"มิติสิ่งแวดล้อม"
โครงการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
เพื่อสังคม
เพื่อสังคม
ธนาคารตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อม และดำเนินการเพื่อดูแลรักษามาอย่างต่อเนื่องและจริงจังเสมอมา ในวันที่ 31 มกราคม 2555 ธนาคารได้แต่งตั้งคณะกรรมการอนุรักษ์พลังงานและเทคโนโลยีขึ้น เพื่อนำวิธีการทางเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้งาน บริหารจัดการพลังงานและเทคโนโลยีด้านต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการดำเนินธุรกิจ
การจัดการด้านพลังงาน
ธนาคารมีการกำหนดใช้มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมให้ทุกอาคารเป็นอาคารควบคุมตามพระราชกฤษฎีกากำหนดอาคารควบคุม พ.ศ. 2538 ซึ่งต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ การส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 ว่าด้วยการนำระบบการจัดการพลังงานมาใช้ในอาคารต่างๆขององค์กร ซึ่งได้แก่
- อาคารนานาเหนือ
- อาคารสุขุมวิท
- อาคารถนนศรีอยุธยา
- อาคารสวนมะลิ
- ศูนย์คอมพิวเตอร์พิบูลสงคราม
- ศูนย์ฝึกอบรมธนาคารกรุงไทยเขาใหญ่
การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก
ธนาคารตระหนักถึงปัญหาภาวะโลกร้อน (Climate Change) ซึ่งเป็นปัญหาที่เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นของโลก แม้ว่าธนาคารจะถือเป็นธุรกิจประเภทการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบบทางอ้อมจากการใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน เนื่องจากกระบวนการผลิตไฟฟ้ามีการใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศโลก ด้วยสาเหตุดังกล่าว เราจึงรณรงค์ให้ผู้บริหารและพนักงานลดการใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
การบริหารจัดการวัสดุ
ธนาคารตระหนักถึงการใช้ทรัพยาการสิ้นเปลือง เพราะด้วยลักษณะธุรกิจของธนาคารที่จำเป็นต้องใช้สลิปและสมุดธนาคารจำนวนมากเพื่อเป็นหลักฐานสำคัญทางการเงิน และจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานนานกว่า 10 ปี
ธนาคารจึงได้มีการพัฒนานวัตกรรมการบริการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็น Digital Banking ให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวกรวดเร็ว ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล และประหยัดทรัพยากรที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจอีกด้วย
“ธนาคารได้ออกแบบเทคโนโลยี Paperless Organization เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน และออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถดึงดูดลูกค้า”
หนึ่งในเทคโนโลยีที่นำมาใช้งานบน Krungthai NEXT เพื่อรองรับการใช้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบไม่มีสมุดคู่ฝาก ที่จะช่วยลดการใช้กระดาษ ลดปัญหาในการจัดเก็บสลิปกระดาษประจำวัน อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและการจัดเก็บข้อมูลที่สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
โครงการ Shred 2 Share
เป็นโครงการที่ร่วมมือกับบริษัทไทยบริติชซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง จำกัด (มหาชน) กับพันธมิตรอีกกว่า 64 หน่วยงาน ที่มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552 โดยมีเป้าหมายรวบรวมเอกสารที่ไม่ได้ใช้งานแล้วนำไปย่อยสลาย และนำมารีไซเคิลเพื่อผลิตกระดาษใหม่ไปใช้ประโยชน์ได้ โดยวิธีประหยัดพลังงาน ประหยัดน้ำ และไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ
ลดปริมาณกระดาษ
รวมการดำเนินการใน 11 ปี ธนาคารสามารถลดปริมาณการใช้กระดาษ 697.53 ตัน
ลดการเกิดก๊าซ CO2
ธนาคารสามารถลดปริมาณการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) มากถึง 182.39 ตัน
ลดการใช้น้ำ
ธนาคารสามารถลดการใช้น้ำ 31,060.86 ลบ.ม.
ลดการใช้ถ่านหิน
ธนาคารสามารถลดการใช้ถ่านหิน 76.74 ตัน
การจัดการทรัพยากรน้ำ
โครงการ “กรุงไทย ใช้น้ำอย่างฉลาด” เป็นโครงการรณรงค์ให้พนักงานใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าและให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด โดยมีเป้าหมายในการลดการใช้น้ำอย่างน้อยร้อยละ 5 จากปีที่ผ่านมา ด้วยการติดป้ายรณรงค์ให้พนักงานช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดบริเวณอ่างล้างมือ และบานประตูด้านในห้องน้ำและห้องครัวของอาคารสำนักงานใหญ่ทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ อาคารนานาเหนือ และอาคารสุขุมวิท รวมถึงอาคารสาขาด้วย
นอกจากนี้ยังได้มีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ประหยัดน้ำมากขึ้น เช่น การปรับเปลี่ยนก๊อกน้ำอ่างล้างมือเป็นระบบ Sensor เพื่อไม่ให้น้ำไหลทิ้งโดยไม่จำเป็น ปรับเปลี่ยนหัวก๊อกน้ำเป็นแบบไหลแบบฉีดฝอยเพื่อลดการใช้น้ำ และปรับแรงดันน้ำสายฉีดชำระให้พอดี และจะนำมาปรับปรุงต่อยอดเพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าในอนาคต
ข้อมูลเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ