 
        ดอกเบี้ยรับจากเงินฝากทุกประเภทไม่รวมผลตอบแทนปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ดอกเบี้ยจากบัญชีออมทรัพย์เริ่มแสดงตั้งแต่ต้นปีปัจจุบัน ส่วนดอกเบี้ยจากบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน และเงินฝากประจำ รวมถึงบัญชีเงินฝากปลอดภาษี แสดงข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่เดือนกรกฎาคมของปีปัจจุบัน เป็นต้นไป
      2. กองทุนรวมจะแสดงผลตอบแทนจากกองทุนรวมหลังหักภาษี ประกอบด้วยกำไร/ขาดทุนจากการขาย และเงินปันผล (ถ้ามี) แสดงข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ข้อมูลที่แสดงจะเป็นผลตอบแทนที่คุณได้รับจริงในช่วงปีนั้นๆ
      3. หุ้นและอนุพันธ์จะแสดงผลตอบแทนจากหุ้นและอนุพันธ์หลังหักภาษี ประกอบด้วยกำไร/ขาดทุนจากการขาย แสดงข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ข้อมูลที่แสดงจะเป็นผลตอบแทนที่คุณได้รับจริงในช่วงปีนั้นๆ โดยไม่รวมผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ และผลตอบแทนจากบัญชีที่ปิดก่อนที่คุณสมัครใช้บริการ WealthFolio
      4. หุ้นกู้จะแสดงดอกเบี้ยรับจากหุ้นกู้หลังหักภาษี จะไม่รวมดอกเบี้ยรับจากหุ้นกู้ที่ธนาคารกรุงไทยไม่ได้เป็นนายทะเบียน แสดงข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ข้อมูลที่แสดงจะเป็นผลตอบแทนที่คุณได้รับจริงในช่วงปีนั้นๆ
      5. พันธบัตรจะแสดงดอกเบี้ยรับหลังหักภาษีที่แสดงเป็นดอกเบี้ยจากพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นวอลเล็ต สบม. และพันธบัตรออมทรัพย์ (ตลาดแรก) ที่คุณซื้อผ่านธนาคารกรุงไทย ซึ่งจะไม่รวมดอกเบี้ยจากพันธบัตรประเภทอื่นๆ เช่น พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรที่ซื้อในตลาดรองกับธนาคารกรุงไทย เป็นต้น แสดงข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ข้อมูลที่แสดงจะเป็นผลตอบแทนที่คุณได้รับจริงในช่วงปีนั้นๆ
      6. ทองคำจะแสดงกำไร/ขาดทุนจากการขาย แสดงข้อมูลตั้งแต่วันที่ WealthFolio เริ่มให้บริการ
      7. หุ้นกู้อนุพันธ์แฝงจะแสดงดอกเบี้ยรับหลังหักภาษีที่แสดง จะไม่รวมผลตอบแทนจากสินทรัพย์อ้างอิง แสดงข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ข้อมูลที่แสดงจะเป็นผลตอบแทนที่คุณได้รับจริงในช่วงปีนั้นๆ
  • การคำนวนมูลค่าของสกุลต่างประเทศ เป็นอย่างไร
    • กรณีที่ยอดเงิน, เงินลงทุน, หรือผลตอบแทน เป็นสกุลเงินต่างประเทศ และมีการแสดงมูลค่าเทียบเท่าเงินบาทโดยประมาณ จะคำนวณโดยอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยน (exchange rate) ที่ธนาคารกำหนด 

  • Advanced mode คืออะไร
    • การเปิด Advanced mode จะแสดงข้อมูลเพิ่มเติมของพันธบัตร/หุ้นกู้ โดย  

      1. ราคาตลาดต่อหน่วย
        - แสดงเพื่อเป็นราคาอ้างอิงเบื้องต้นสำหรับการซื้อขาย โดยอ้างอิงราคาจาก ThaiBMA
        - ราคาที่คุณสามารถขายได้จริงขึ้นอยู่กับราคารับซื้อของธนาคาร
      2. Unrealized P/L
        - แสดง Unrealized P/L ของพันธบัตร/หุ้นกู้ ซึ่งคำนวณโดยการเทียบราคาตลาดต่อหน่วยจาก ThaiBMA กับราคาพาร์ต่อหน่วย
        - หากต้นทุนของคุณมีมูลค่าไม่เท่ากับราคาพาร์ อาจทำให้การคำนวณ Unrealized P/L ได้มูลค่าแตกต่างออกไป

        ***ราคาที่แสดงไม่ใช่ราคาที่คุณซื้อ-ขายได้จริง ราคาซื้อ-ขายขึ้นอยู่กับผู้รับซื้อ-ขายพันธบัตร/หุ้นกู้นั้นๆ
  • ใน tab จัดกลุ่มเอง, สกุลเงิน, Asset class คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร
    • คุณสามารถเลือกปรับเปลี่ยนการดูพอร์ตได้บนหน้าหลักของ WealthFolio ได้ ดังนี้  

      1. การเลือกดูแบบ "จัดกลุ่มเอง" คุณสามารถที่จะกำหนดและจัดกลุ่มสินทรัพย์ได้สูงสุด 5 กลุ่ม เพื่อให้ดูภาพรวมของสินทรัพย์ได้ง่ายขึ้น โดยการตั้งชื่อกลุ่มสินทรัพย์ เลือกสินทรัพย์ที่ต้องการใส่ในกลุ่ม และสร้างกลุ่มสินทรัพย์ได้ตามที่ต้องการ
      2. การเลือกดูแบบ "สกุลเงิน" จะแสดงสินทรัพย์แบ่งตามสกุลเงินที่ลงทุน
      3. การเลือกดูแบบ "Asset Class" คุณสามารถดูภาพรวมของพอร์ต โดยการจัดกลุ่มสินทรัพย์ตามหลักการของธนาคาร โดยปัจจัยสภาพคล่อง ความเสี่ยง ผลตอบแทน และอื่นๆ แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ - ตลาดเงิน - ตราสารหนี้ - ตราสารทุน - สินทรัพย์ผสม - สินทรัพย์ทางเลือก
  • อยากใช้ WealthFolio ทำอย่างไร?
    • คุณสามารถเข้าใช้งาน "WealthFolio" ผ่าน 2 ช่องทางคือ  

      1. ผ่านแอปฯ Krungthai NEXT
      โดย เลือก เมนูบริการ > ภายใต้บริการ NEXT Invest ให้คุณกดเมนู "WealthFolio" เพื่อใช้บริการ

      2. ผ่านแอปฯ เป๋าตัง
      โดย เลือก เมนูบริการ > ภายใต้บริการ เป๋าลงทุน ให้คุณกดเมนู "WealthFolio" เพื่อใช้บริการ

  • WealthFolio มีประโยชน์อย่างไร
    • คุณจะได้เห็นภาพรวมการออมและลงทุนของคุณทั้งหมดในที่เดียว เพื่อให้คุณวางแผนทางการเงินได้ดียิ่งขึ้น โดยมีเมนูต่างๆ ดังต่อไปนี้  

      1. หน้าหลัก "WeatlhFolio" แสดงภาพรวมสินทรัพย์ ประกอบด้วย เงินฝากและวอลเล็ต ประกันชีวิต กองทุนรวม หุ้นและอนุพันธ์ หุ้นกู้ พันธบัตร ทองคำ และหุ้นกู้อนุพันธ์แฝง อยู่ในที่เดียว​
      2. เมนู "ผลตอบแทน Realized Return" สามารถดูผลตอบแทนที่ได้รับแล้ว ซึ่งประกอบไปด้วย ดอกเบี้ยรับ เงินปันผล กำไร/ขาดทุนจากการขาย และดอกเบี้ยรับจากหุ้นกู้อนุพันธ์แฝง (ถ้ามี)​
      3. เมนู "เงินต้นครบกำหนด" สามารถดูข้อมูลรายการเงินต้นครบกำหนดได้จนถึงวันครบกำหนดอายุ เช่น เงินต้นครบกำหนดของเงินฝากประจำ หุ้นกู้ พันธบัตร และหุ้นกู้อนุพันธ์แฝง เป็นต้น​
      4. เมนู "บริการอื่นๆ" สามารถขอรายงานสรุปข้อมูลทางการเงินและเอกสารยื่นประกอบการขอวีซ่า 
  • WealthFolio คืออะไร?
    • บริการใหม่ "WealthFolio" ที่รวมทุกมูลค่าสินทรัพย์ของการออมและลงทุน โดยแสดงข้อมูลของสินทรัพย์ที่คุณมีกับ ธนาคารกรุงไทย และบริษัทในเครือ ดังต่อไปนี้ 
      1. เงินฝากและวอลเล็ต
      2. ประกันชีวิต
      3. กองทุนรวม
      4. หุ้นและอนุพันธ์
      5. หุ้นกู้
      6. พันธบัตร
      7. ทองคำ
      8. หุ้นกู้อนุพันธ์แฝง 

Krungthai BUSINESS Onboarding



<span class="forcebreakline">คำถามที่พบบ่อยของ</span><span class="forcebreakline">ลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่</span>
คำถามที่พบบ่อยของลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่