ประกันชีวิตควบการลงทุน iLink

ประกันชีวิตควบการลงทุน iLink

เมื่อแบบประกันชีวิตควบการลงทุนไม่ได้มีแค่เรื่องการลงทุนเพียงอย่างเดียว
จุดเด่นผลิตภัณฑ์
checkimg
ความคุ้มครองสูงสุดถึง 280 เท่า
ของเบี้ยประกันหลักเพื่อความคุ้มครอง
checkimg
ความคุ้มครองมีความยืดหยุ่น
checkimg
เพิ่มมูลค่าทางการเงินด้วยเบี้ยประกันเพื่อการลงทุนเพิ่มเติมพิเศษ
ได้ตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่ 1เป็นต้นไป
checkimg
ปกป้องทุกองศาของชีวิต ด้วยหลากหลายตัวเลือกของความคุ้มครอง
จากสัญญาเพิ่มเติมแบบชำระค่าการประกันภัยโดยการขายคืนหน่วยลงทุน (Unit Deducting Rider) ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ง่าย ครบ จบในกรมธรรม์เดียว

ประกันชีวิตควบการลงทุน iLink
รายละเอียดผลิตภัณฑ์และเงื่อนไข

ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบหน่วยลงทุน“ไอลิงค์” (iLink)
อายุรับประกันภัย
1 เดือน - 70 ปี
ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย
ครบอายุ 85 ปี
ระยะเวลาคุ้มครอง
ครบอายุ 85 ปี
จำนวนเบี้ยประกันภัย

เบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง (Regular Protection Premium, RPP)

  • ขั้นต่ำ : 18,000 บาท ต่อปี และไม่สามารถขอเพิ่มเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครองในภายหลังได้
  • ขั้นสูงสุด : ไม่จำกัด

เบี้ยประกันภัยเพื่อการลงทุนเพิ่มเติมพิเศษ (Lump Sum Top-Up Premium, LSTU)

  • ขั้นต่ำ : 10,000 ต่อครั้ง และสามารถเริ่มชำระได้ตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่ 1เป็นต้นไป
  • ขั้นสูงสุด : ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทฯ
ค่าธรรมเนียมของกรมธรรม์
1.ค่าธรรมเนียมในการจัดสรรเบี้ยประกันภัย
เบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครองรายงวด (RPP) เบี้ยประกันภัยเพื่อการลงทุนเพิ่มเติมพิเศษ (LSTU)
ชำระเบี้ยประกันภัย ปีที่ 1
55% 1.25% ต่อครั้ง
ชำระเบี้ยประกันภัยปีที่ 2
40% 1.25% ต่อครั้ง
ชำระเบี้ยประกันภัยปีที่ 3
20% 1.25% ต่อครั้ง
ชำระเบี้ยประกันภัยปีที่ 4
10% 1.25% ต่อครั้ง
ชำระเบี้ยประกันภัยปีที่ 5
5% 1.25% ต่อครั้ง
ชำระเบี้ยประกันภัยปีที่ 6 เป็นต้นไป
- 1.25% ต่อครั้ง

2.ค่าธรรมเนียมกรมธรรม์รายเดือน
   2.1 ค่าการประกันภัยของสัญญา iLink (Cost of insurance) : คำนวณจากตารางมรณะไทย ขึ้นอยู่กับเพศ และปรับเปลี่ยนตามอายุของผู้เอาประกัน
   2.2 ค่าการประกันภัยของสัญญาเพิ่มเติม UDR (Cost of Ride) : คำนวณจากตารางที่บริษัทฯ ได้รับอนุมัติจาก คปภ. ขึ้นอยู่กับเพศ อายุ และแบบประกันของสัญญาเพิ่มเติม
   2.3 ค่าธรรมเนียมการบริหารกรมธรรม์ (Administration Fee) : อัตราค่าธรรมเนียมการบริหารกรมธรรม์ เท่ากับ 0.6% ต่อปี ของมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยจะหักชำระเป็นรายเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนแรกของกรมธรรม์
จำนวนเงินเอาประกันภัย
กำหนดเป็นจำนวนเท่าของเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง (RPP) ในส่วนของความคุ้มครองชีวิต
จำนวนขั้นต่ำ(เท่า) จำนวนขั้นสูง (เท่า)
อายุ ณ วันทำสัญญา 1 เดือน - 20 ปี
เพศชาย
120 160
เพศหญิง
140 280
อายุ ณ วันทำสัญญา 21 - 30 ปี
เพศชาย
60 125
เพศหญิง
110 250
อายุ ณ วันทำสัญญา 31 - 35 ปี
เพศชาย
40 110
เพศหญิง
70 215
อายุ ณ วันทำสัญญา 36 - 40 ปี
เพศชาย
40 95
เพศหญิง
55 180
อายุ ณ วันทำสัญญา 41 - 45 ปี
เพศชาย
30 80
เพศหญิง
45 150
อายุ ณ วันทำสัญญา 46 - 50 ปี
เพศชาย
30 65
เพศหญิง
40 125
อายุ ณ วันทำสัญญา 51 - 55 ปี
เพศชาย
20 55
เพศหญิง
30 100
อายุ ณ วันทำสัญญา 56 - 60 ปี
เพศชาย
15 40
เพศหญิง
20 75
อายุ ณ วันทำสัญญา 61 - 65 ปี
เพศชาย
8 25
เพศหญิง
10 40
อายุ ณ วันทำสัญญา 66 - 70 ปี
เพศชาย
8 15
เพศหญิง
8 20
โบนัสสำหรับการชำระเบี้ยประกันภัยหลัก เพื่อความคุ้มครอง

  1. ในช่วง 4 ปีแรกของกรมธรรม์ หาก

  • มีการชำระเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง (RPP) ต่อเนื่องครบทุกงวด
  • ไม่เคยขอลดจำนวนเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง (RPP)
  • ไม่เคยถอนเงินจากการขายคืนหน่วยลงทุนของเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง (RPP)
  • ไม่เคยขาดอายุกรมธรรม์

บริษัทฯจะให้โบนัสพิเศษสำหรับการถือกรมธรรม์ ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 4 : 0.2% ต่อปี ของมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนเฉลี่ย 12 เดือนย้อนหลัง

2.  หากกรมธรรม์ได้รับเงินโบนัสสำหรับการชำระเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครองตามข้อ 1 แล้ว และหาก

  • ใช้สิทธิ์การหยุดพักชำระเบี้ยประกันภัย
  • ถอนเงินจากการขายคืนหน่วยลงทุนของเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง (RPP)

      บริษัทฯจะไม่มีสิทธิได้รับโบนัสสำหรับการชำระเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง ในปีกรมธรรม์นั้น ๆ

ในกรณีที่หลังจากได้รับโบนัสสำหรับการชำระเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครองแล้ว หากมีการขอลดจำนวนเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง สิทธิการได้รับโบนัสสำหรับการชำระเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครองนี้จะสิ้นสุดลง และจะไม่มีสิทธิได้รับโบนัสสำหรับการชำระเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครองนี้อีกต่อไป

ผลประโยชน์ของสัญญาประกันภัย
  • กรณีเสียชีวิต บริษัทฯจะจ่ายผลประโยชน์ตามผลรวม ดังต่อไป
    1) มูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุน ณ วันที่ประเมินราคาซึ่งเป็นวันทำการวันแรกถัดจากวันที่บริษัทฯ ได้รับเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการมรณกรรมครบถ้วน
    2) จำนวนเอาประกันภัย ทั้งนี้ บริษัทฯจะจ่ายเมื่อได้อนุมัติการจ่ายสินไหมมรณกรรมแล้ว
    3) ร้อยละ 5 ของมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนของเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง ณ วันที่ประเมินราคาซึ่งเป็นวันทำการวันแรกถัดจากวันที่บริษัทฯได้รับเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับ การมรณกรรมครบถ้วน ทั้งนี้ บริษัทฯจะจ่ายเมื่อได้อนุมัติการจ่ายสินไหมมรณกรรมแล้ว
  • กรณีอยู่จนถึงวันครบกำหนดสัญญา บริษัทฯจะจ่ายมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่ราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุน ณ วันที่ประเมินราคาซึ่ง เป็นวันทำการวันแรกถัดจากวันครบกำหนดสัญญา
สัญญาเพิ่มเติม

สัญญาเพิ่มเติม แบบชำระค่าการประกันภัยโดยการขายคืนหน่วยลงทุน ที่สามารถเลือกได้

  1. สัญญาเพิ่มเติมทีพีดีลิงค์ (TPDLink UDR) : คุ้มครองทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ซึ่งเกิดจากโรคร้ายแรงหรืออุบัติเหตุเป็นผลทำให้ไม่สามารถทำงานได้
  2. สัญญาเพิ่มเติมคริติคอลลิงค์ (CriticalLink UDR) : คุ้มครองโรคร้ายแรง ทั้งระยะเริ่มต้น และระยะรุนแรง โดยมีความคุ้มครองสูงสุดถึง 200% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  3. สัญญาเพิ่มเติมค่าชดเชยรายวันแคชลิงค์ (CashLink UDR) : คุ้มครองค่าชดเชยรายวันจากการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล สูงสุดถึง 365 วัน ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง
  4. สัญญาเพิ่มเติมค่ารักษาพยาบาลเฮลธ์ลิงค์ (HealthLink UDR) : คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก โดยเบี้ยประกันภัยลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขกรมสรรพากร


เงื่อนไขอื่นๆ
การหยุดชำระเบี้ยกรมธรรม์ (Premium Holiday)
สามารถทำได้หลังชำระเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง (RPP) ครบ 3 ปีกรมธรรม์ ในกรณีที่ผู้ถือกรมธรรม์มิได้ชำระเบี้ยประกันภัยเพื่อความคุ้มครอง(RPP) ตามกำหนดในระยะเวลา 3 ปีกรมธรรม์จะไม่ถือเป็นการหยุดชำระเบี้ยประกันภัยและจะทำให้กรมธรรม์สิ้นผลบังคับโดยทันที เนื่องจากการเวนคืนโดยอัตโนมัติ
สิทธิการมีผลบังคับอย่างต่อเนื่อง (Non-Lapse Guaranteed)
ในระยะเวลา 5 ปีกรมธรรม์ นับจากวันเริ่มมีผลคุ้มครอง ความคุ้มครองชีวิตและความคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมแบบชำระค่าการประกันภัยโดยการขายคืนหน่วยลงทุนทุกฉบับ (ถ้ามี) จะมีผลบังคับอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้มูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนจะมีไม่เพียงพอต่อการชำระค่าธรรมเนียมกรมธรรม์รายเดือนซึ่งถึงกำหนดชำระ ภายใต้เงื่อนไขดังนี้
  • ไม่เคยหยุดพักชำระเบี้ยประกันภัย และได้ชำระเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครองครบตามกำหนดชำระเบี้ยประกันภัยทุกงวดภายในระยะเวลาผ่อนผันชำระเบี้ยประกันภัย และ
  • ไม่เคยมีการถอนเงินจากการขายคืนหน่วยลงทุนของเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง และ
  • ไม่เคยทำการลดจำนวนเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง
โดยค่าธรรมเนียมกรมธรรม์รายเดือนที่ยังชำระไม่ครบ (ถ้ามี) ถือเป็นหนี้สินที่ค้างชำระภายใต้สัญญาประกันภัย

ข้อควรรู้
  • รับประกันภัยโดย บมจ. กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต
  • ธนาคารเป็นเพียงนายหน้าประกันชีวิตผู้ชี้ช่องให้ทำประกันชีวิตเท่านั้น
  • บมจ.ธนาคารกรุงไทย ในฐานะนายหน้านิติบุคคล ใบอนุญาตเลขที่ ช0023/2547
  • ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
  • ผลประโยชน์ ความคุ้มครองและข้อยกเว้น เป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในกรมธรรม์